แนะนำแฟน Final Fantasy คุณควรเล่นภาคไหนก่อนดี

สวัสดีครับเพื่อน ๆ หลายคนก็คงจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเกมฟอร์มยักษ์ที่มีชื่อว่า Final Fantasy กันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย ต้องบอกเลยว่าเกมนี้ก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 37 ปีแล้ว อีกนิดเดียวก็ครบรอบ 40 ปีแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งเกมที่มีอายุยืนยาวขนาดนี้จนปัจจุบันมีภาคหลักออกมาถึง 16 ภาค และมีภาคย่อยไปเป็นสิบ ๆ ภาค ถ้าเพื่อน ๆ เกิดคำถามว่าควรเริ่มจากอะไรก่อนดี ผมคงไม่สามารถลิสต์รายชื่อเกมทั้งหมดของซีรีส์นี้มาให้ได้ แต่ถ้าเกิดว่าเพื่อน ๆ อยากจะลองเล่นดูตามความชอบของเพื่อน ๆ ผมเองก็พอจะแนะนำได้ครับ ถ้าเกิดว่าคุณไม่เคยเล่นซีรีส์นี้มาก่อนเลย คุณควรเริ่มเล่น Final Fantasy ภาคไหนก่อนดี ไปชมกันดีกว่า

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ ผมขอแจ้งก่อนเลยว่า Final Fantasy แต่ละภาคจะไม่มีเนื้อเรื่องที่ต่อกันนะครับ ถ้าจะมีก็มักจะเป็นภาคที่อยู่ในชื่อเลขเดียวกันเท่านั้นถึงจะมีเนื้อเรื่องต่อกันครับ เช่น ภาค 1-2-3 จะเป็นเนื้อเรื่องคนละส่วน เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นที่ภาคไหนมันจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ถ้าเป็นภาค X กับ X-2 จะต่อกันครับ เพราะงั้นคุณควรจะเล่นภาค X ก่อนที่จะเล่น X-2 ถึงจะรู้เรื่องให้มากที่สุดนั่นเอง

ถ้าคุณชอบกราฟิกแบบ Pixel Art และเกม Turn-based แบบ Classic
แนะนำ : FINAL FANTASY PIXEL REMASTER ภาค 1-6

เกม Final Fantasy ที่มีกราฟิกแบบ Pixel Art ปัจจุบันภาคหลักที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการก็จะมี FINAL FANTASY PIXEL REMASTER ซึ่งเพื่อน ๆ จะแยกซื้อเป็นภาค หรือจะซื้อเหมารวม 6 ภาคเลยก็ได้ ซึ่งกราฟิกแบบ Pixel Art ในเกมนี้จะเป็นการปรับความคมชัด และปรับ Resolution เพื่อให้เกมมีความสวยงามมากขึ้น และคุณไม่ต้องห่วงว่าเกมเก่ามันจะดูโบราณจนน่าเบื่อ เพราะเกมในภาค PIXEL REMASTER นี้จะมีระบบเร่ง x2 และ Auto Battle ให้คุณเหมือนเล่นเกมมือถือ มันสะดวกต่อการเล่นมาก ๆ ถ้าคุณเป็นคนที่เลือกเล่นภาคนี้เพราะอยากติดตามเนื้อเรื่องว่าภาคเก่า ๆ มันเป็นยังไง ระบบนี้ก็จะช่วยเร่งให้คุณจบเร็วขึ้นครับ

ถ้าคุณชอบเนื้อเรื่องแนว Sci-fi Fantasy ที่ Lore แน่น ๆ และต่อเนื่องกัน
แนะนำ : Final Fantasy VII (Original) / Remake / Rebirth / Crisis Core / Before Crisis / Dirge of Cerberus

