6 หมัดเด็ดที่ทำให้เกมอินดี้ภาพ Pixel 2D สามารถแย่งฐานแฟนจากเกม AAA ได้
ภาพก็ไม่ได้สวยเท่าเกม AAA แต่ทำไมถึงเป็นแนวเกมที่มีฐานแฟนที่เหนียวแน่นได้
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกท่าน วงการเกมและอุตสาหกรรมเกมนั้นก็มีเม็ดเงินหมุนเวียนเยอะพอสมควรนะครับ ยิ่งบริษัทใหญ่ ๆ ที่ผลิตเกมดัง ๆ ออกมาขายทั่วโลกก็มักจะเป็นเกมแนว 3D ฟอร์มยักษ์ หรือเกมเมอร์อย่างเราจะเรียกติดปากว่าเกม AAA โดยราคาเฉลี่ยก็จะอยู่ราว ๆ 1,300-2,500 ก็แล้วแต่เกมแล้วแต่ค่ายจะตั้งราคานะครับ แต่ก็มีเกมอีกแนวหนึ่งครับที่เป็นขั้วตรงข้ามของเกม AAA เลยก็คือเกมอินดี้ 2D Pixel Art ทั้งภาพกราฟิกและราคาสวนทางกับเกม AAA ทั้งหมด แต่ทำไมเกมแนวนี้ถึงยังมีคนเล่น มีฐานแฟนที่เหนียวแน่น และยังถือว่าเป็นเกมกระแสใหญ่ที่สร้างไวรัลให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง มาดูกันดีกว่าว่าเกมแนวนี้่มีหมัดเด็ดอะไรบ้าง
6 หมัดเด็ดของเกมอินดี้ภาพ Pixel 2D
1. ผู้พัฒนาน้อย ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงกว่า กล้าทำอะไรแปลกใหม่มากกว่า
เกมอินดี้ส่วนใหญ่นั้นมักจะเกิดจากทีมงานเพียงไม่กี่คน หรือไม่ก็เป็นผู้พัฒนาคนเดียวผลิตทั้งเกม โดยอาจจะเกิดจากการใช้ทุนส่วนตัวของเขาเองเพื่อสนองนีด หรือเป็นการระดมทุนจาก Kickstarter ที่ผู้พัฒนาจะเอาไอเดียไปขายแล้วระดมทุนจากออนไลน์มาทำเกมของตัวเอง แน่นอนว่าถ้าไอเดียไม่ปัง ไอเดียดูจืด หรือไปซ้ำกับเกมอื่น ๆ ที่เคยวางจำหน่ายอยู่ก่อนแล้ว เกม ๆ นั้นก็จะไม่ได้รับการสนับสนุนครับ ดังนั้นเกมที่มาจาก Kickstarter เลยเป็นไอเดียที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนนักพัฒนาท่านใดที่ใช้ทุนของตัวเองสร้างก็จะมีความยืดหยุ่นสูง ทำตามใจตัวเองได้ ไม่ทำตามค่านิยมของตลาด ถ้าอันไหนรู้สึกว่ามันไม่ดีหรือมีคำเรียกร้องจากแฟนเกมก็สามารถเปลี่ยนมันได้ง่าย ๆ ณ เดี๋ยวนั้น ซึ่งกรณีต่าง ๆ ที่ว่ามานี้เกม AAA ที่มีบริษัทมีนายทุนหนุนหลังอาจไม่ได้มีความคล่องตัวขนาดนี้ครับ
2. กราฟิก 2D Pixel Art ดูเป็นงานศิลปะและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
