10 จอยเกมมือถือสุดเทพฉบับปี 2020

เกมเมอร์ตัวจริงสมัยนี้ จะแอนตี้เกมมือถือไปก็ใช่เรื่อง เพราะทุกวันนี้เกมมือถือออนไลน์นอกจากจะสนุกแถมมีเพื่อนเล่นเยอะแล้ว ยังช่วยฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดีได้ทุกที่เลยด้วย เกมเมอร์หลายๆคนที่ยังไม่เปิดใจให้กับโลกของเกมมือถือส่วนมากก็เพราะจอเล็ก บังคับยากด้วยระบบทัชสกรีน ไม่ว่าจะเป็นสาย MOBA อย่าง ROV สายยิงปืนแบบ PUBG หรือ Free Fire ก็ดี บางครั้งก็ทำให้รำคาญจนเลิกเล่นไป จึงเป็นที่มาของจอยเกมมือถือที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ

สำหรับใครที่สนใจอยาก ซื้อจอยเกมมือถือ มาลองเล่นดูสักชิ้นแต่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดี วันนี้เรา รวบรวมเอาจอยเกมมือถือ 10 รุ่นยอดนิยมที่ขายดีที่สุดบนร้านค้าออนไลน์จากทั่วโลกผ่านข้อมูลจากเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาสินค้า Priceza มาแนะนำทุกคนให้ได้อ่านกัน คลายข้อสงสัย ตอบทุกคำถามตั้งแต่วิธีการเลือกซื้อ ประเภทของจอยเกมมือถือ รวมถึงเปรียบเทียบตั้งแต่ราคา สเปค ไปจนถึงปริมาณของรีวิวบนร้านค้าออนไลน์ชื่อดังมากมาย อ่านจบแล้วสนใจอันไหน ก็คลิ๊กรูปเข้าไปซื้อสินค้าได้เลย!

เลือกซื้อจอยเกมมือถือแบบไหนดี ?

แบ่งออกหลัก ๆ ได้สามประเภท จอยเกมมือถือในตลาดแม้จะมีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ใกล้เคียงกันหมดอยู่แล้ว แต่สำหรับโปรเกมเมอร์ตัวจริงเท่านั้นถึงจะรู้ว่าจอยแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ สำหรับมือใหม่ที่อยากเลือกซื้อจอยเกมมือถือชิ้นแรก ลองอ่านดูว่าจอยสติ้กประเภทไหนถึงจะเหมาะกับเกมของคุณ ไม่ว่าจะสายตีป้อมหรือสายโดดร่มก็ใช้ได้ใช้ดีเหมือนกัน

จอยเกมมือถือแบบมีสาย

สาย USB หรือสายพ่วงแบบ Lightning กับมือถือนั้นมีข้อดีในเรื่องของสัญญาณที่ไม่กระตุกและกระชับรวดเร็ว สำหรับผู้เล่นที่ชอบเล่นเกม PVP (Player vs. Player) ที่ต้องอาศัยความรวดเร็ว ทุกการบังคับและการเคลื่อนไหวต้องลื่นไหลไม่ให้ผิดพลาด ไม่งั้นเดี๋ยวจะหัวร้อนเอาได้ ทำให้สำหรับโปรเกมเมอร์ระดับ E-Sport หรือเกมเมอร์ขั้นเทพระดับหมู่บ้านเองก็ดี เลือกใช้จอยสติ๊กแบบมีสายเป็นหลัก

ข้อควรระวังคงหนีไม่พ้นในเรื่องของการกินแบต ฯ เป็นพิเศษ แตกต่างจากแบบไร้สายที่ต้องชาร์จไว้ก่อน จอยเกมมือถือแบบมีสายค่อนข้างจะแบตไว อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่เล่นเกมมือถือเวลาอยู่นอกบ้านเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น เกมที่เหมาะกับจอยเกมมือถือมีสายเช่น – เกมออนไลน์ที่มีการบังคับแบบ Micro Movement สูงเช่น ROV, Marvel Super War หรือเกมแนว FPS แบบ Free Fire ที่ขยับหนีนิดเดียวเกมก็เปลี่ยนได้เลย

