5 เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับสร้างทีมใน Hello Hero: All Stars

หลังจากบทความก่อน This is Game Thailand ได้นำเสนอบทความ 5 เทคนิคควรรู้สำหรับผู้เริ่มเล่น Hello Hero: All Stars ไปให้อ่านกันเพื่อให้ผู้เล่นหน้าใหม่ มือใหม่ทั้งหลาย ได้ทำความรู้จักกับพื้นฐานภายในเกม ในตอนนี้อาจมีผู้เล่นหลายคนที่เมื่อเล่นไปสักพักหนึ่งอาจประสบกับปัญหาต่าง ๆ อาทิ ปราบอบสไม่ได้, หาฮีโร่ Rank สูง ๆ ไม่ได้ หรือ หาอาวุธดี ๆ ไม่ได้ บทความในวันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับง่าย ๆ แต่ทำได้จริง (แบบฟรีอีกต่างหาก!) ให้ได้อ่านกันค่ะ มาเริ่มที่ข้อแรกเลย

1. การสร้างทีมที่ดี ทำอย่างไร ควรมีคลาสใดบ้าง?

จากบทความก่อน เราได้ปูพื้นไปแล้วว่า คลาสภายในเกมนั้น มีด้วยกันทั้งหมด 4 คลาส ประกอบไปด้วย สาย DPS ทำ Damage, สาย Tank ป้องกัน, สาย Support เพิ่ม/ลด บัฟ และสุดท้ายสาย Healer ในการรักษาปาร์ตี้ในทีม ในเกม Hello Hero: All Stars คุณสามารถจัดวางเหล่าฮีโร่ในการออกไปสู้รบได้ 5 ตำแหน่งด้วยกัน ในช่วงต้นของเกมที่กิโลเมตรยังต่ำ ตำแหน่งอาจไม่ได้มีความสำคัญใด ๆ มากนัก แม้คุณจะไม่มี Tank แม้แต่ตัวเดียว หรือจะไม่มี Healer สักตัวก็ไม่เป็นไร ทว่าเมื่อผ่านไปสักพัก คุณจะเริ่มเจอบอสที่โหดขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งต้องมานั่งวาง Position กันใหม่ ว่าจะให้ผ่านยังไงดี คำตอบในข้อนี้อาจไม่คำตอบที่ตายตัวว่า ต้องมี Tank หรือ DPS กี่ตัวในทีม เพราะขึ้นอยู่กับระยะทางว่าคุณไปไกลแค่ไหน และบอสเป็นแบบใด แต่หลัก ๆ เลยหากคุณติดบอสตัวใด แปลว่าในตอนนั้น การป้องกันและการโจมตีของคุณไม่มากพอ

ตัวอย่างนะคะ ถ้าในตอนนั้นคุณไม่มี Tank คุณควรใส่ Tank เพิ่มลงไป และหากมี Tank แล้ว 1 ตัว กรุณาใส่เพิ่มไปอีก 1 ตัวได้เลย หลายครั้งที่ผู้เขียนก็ติดเช่นกัน การแก้ปัญหาคืออัพตัว Tank ซึ่งจะเป็นหน้าที่สำคัญมากในการป้องกันรับการโจมตีจากบอสแล้วให้เพื่อนในตี้สู้และฮีลไปเรื่อย ๆ จนเราผ่านบอสตัวนั้นได้ ดังนั้นสำหรับคำตอบในข้อนี้คือ Tank มีความสำคัญมาก สามารถใส่ได้มากกว่า 1 ตัว แต่ถ้าคุณไม่มี Tank หรือยังเปิด Tank ดี ๆ ไม่ได้ คุณสามารถใส่ DPS หลายตัวเพื่อให้รีบทำ Damage และจบเกมได้ไวก็ได้เช่นกัน อีกสายคือ Support ที่บางคนอาจคิดว่าไม่สำคัญ แต่ Support มีบัฟในการเพิ่มค่า Attack ให้ตี้ได้ บางทีการเอา DPS Rank ต่ำออกแล้วใส่ Support Rank สูงกว่าอาจสามารถทำให้คุณผ่านบอสได้ง่ายกว่าที่คุณคิดเสียอีก (อันนี้ลองใช้กับตัวมาแล้วเช่นกัน)