ถ้าคุณชอบแนว Sci-fi Fantasy ล่ะก็ FF7 จะเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคุณ เพราะเนื้อเรื่องจะอยู่บนพื้นฐานความคิดที่จับต้องได้ มีธุรกิจ มีคนรวย คนจน มีการทดลอง มีวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ในขณะเดียวกันก็มีสิ่งเหนือธรรมชาติ ตรรกะแนวคิดของเนื้อเรื่องค่อนข้างจะเข้มข้น ต้องบอกว่าเป็นภาคที่มี Lore แน่นที่สุดของซีรีส์นี้เลยก็ว่าได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีให้เลือกเล่นหลายภาค แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกเล่นภาคไหนก่อน สุดท้ายแล้วเนื้อเรื่องจะมาบรรจบกันเหมือนเดิม คุณจะเล่น 7 Original ก่อนหรือจะเล่น Crisis Core ก่อนก็ได้ ยกเว้นภาคใหม่อย่าง Rebirth นี่อาจจะต้องขอบังคับเล่น Remake ก่อนไม่งั้นจะไม่รู้เรื่องครับ ส่วน Before Crisis กับ Dirge of Cerberus นี่จะเล่นหรือไม่เล่นก็ได้ ถ้าเล่นก็จะครบถ้วนกว่าแแต่มันหาเล่นยากแล้วครับ

ถ้าคุณชอบเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก Romantic บนโลกสุด Fantasy
แนะนำ : Final Fantasy VIII / Final Fantasy X / X-2

สำหรับ 3 ภาคที่แนะนำนี้ จะมีธีมหลักเกี่ยวกับความรักและความ Romantic แน่นอนว่าเนื้อเรื่องในเกมนั้นก็ไม่ได้เน้นแค่อย่างเดียว เพราะมันก็มีส่วนอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น มิตรภาพระหว่างเพื่อน การทหาร การสงคราม การเมือง การเสียสละ เป็นต้น แต่แก่นหลักของเรื่องจะเน้นไปที่ความ Romantic ระหว่างชายหญิงที่มีให้กัน ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อกันและกัน หากคุณชอบคอนเซ็ปต์ที่ว่า “เพราะฉันอยากพบเธออีกครั้ง ฉันจึงทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่ามันจะหลุดโลกแค่ไหนก็ตาม” ผมขอแนะนำทั้ง 3 ภาคนี้เลยครับ เพราะพระเอกและนางเอกของ 3 ภาคนี้ ค่อนข้างจะแสดงออกอย่างชัดเจนไปในไปทางนั้นจริง ๆ

ถ้าคุณชอบธีมแฟนตาซีผจญภัยแบบ “ครบรส” มีทุกอย่างของคำว่าแฟนตาซี
แนะนำ : Final Fantasy IX

ภาคนี้ผมอาจจะขออวยส่วนตัวนิดนึง เพราะเป็นภาคที่ผมชอบมากที่สุด เนื่องจากว่าภาคก่อนหน้ามันค่อนข้างหลุดธีมของความเป็น Final Fantasy ไปเรื่อย ๆ ในภาคที่ 9 นี้ เกมเลยกลับมาสู่ความเป็นไฟนอลแบบดั้งเดิมที่ควรจะเป็น คือไม่ได้เน้นไปที่ด้านใดด้านหนึ่ง แต่จะออกแบบให้มีทุกอย่างพอ ๆ กัน และในแง่ของความแฟนตาซีและการผจญภัย ทั้งชนเผ่าหลากหลายเผ่าพันธุ์ เมืองและหมู่บ้านหลากหลายภูมิภาค ทวีปที่ถูกลืม ปริศนาที่ซุกซ่อน การเมือง การสงคราม ปราสาทกลับหัว จุดกำเนิดโลก โลกคู่ขนาน เมืองที่ไม่มีกลางวัน เส้นทางลับข้ามทวีป หรือการออกสำรวจ World Map ที่เนื้อเรื่องไม่ได้บอกคุณ ยิ่งสำรวจก็ยิ่งเจอความลับมากขึ้นเรื่อย ๆ ความแฟนตาซีที่เรียกได้ว่าเหนือจินตนาการที่มนุษย์สามารถคิดขึ้นได้ ณ ตอนนั้น ถูกรวบรวมไว้ในภาคนี้ทั้งหมด มันคือการผจญภัยที่ครบรส ทั้งความรัก มิตรภาพ ความสิ้นหวัง ความเศร้า ความกลัว ความกังวลและความตื่นเต้นครับ

