Kazuki Nakashima ผู้สร้างอนิเมะชื่อดังอย่าง Kill la Kill มองว่า แม้จะมีกลุ่มผู้ชมที่ต่อต้านแนวอนิเมะที่มีเนื้อหา “ยั่วเย้า” หรือ “แฟนเซอร์วิส” มากขึ้น แต่ตัวเขาและเหล่าผู้สร้างคนอื่น ๆ “ควรกล้าที่จะเผชิญหน้ากับกระแสแอนตี้เหล่านั้น” และยังคงใส่เนื้อหาเหล่านั้นลงไปในผลงานของตนเองต่อไป
ผู้สร้าง Kill la Kill ยังคงสนับสนุนการ์ตูนแนว “แฟนเซอร์วิส” แม้กระแสต่อต้านจะมีมากขึ้น
คุณ Nakashima ยังมีผลงานอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น Gurren Lagann, Promare, Kamen Rider W และ Kamen Rider Fourze โดยเขาได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็น “แฟนเซอร์วิส” ในวงการอนิเมะในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Febri สื่อข่าวญี่ปุ่น ในเดือนพฤษภาคม 2024 เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของ Kill la Kill
ในระหว่างการสัมภาษณ์ Shotaro Miya จาก Febri ได้ตั้งข้อสังเกตว่า สไตล์การดำเนินเรื่องสุดโต่งและอลังการของ Kill la Kill “สามารถสร้างขึ้นมาได้เพราะมันถูกสร้างเมื่อ 10 ปีที่แล้ว” Hiroyuki Imaishi ผู้กำกับซีรีส์ก็เห็นด้วยกับข้อสังเกตนี้ และยอมรับว่า “ทุกวันนี้พวกเราต้องคิดมากขึ้นหน่อยเกี่ยวกับสิ่งที่เราไม่สามารถสร้างได้ เช่น การโชว์เนื้อหนัง” โดยคุณ Nakashima กล่าวเสริมว่า “แม้แต่ตัวผมเอง ก็คงต้องยับยั้งตัวเองไม่ให้วาดภาพ Mako แบบเต็มตัว”
“ผมไม่คิดว่าผู้ชมยุคนี้จะยอมรับฉาก ‘แอบมองในห้องน้ำ’ หรอกครับ” เขากล่าวพร้อมหัวเราะ “ผมคงต้องหาข้ออ้างให้มันอย่างรอบคอบมากขึ้น ‘เช่นชีวิตของคนคนนี้กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย!’ อะไรประมาณนั้น”
หลังจากนั้น Miya ถามต่อด้วยความขี้เล่นว่า “แล้วตัดฉากอาบน้ำออกไปเลยจะดีกว่าไหม?” คุณ Nakashima ยิ้มแล้วตอบว่า “ถ้าคุณถามผมว่า ฉากแอบมองในห้องน้ำน่าสนใจหรือไม่? หลังจากที่ผมใส่เหตุผลลงไปทั้งหมดแล้ว ผมว่ามันก็ไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น ดังนั้นผมคงจะตัดมันออก”
ต่อมาคุณ Nakashima ได้พูดถึงประเด็น แฟนเซอร์วิส โดยเขากล่าวว่า “ท้ายที่สุด พวกเราสร้างสรรค์ผลงานเพื่อการค้า และเราอยากให้ผู้ชมได้เห็นมัน เราไม่สนใจหรอกว่าผู้คนจะพูดว่า ‘ฉันไม่เข้าใจ’ แต่เราไม่อยากให้พวกเขารู้สึกอึดอัดโดยไม่จำเป็น แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราทำให้ผลงานมัน ‘บริสุทธิ์ 100%’ หรือแบบไม่มีเนื้อหาสไตล์นี้เลย ภูมิต้านทานของผู้คนจะอ่อนลง และพวกเขาก็จะตายหมด ดังนั้นผมจึงมีวิธีคิดที่ว่าพวกเราควรกล้าที่จะเผชิญหน้ากับคำสบประมาท และถ่ายทอดสิ่งที่หลายคนมองว่าอาจเป็นอันตรายพวกนี้บ้าง”
“เราทำมันด้วยความทะเยอทะยานอันสูงส่ง ‘นี่คือสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำเพื่อภูมิคุ้มกันของมนุษยชาติ’” เขากล่าวติดตลกต่อไป “เราจะไม่มีวันถูกเข้าใจ แต่เราจะตายไปพร้อมกับคำสบประมาทเพื่อมนุษยชาติ” และในช่วงท้ายของการสนทนาคุณ Imaishi โต้ตอบคุณ Nakashima ด้วยน้ำเสียงติดตลกว่า “แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ไม่อยากตายหรอกนะ ถ้าทำได้”
ถือได้ว่าเป็นประเด็นที่แอบฮา แต่ก็แอบซีเรียสอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะประเด็นแฟนเซอร์วิสในอนิเมะปัจจุบันนี้ถือได้ว่าเป็นประเด็นที่ร้อนแรงมาก ๆ โดยมีกระแสต่อต้านอยู่พอสมควร แต่ก็ยังมีกระแสเรียกร้องให้มีแฟนเซอร์วิสอยู่ในอนิเมะต่อไป ซึ่งเราก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าอนาคตของวงการอนิเมะจะเป็นอย่างไรต่อไปครับ
ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามข่าวอนิเมะทั้งหมดของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<