2. Heroes มีแต่ Rank ต่ำ (C, B, A) ทำยังไงให้เปิดได้ Rank สูง?

คำถามข้อนี้จะขอตอบจากประสบการณ์ของตัวเองที่เล่นแบบ Free 2 Play เพียว ๆ ไม่ได้เติมเงินแม้แต่บาทเดียวนะคะ ในตอนเริ่มต้นเกมจะได้เพชรมาประมาณหนึ่ง (พวก Tutorial ต่าง ๆ) และเราจะได้เพชรจากวิธีอื่น ๆ อีกมากมายที่เคยบอกไปในบทความก่อนแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากการเล่นเกมนี้ล่ะ ทำภารกิจ เดินทางจำนวนกิโลเมตรตามกำหนด (ได้เพชร 600 ทุก ๆ 1,000 กิโลเมตร) เป็นต้น ทว่าสำหรับใครที่ในตอนนี้มี Heroes Rank ไม่ค่อยสูง เช่น ยังหา Heroes เกรด S ดี ๆ ของบางคลาสไม่ได้ หรือ อยากได้ Rank SS ต้องทำอย่างไร? คำตอบอาจจะดูวกวนไปสักนิด แต่ว่ามันใช้ได้จริงซึ่งก็คือ “แค่เล่นเกม” เท่านี้จริง ๆ ค่ะ ในกรณีคุณเป็นผู้เล่นสาย Free 2 Play แบบผู้เขียน การเล่นเกมนี่ล่ะที่จะทำให้คุณได้ Heroes Rank สูงขึ้นได้ แต่มันอาจจะต้องใช้เวลาอยู่บ้าง อาทิ ในกรณีที่คุณ Log In ครบ 7 วันไปแล้ว (ซึ่งจะได้เพชรมาจำนวหนึ่งและของแถมพวก Heroes เกรดดี และอาวุธเกรดดี) หลังจากจบ 7 วัน Log In คุณจะได้เพชรเพิ่มทุกวัน วันละ 300 เม็ด! ซึ่งก็คือว่าเยอะมาก เพราะมันแปลว่าคุณจะเปิด Heroes ได้ทุกวันแน่นอนการันตีวันละ 1 ตัว

สำหรับการเปิด Heroes จะมีค่า Mileage ที่หากคุณสะสมครบตามกำหนดจะสามารถเปิด Heroes Rank สูงได้ฟรี เช่น 20 ครั้งเปิด S ได้ (แบบเลือกคลาสได้ด้วยนะ แปลว่าถ้าตอนนั้นถ้าคุณขาดคลาสใดก็คามคุณจะเลือกได้เลยแบบไม่ต้องพึ่งดวง หรือ 100 ครั้งได้ SS แบบการันตีเช่นกัน) ในทุก 1,000 กิโลเมตร นอกจากเพชรแล้วคุณจะยังได้ Heroes และ อาวุธ Rank สูงเช่นกัน สิ่งที่แนะนำคือให้เล่นโหมดพิเศษอย่างโหมดวิจัยและการปราบบอสพิเศษทุกวัน เพราะมันจะการันตีเพชรให้อย่างน้อย ๆ เกิน 200 เม็ด / วัน นี่ยังไม่นับการได้เพชรจากพวก Collectable อาวุธและฮีโร่อีกนะ แปลว่าใน 1 วันคุณจะเปิดได้มากกว่า 2 ครั้ง ถ้านับจำนวนกิโลเมตร 1,000 กิโลเมตรที่ได้ 600 เม็ดอีกมันก็จะไม่ยากในการเปิด 10 ครั้ง (1,800 เม็ด) ซึ่งเกมทำบาลานซ์สมดุลมาค่อนข้างดี เพราะคุณจะปลดล็อคสิ่งต่าง ๆ ได้โดยเพียงแค่เมื่อเล่นเกมเท่านั้นเอง ง่ายแค่นั้นเลย

3. อาวุธ Rank ดี ๆ หาได้จากไหน?