ถ้าคุณชอบธีมการเมืองและสงครามแบบเข้มข้น
แนะนำ : Final Fantasy XII

ภาคนี้จะเป็นภาคที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองและการสงครามเป็นหลัก จะมีทั้งสงครามกองโจร สงครามยึดอำนาจ สงครามระหว่างประเทศ ทั้งการลักลอบทำภารกิจ หรือการหนีจากการตามล่าของจักรวรรดิ ภาคนี้จะมีเนื้อเรื่องที่เกี่ยวของกับรางวงศ์ เนื้อหาในวัง และกองทัพทหารค่อนข้างเยอะ ถ้าใครที่ชอบแนว ๆ นี้สามารถเล่นได้อย่างไม่หนักหัวและตาม Lore ของเนื้อเรื่องทัน จับผิดเกมการเมืองจากบทพูดของตัวละครได้ ภาคนี้จะเป็นภาคที่เล่นสนุกมาก ๆ ถึงแม้เกมเพลย์จะค่อนข้างแตกต่างไปจากเดิมมาก เพราะเป็นภาคทดลองใช้ระบบการเล่นใหม่ ๆ ที่จะไม่ใช่ Turn-based แบบดั้งเดิมอีกต่อไปแล้ว ถ้าคุณอยากลองระบบเกมเพลย์ที่มีแค่ครั้งเดียวในเกมซีรีส์ Final Fantasy ก็ลองได้ครับ ส่วนตัวผมมองว่ามันไม่ได้แย่อะไร แค่มันไม่เหมือนเดิมเท่านั้นเอง

ถ้าคุณชอบการหาความหมายของคำว่า “ครอบครัว” และมีตัวเอกหญิงที่เท่ที่สุดในซีรีส์
แนะนำ : Final Fantasy XIII / XIII-2 / Lightning Return

หลายคนอาจไม่เคยเล่นภาค 13 แต่เชื่อว่าถ้าใครเป็นแแฟนเกม Final Fantasy ยังไงก็ต้องรู้จักตัวละครหญิงผมสีชมพูที่ชื่อว่า Lightning ซึ่งเธอจะเป็นตัวดำเนินเรื่องหลักในภาค 13 นี้ ยกเว้น XIII-2 ที่จะได้เล่นน้องสาวของเธอแทน แต่อย่างไรก็ตามเนื้อหาของภาค 13 นี้จะเน้นไปในส่วนของการแบ่งแยกเผ่าพันธุ์ ใครที่มีเผ่าพันธุ์แตกต่างจากคนอื่นก็จะถูกตีตราและถูกตามล่า ในขณะเดียวกันกลุ่มคนที่ถูกตีตราเหมือนกันกลับมารวมตัวกันด้วยเหตุผลของตัวเอง หลังจากที่ช่วยกันหลบหนีมาเรื่อย ๆ กลุ่มคนที่อยู่ร่วมกันด้วยเหตุผลก็กลายมาเป็นครอบครัวกันแบบไม่รู้ตัว ความผูกพันที่ได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันผ่านความยากลำบากมาเรื่อย ๆ ทำให้พวกเขาแน่นแฟ้นมากกว่าที่จะเป็นเพียงคนรู้จัก โดยมี Lightning เป็นศูนย์กลางของกลุ่ม ถ้าหากว่าคุณชอบอะไรทำนองนี้ ก็แนะนำภาค 13 ได้เลยครับ แถมเล่นต่อได้อีกตั้ง 2 ภาคด้วย

ถ้าคุณชอบเกมแนว Action แต่อยากเล่นซีรีส์ Final Fantasy
แนะนำ : Final Fantasy XV / Final Fantasy XVI / Stranger of Paradise / Final Fantasy Type-0