งานศิลปะเป็นเรื่องของรสนิยม และใช่ครับ ผู้เล่นอย่างเราก็มีทั้งคนที่ชอบ 3D และ 2D พอ ๆ กัน ในขณะที่นวัตกรรมเกมถูกพัฒนาไปในทิศทางที่ว่าทำยังไงภาพกราฟิกแบบ 3D ถึงจะสมจริงมากที่สุด สวยงามอลังการมากที่สุด ภาพกราฟิกแบบ 2D กลับมุ่งเน้นไปที่ทำยังไงมันถึงจะมีเอกลักษณ์มากที่สุด อยู่ในจินตนาการให้ได้มากที่สุด และสวยงามดั่งงานศิลปะมากที่สุด แน่นอนว่าคนชอบเกมที่มันสมจริงก็มีจำนวนมากบนโลก แต่คนที่ชอบงานวินเทจอย่าง Pixel Art ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน ความสุขในการเสพภาพกราฟิกของเกมเมอร์นั้นมีมากมายหลายรูปแบบ และเพราะว่าคนที่ชอบ 2D Pixel Art นั้นมีจำนวนมากบนโลกใบนี้ เกม 2D จึงขายได้จำนวนไม่น้อยเลยครับ
3. ตัวเกมเน้นไปที่การเล่าเรื่อง เนื้อเรื่องในเกมจึงโดดเด่นและน่าติดตาม
ทีมพัฒนาที่ผลิตเกม 2D นั้น เขารู้จุดอ่อนของเขาดีครับว่าภาพกราฟิกที่เขาเลือกใช้นั้นไม่สามารถไปเทียบชั้นกับเกม 3D AAA ที่มีความอลังการและสมจริงขนาดนั้นได้ ซึ่งกราฟิกเป็นสิ่งแรกที่ผู้เล่นมองเห็นได้ด้วยตา ทำให้แว๊บแรกนั้นผู้เล่นที่ไม่ได้คิดอะไรมักจะมองว่าเกมที่ภาพสวยกว่าคิอเกมที่ดีกว่า ผู้พัฒนาจึงตั้งใจที่จะใส่ไม้เด็ดด้านเนื้อเรื่องลงไปในเกม ที่เป็นเนื้อเรื่องเฉพาะทาง ไม่เหมือนกัน ตีตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือแม้แต่การสะท้อนความรู้สึกส่วนลึกในจิตใจของคน เวลาที่ผู้เล่นเล่นเกมของเขา จะได้รู้สึกอินและประทับใจเวลาที่ได้สัมผัสกับเนื้อเรื่อง ยิ่งใช้เวลากับมันมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมูฟออนออกมาได้ยาก นอกจากมันจะโดนใจแล้วยังมีความน่าติดตามทำให้ไม่สามารถเลิกเล่นได้ง่าย ๆ อีกด้วย ทำให้เกม 2D หลายเกมสามารถดึงผู้เล่นให้อยู่ในเกมได้ด้วยความรู้สึกที่อยากเล่น ไม่ใช่การเอาคอนเทนต์มาดึงให้ผู้เล่นไม่ออกจากเกมครับ
4. เกมเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้คิดมากกว่าเล่นโดยสัญชาตญาณ
อย่างที่กล่าวไปในข้อก่อนหน้านี้นะครับว่าผู้พัฒนาเกม 2D นั้นเขารู้ข้อแตกต่างระหว่างเกม 2D และเกม 3D AAA ดี นอกจากผู้พัฒนาจะเน้นไปที่เนื้อเรื่องแล้ว พวกเขายังเน้นพัฒนาระบบเกมเพลย์ภายในเกมให้มีความน่าสนใจมากกว่าเกม AAA อื่น ๆ ในขณะที่เกม AAA จะต้องเป็นแนวเกมที่มีสถิติยืนยันแล้วว่าทำแบบนี้แล้วขายได้ ทำแบบนี้แล้วผู้เล่นจะชอบ แต่เกม 2D อินดี้นั้นคิดแบบนั้นไม่ได้ครับ เนื่องจากว่าต้นทุนในการพัฒนาและการโฆษณานั้นแตกต่างกันมาก