กรณีของอาวุธ ชุดเกราะ และ อุปกรณ์เสิรมภายในเกมนั้นจะแตกต่างจากเหล่าฮีโร่ เพราะมันไม่มีให้เปิด ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องดีนะ เพราะถ้าคุณต้องมานั่งเก็บเพชรเพื่อเปิดอาวุธอีกมันจะเหนื่อยมาก ๆ ทางออกสำหรับการได้รับอาวุธ Rank สูงค่อนข้างง่ายมาก เพราะคุณสามารถอัพเกรดอาวุธ Rank ต่ำให้เป็น Rank สูงได้นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น C, B, A สามารถอัพให้สูงขึ้นได้ทั้งหมด ตัวอย่างดูจากภาพด้านบนประกอบ การอัพอาวุธทำได้โดยคลิ๊กที่อาวุธหรืออุปกรณ์นั้น ๆ แล้วเลือก “ยกระดับ” ซึ่งจะใช้ค่า Gear Point ในการอัพ (ได้มาจากการเข้าเล่นเกมนี่ล่ะ ทุกวันแค่ Log in ก็จะได้แล้ว และได้จากการเดินทางจำนวนกิโลเมตรที่สูงขึ้น ปราบบอส etc) เมื่อยกระดับถึง Level 30 แล้ว คุณจะต้องทำการตีบวกให้ถึงขั้น 5 เสียก่อน จึงจะทำการ “อัพเกรด” อาวุธหรืออุปกรณ์นั้น ๆ ให้กลายเป็น Rank ที่สูงกว่าเดิมได้ C -> B -> A -> S -> SS เป็นต้น

คุณสามารถได้ค่า Gear Point เพิ่มจากการรื้ออาวุธที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งหากคุณเล่นโหมดวิจัยแล้วส่งทีมฮีโร่ไปสำรวจคุณจะได้อาวุธจำนวนมหาสาลทุกวัน และนำของ Rank ต่ำมาย่อยเพื่อให้กลายเป็น Gear Point ไปอัพของดี ๆ แทนได้ จุดนี้ไม่ต้องเพิ่งดวงหรือเพชรแต่อย่างใด สามารถอัพไปจน Rank สูงได้ด้วย Gear Point เพียว ๆ เลย ซึ่งต้องบอกว่าบางทีเวลาติดบอส นอกจากเหล่าฮีโร่แล้ว อาวุธนี่แหละคือตัวแปลสำคัญที่จะทำให้คุณผ่านบอสไปได้ เพราะอาวุธ Rank A กับ S มีค่าโจมตี/ป้องกัน/etc ที่ต่างกันแบบหลายเท่า เช่น ดาบ Rank A โจมตีสูงสุด 190 มีบัฟเพิ่มพลังโจมตี 2.2% แต่ดาบ Rank S มีค่าโจมตี 270 และมีบัฟโจมตี 5%! นี่ยังไม่รวมว่าถ้าคุณใส่อาวุธแบบเป็น Set คุณจะได้บัฟพิเศษของ Set นั้น ๆ เพิ่มอีก ซึ่งจะทำให้การผ่านบอสเป็นไปได้ง่ายขึ้นเยอะ

4. Position และ Skill ของฮีโร่ที่ไม่ควรมองข้าม

นอกจากคลาสทั้ง 4 ที่มีความสำคัญในการจะผ่านหรือปราบบอสสักตัวแล้ว ยังมีอีก 2 เรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือเรื่องของ Position ของฮีโร่และ Skill นั่นเอง ในเกม Hello Hero: All Stars นั้น ฮีโร่แต่ละตัวจะมี Position ในการยืนไม่เหมือนกัน กล่าวคือ แม้ว่าฮีโร่ตัวนั้นจะเป็นคลาส DPS แต่เขาหรือเธอจะมีตำแหน่งในการยืนไม่เหมือนกัน ถ้าสมมติตัวนั้นเป็นสายธนู/ปืน ฮีโร่ตัวนั้นจะยืนอยู่แถวหลัง แต่หากเป็นสายดาบ/ค้อน/หรืออาวุธประชิดอื่น ๆ เขาหรือเธอจะยืนอยู่แถวหน้า อันที่จริงไม่ใช่แค่สาย DPS เพราะแม้กระทั่งสาย Healer เองก็มีตำแหน่งยืนไม่เหมือนกัน บางตัวแม้จะเป็นสาย Healer แต่ยืนแถวหน้าก็มี ดังนั้น นอกจากคุณจะต้องคำนึงเรื่องคลาสแล้ว เวลาติดบอสตัวไหน ให้หันกลับมาดู Position ที่ยืนของฮีโร่แต่ละตัวด้วย อันนี้ผู้เขียนประสบกับตัวเองมาแล้วค่ะ เช่น Rank S คลาสเดียวกัน แต่ตำแหน่งยืนต่างกัน อาจะทำให้คุณปราบบอสบางตัวได้หรือพ่ายแพ้ก็ย่อมได้