จริง ๆ ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้น ทั้ง 2 ภาคนี้ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากภาคเก่า ๆ มากนัก คอนเซ็ปต์หลัก ๆ ยังเป็นการเมือง การสงคราม และการผจญภัยเหมือนกัน แต่ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนตั้งแต่ภาค 15 เป็นต้นไปก็คือเกมเพลย์ ที่เปลี่ยนจากแนว Turn-based เป็นแนว Action เน้น ๆ จากเกมที่ต้องรอเทิร์น คุณสามารถโจมตีเมื่อไหร่ก็ได้ หลบได้ แพรี่ได้ ซึ่งฉากต่อสู้จะอลังการงานสร้างและมันส์ขึ้นหลายขุม แน่นอนว่าแฟนเกมเก่า ๆ ที่เล่น Turn-based มาอาจจะไม่แฮปปี้เท่าไหร่นัก แต่ถ้าคุณเป็นผู้เล่นใหม่ที่อยากจะก้าวเข้าสู่ซีรีส์นี้ แล้วเล่นแนว Action มาก่อน ผมขอแนะนำภาค 15 กับ 16 ครับ มันจะแคสชวลกับคุณมากกว่าการเปลี่ยนแนวไปเล่น Turn-based ทั้ง 2 ภาคนี้จะเป็นมิตรกับคุณมากกว่าครับ ส่วนอีกภาคคือ Stranger of Paradise จะเป็น Action เหมือนกันแต่จะมีความยากขึ้นกว่ามาก พูดง่าย ๆ คือเป็นแนว Dark Soul นั่นเอง และสุดท้ายภาค Type-0 จะเป็นภาคที่มีความ RPG ขึ้นมานิดหน่อยแต่จะเป็น Action ที่เน้นเปลี่ยนตัวในทีมได้ครับ

ถ้าคุณชอบเกมแนว MMORPG เล่นออนไลน์กับผู้เล่นอื่น
แนะนำ : Final Fantasy XI / Final Fantasy XIV

Final Fantasy ก็มีเกมที่เป็นภาค Online อยู่เหมือนกัน ซึ่งจะเป็นเกมแนว MMORPG เก็บเลเวล เดินเควสต์ ซึ่งเอาจริง ๆ ผมจะไม่ค่อยแนะนำภาค 11 สักเท่าไหร่เพราะภาคที่ได้รับความนิยมจริง ๆ จะเป็นภาค 14 มากกว่า เพราะมันใหม่กว่าและคอนเทนต์มันสนุกกว่ามาก แต่ถ้าคุณชอบกราฟิกสไตล์เกมยุค 2000 ก็อีกเรื่อง แต่สำหรับ FF14 นั้นถือว่าเป็นเกมที่มีระบบสังคมดีที่สุดในโลก ผู้เล่นส่วนใหญ่จะมีมารยาทและเป็นมิตรกับผู้เล่นใหม่เสมอ ซึ่งจะแตกต่างจากเกม MMORPG อื่น ๆ ที่ผู้เล่นใหม่ไม่มีทางตามผู้เล่นเก่าทัน ถ้าเกิดว่าเกมมันเปิดมาเป็นสิบปีแล้ว แต่สำหรับ FF14 นั้นตัวเกมจะมีระบบให้ผู้เล่นเก่าลงมาช่วยผู้เล่นใหม่อยู่เสมอ และผู้เล่นใหม่สามารถร่วมเล่นกับผู้เล่นเก่าได้ตลอดเวลา ทำให้เกมมันอมตะและไม่ตายง่าย ๆ เสียอย่างเดียวเกมซีรีส์นี้ไม่ฟรีและต้องเติม Air Time ในการเล่นเป็นรายเดือนครับ

ถ้าคุณชอบเกมแนว Turn-based Strategy (TBS)
แนะนำ : Final Fantasy Tactic / Final Fantasy Tactic Advance 1-2