จึงมุ่งเน้นไปที่ทำเกมให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกแล้วแชร์กันปากต่อปากดีกว่า โดยเกมเพลย์ส่วนใหญ่ของเกม 2D อินดี้นะครับ ก็มักจะเน้นไปให้ผู้เล่นได้มีส่วนร่วมกับเนื้อเรื่อง ให้ผู้เล่นได้คิด ให้ผู้เล่นได้เป็นคนเลือกวิธีเล่นด้วยตัวเอง ไม่บังคับว่าจะต้องเล่นแบบใดแบบหนึ่ง แล้วผู้เล่นก็จะรู้สึกผูกพันกับเกมมากกว่าเกม AAA ครับ
5. กินสเปคเครื่องไม่แรง คอมเบา ๆ ส่วนใหญ่ก็เล่นได้
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ชัดเจนกันอยู่แล้ว ยิ่งภาพสวย อลังการ สมจริงมากเท่าไหร่ สเปคของคอมที่ใช้เล่นก็ต้องแรงขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่เกม 2D นั้นกราฟิกไม่ได้หนักเครื่องขนาดนั้น อาจจะมีบ้างบางเกมที่พยายามทำให้มันสวย แต่มันก็ไม่ได้หนักเท่าเกม AAA แน่ ๆ ครับ ในขณะที่เกม AAA ส่วนใหญ่ในเจนปัจจุบันอาจจะต้องเริ่มที่ RTX 4060 หรือเทียบเท่าเป็นต้นไป เกม 2D อินดี้นั้นบางเกมสามารถเล่นได้โดยที่ไม่ต้องมีการ์ดจอซะด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็ทำให้สะดวกกับแฟนเกม 2D ครับ ที่ไม่ต้องลงทุนเรื่องของคอมมาก และเข้าถึงง่ายขึ้นอีกขั้น
6. ราคาไม่แรง แค่ 200-300 ก็ได้เกมดี ๆ มาเล่นแล้ว
และนอกจากตัวราคาของคอมที่ใช้เล่นจะไม่สูงมากเนื่องจากการกินสเปคคอมที่ต่ำแล้ว ราคาของเกม 2D อินดี้ส่วนใหญ่จะมีราคาถูกครับ โดยทั่วไปใน STEAM นั้นจะอยู่ที่ราว ๆ 200-300 บาท ยกเว้นบางเกมอาจจะพุ่งขึ้นไปถึง 500 ก็แล้วแต่เกม แต่ส่วนใหญ่จะไม่เกินนี้ครับ แถมยังมีเทศกาลลดราคาของ STEAM อีกด้วย ดังนั้นราคาเกม 2D แบบเกมต่อเกมเนี่ย มันถูกกว่าเกม AAA ที่เริ่มต้นที่หลักพันอย่างแน่นอน ตรงนี้ก็เพราะว่าตัวเกมนั้นมีทีมพัฒนาน้อย งบประมาณในการสร้างก็ไม่สูง จึงสามารถคิดราคาถูก ๆ ได้ แต่เชื่อไหมครับว่าเกมที่มีราคาแค่นี้ก็สร้างกำไรให้กับผู้พัฒนามามากมายหลายเกมแล้ว
และนี่ก็คือ “6 หมัดเด็ดที่ทำให้เกมอินดี้ภาพ Pixel 2D สามารถแย่งฐานแฟนจากเกม AAA ได้” เป็นยังไงกันบ้างครับ ตรงกับประสบการณ์และความเข้าใจของเพื่อน ๆ บ้างหรือเปล่าเอ่ย ผมเองก็เป็นคนหนึ่งนะครับที่เล่นเกม 2D มากกว่าเกม 3D AAA ซะอีก ส่วนเหตุผลนั้นก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเกมอินดี้ที่หลายเกมเริ่มต้นจากการที่ยังไม่มีชื่อเสียงอะไร แต่ถ้าเกมไหนปังขึ้นมานี่ไวรัลทั่วโลกได้เลยครับ 🙂