หากคุณมี DPS 3 ตัว จะเป็นการดีกว่าที่ควรจะมี DPS ระยะไกลอยู่แถวหลัง อีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามคือเรื่องของ Skill ฮีโร่คลาสเดียวกันก็สามารถมี Skill ต่างกันได้ เช่น DPS บางตัวมีสกิล AOE โจมตีหมู่ ซึ่งจะมีประโยชน์มาก (แม้จะไม่แรงเท่าโจมตีเดียว) ในบางครั้งเราต้องผสมฮีโร่ในปาร์ตี้ให้มีสกิลหลากหลาย เช่น ตัวนี้โจมตีหมู่ได้ ตัวนี้โจมตีระยะไกลได้ ตัวนี้โจมตีประชิดตัวแรงได้ เป็นต้น บางตัวมี Skill ทำ Damage แบบติด CC เช่น เผาไหม้ ซึ่งจะทำ Damage ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ระยะเวลาหนึ่ง ก็มีประโยชน์มากเช่นกัน ซึ่งเรื่องเล็ก ๆ พวกนี้สำคัญมากพอที่จะทำให้คุณปราบบอสที่ติดได้เลยทีเดียว

5. อาวุธเองก็มีคลาสย่อยด้วยนะ!

สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบมาก ๆ ในเกม Hello Hero: All Stars คือ ความซับซ้อนประมาณหนึ่งของระบบการต่อสู้ ที่แม้ว่าตัวเองจะแปะป้ายว่าเป็นเกมแนว Idle ตะลุยไปข้างหน้า ทว่าระบบหลายอย่างนั้นมีความท้าทายและลึกพอสมควร เวลาคุณเล่นไประยะหนึ่งแล้ว อาวุธภายในเกมก็จะมีการแบ่ง Set ว่า Set นี้สำหรับโจมตี, สำหรับป้องกัน, สำหรับเพิ่ม HP (อ่านบทความเก่าประกอบนะคะ หากใครจำไม่ได้) ทว่ามันไม่จบแค่นั้น เพราะแม้แต่อาวุธใน Set เดียวก็จะมีค่าพิเศษที่จะให้บัฟไม่เหมือนกัน เพื่อน ๆ ลองดูภาพบนประกอบ สัญลักษณ์เล็ก ๆ ที่เป็นรูปดาบ, รูปหัวใจ, รูปรองเท้า etc พวกนี้คือ Sub-Class ของอาวุธและอุปกรณ์นั้น ๆ แปลว่า สมมติว่าดาบของคุณมีสัญลักษณ์รูปหัวใจแปะไว้ เท่ากับว่าบัฟที่คุณจะได้นอกจากค่า Damage ในการโจมตีแล้ว คุณยังจะได้บัฟเพิ่ม HP อีกด้วย

กลับกันถ้ามันเป็นรูปรองเท้าคุณจะได้บัฟเพิ่มค่าพลังในการหลบหลีก รูปโล่เพิ่มบัฟค่าป้องกัน เป็นต้น กรณีที่อาวุธชนิดนั้น Rank สูงขึ้น เช่น S คุณจะมีบัฟได้มากกว่า 1 ค่า (มีรูปหัวใจและดาบก็จะมี 2 บัฟ เป็นต้น) ซึ่งมันสร้างความหลากหลายให้ฮีโร่ เพราะไม่จำเป็นว่าฮีโร่คลาส DPS จะต้องมีค่าโจมตีสูงเพียงอย่างเดียว เพราะอาวุธสามารถเพิ่มค่า HP, ป้องกันให้ฮีโร่ได้ทุกคลาสนั่นเอง

Hello Hero : All Star กับ 5 เหตุผลที่ไม่ควรพลาดเกมนี้

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเคล็ดลับ 5 ข้อที่ทำได้แบบง่ายๆ ไม่ยากเลยที่จะทำให้คุณได้ตัวละคร/อาวุธ Rank สูงขึ้น และปราบบอสที่ติดได้ง่ายยิ่งขึ้น สำหรับเกม Hello Hero: All Stars แม้จะเป็นเกมแนว Idle ทว่ามันก็มีความสนุกที่ท้าทายมากมายรอคุณอยู่ และแม้เพื่อน ๆ จะเป็นสาย Free 2 Play ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเล่นเกมนี้ได้ยากลำบาก เพราะว่าเกมนี้ไม่ได้เน้น PvP จ๋า ดังนั้นความสนุกและความท้าทายจะเป็นการแข่งขันกับตัวเราเองมากกว่า สำหรับบทความหน้าจะเป็นอะไรนั้น รอติดตามกันได้เลย หรือใครมีคำถามอะไรก็ทิ้งไว้ใน Comment ได้เช่นกันค่ะ

ดาวน์โหลดเกม