เกมนี้เป็นเกมเก่าตั้งแต่สมัย PS1 แต่บอกเลยว่าเกมนี้เป็นต้นแบบให้กับเกม TBS ใหม่ ๆ หลายเกมในปัจจุบัน ทั้งระบบพื้นฐานของการต่อสู้ หรือระบบ Job Class ที่สามารถเปลี่ยนอาชีพให้เลือกเล่นเป็นสิบ ๆ คลาส ถ้าเพื่อน ๆ เป็นคนชอบเกม Turn-based ที่มีลักษณะการเดินเป็นช่อง ๆ เหมือนตารางหมากรุก ซึ่งคุณอาจจะไปเล่นเกมอื่น ๆ มา เช่น Super Robot Wars, Disgaea, Fire Emblem เป็นต้น คุณสามารถเริ่มต้นเข้าสู่ซีรีส์ไฟนอลได้จาก Final Fantasy Tactic เลยครับ ซึ่งมีขายใน iOS และ Android นะ ส่วนภาค Advance 1-2 จะเป็นภาคใน Gameboy จะหาได้ยากแล้วล่ะครับ

ถ้าคุณชอบตัวละครน่ารัก ๆ เล่นแล้วใจฟูมีความสุข
แนะนำ : World of Final Fantasy

เกมนี้จะเป็นภาค Spin Off ที่มีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเอง เน้นความแฟนตาซีออกผจญภัยแบบเด็ก ๆ โดยจะมีตัวละครต่าง ๆ ในเกม Final Fantasy ภาคเก่า ๆ มารวมกันอยู่ในนี้จำนวนมาก ซึ่งธีมเกมจะเต็มไปด้วยความน่ารัก สดใส มอนสเตอร์และตัวละครต่าง ๆ จะมีความตะมุตะมิ และเกมเพลย์จะเป็นแนว Turn-based ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง คือสามารถจับมอนสเตอร์มาเป็นพรรคพวกได้ และนำมาประกอบร่างให้แข็งแกร่งขึ้นได้ด้วย ถ้าคุณอยากได้ความน่ารักสดใส ฮีลใจในวันแย่ ๆ World of Final Fantasy จะช่วยฮีลคุณได้เยอะมากจริง ๆ ครับ เพราะความเครียดภายในเกมนี้แทบจะไม่มีให้เห็นเลย

ถ้าคุณชอบเกม Gacha และอยากเล่นในมือถือ
แนะนำ : Final Fantasy Brave Exvius / War of The Visions / Ever Crisis

จริง ๆ เกมกาชาในมือถือของซีรีส์ Final Fantasy นั้นมีมากมายหลายเกมเลย แต่ที่ยังรอดอยู่และผมมองว่ามันเป็นเกมที่แข็งแรงประมาณนึงแล้ว ถ้าเล่นตอนนี้แล้วน่าจะเล่นต่อได้อีกสักพักใหญ่ ก็น่าจะเป็น 3 เกมที่กล่าวมาครับ โดย Brave Exvius จะเป็นแนว Turn-based 2D แบบเกมมือถือยุคเก่าหน่อย ส่วน War of The Visions จะเป็นแนว TBS คล้ายกับ FF Tactic ส่วนในภาคของ Ever Crisis จะเบสมาจาก FF7 Remake เป็นแนว Turn-based แต่จะมีกราฟิกแบบ 3D ที่สวยงามอลังการกว่ามาก แต่ทั้ง 3 เกมจะมีระบบ Gacha เหมือนกัน แตกต่างกันที่ระบบการเล่นและเนื้อเรื่องในแต่ละภาคจะไม่เหมือนกันครับ

ก็แนะนำประมาณนี้ละกันครับ สำหรับใครที่ได้ยินชื่อเสียงของเกม Final Fantasy มาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ได้ลองเล่นสักที กำลังหาโอกาสเปิดใจลองเล่นก็ลองหาดูตามนี้ได้เลยครับ ผมเองก็เล่นมาแล้วทุกภาคเพราะเป็นติ่งไฟนอล อยากจะแนะนำสิ่งดี ๆ ให้กับผู้อ่าน แต่ก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่าเกมไฟนอลไม่ได้ดีทุกเกม บางเกมก็เหมือนเกมสร้างตามกระแสทุนนิยมแล้วสุดท้ายก็พังไม่เป็นท่า หาเล่นได้ตามอัธยาศัยนะครับ