จอยสติ้กมือถือไร้สายแบบ Bluetooth

จอยเกมมือถือแบบไร้สายแม้จะไม่ได้มีจุดขายเรื่องความเสถียรของการบังคับ แต่ก็มีข้อดีในเรื่องความสะดวกในการดูแลพกพามากกว่าแบบมีสาย ไม่รุงรังพันมือในขณะเล่น แม้ว่าจะต้องชาร์จแบตตัวจอยสติ๊กแยกกับมือถือไม่เหมือนแบบมีสาย แต่ก็จะทำให้แบตฯหมดช้ากว่าแบบมีสายที่ใช้แบตฯโทรศัพท์เล่น (ธรรมชาติเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือก็กินแบตอยู่แล้วนะ!) ทำให้รูปแบบของ Wireless เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ชอบเล่นเกมมือถือเวลาอยู่นอกบ้านมากกว่า พกพาง่าย กินแบตน้อยถือว่าเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ค่อนข้าง Casual เน้นเล่นฆ่าเวลาหรือนั่งเล่นสนุก ๆ ข้าง ๆ กับเพื่อน

เทคโนโลยี Bluetooth เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อาจจะทำร้ายคุณได้ ยิ่งบลูทูธเวอร์ชั่นสูงขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำงานได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่โทรศัพท์มือถือแต่ละรุ่นก็รองรับการทำงานของบลูทูธได้ดีแย่ไม่เท่ากัน อาจจะต้องลองเช็คกับโทรศัพท์ของคุณก่อนว่าใช้บลูทูธได้ดีขนาดไหน เกมที่เหมาะกับจอยเกมมือถือไม่มีสาย เช่น – เกมออฟไลน์หรือไม่ใช่ MMO (Mass Multiplayer Online) ซึ่งในปัจจุบันก็มีเกมดีดีมากมายนับไม่ถ้วน รวมถึงเกมที่โคลนมาจาก Console อื่น ๆ เช่น Final Fantasy, Minecraft หรือ Stardew Valley เป็นต้น

วิธีเลือกจอยเกมมือถือ

นอกจากเรื่องราคาแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่เคยซื้อ คงจะยังไม่เจอหลุมพรางสามเรื่องนี้แน่ ๆ ก่อนจะไปอ่านรีวิวว่าจอยสติ้กรุ่นไหนที่ตรงสเปคความต้องการของคุณ ตรวจสอบหัวข้อเหล่านี้ก่อนนะ !

เช็คระบบปฏิบัติการว่าเป็น IOS หรือ Android

สำหรับคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือที่มีระบบ OS แตกต่างไปจากสองเจ้าใหญ่นี้ คุณอาจจะต้องลำบากเรื่องการตรวจสอบระบบว่ารองรับได้ไหมโดยเช็คเอาจากรีวิวในอินเตอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว

– สำหรับ iOS ทาง Apple มี MFi ที่บอกได้ว่าจอยเกมมือถือที่คุณสนใจสามารถใช้ได้หรือไม่ สำหรับจอยสติ้กแบบมีสายต้องเช็คให้ดีว่าสามารถใช้กับผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้ เพราะใช้ Port สายไม่เหมือนกับยี่ห้อไหนเลย

– สำหรับ Android เองแม้จะไม่มีตราสัญลักษณ์กำกับบนสินค้า แต่ก็ถือว่าสามารถตรวจสอบหารีวิวได้ไม่ยาก และด้วยความที่ปัจจุบันแบรนด์ยักษ์ใหญ่ยอดนิยมอย่างซัมซุงก็สามารถรับ USB-C และสาย Lightning ได้ทำให้หาได้ไม่ยากนัก

เช็คดูเกมมือถือที่จอยเกมรองรับ

จอยเกมมือถือหลายๆรุ่นในปัจจุบันยังไม่ได้สามารถรองรับเกมทุกเกมได้ ดังนั้นเรากล้าการันตีเลยว่าจอยเกมมือถือเล่นได้ทุกเกมนั้นไม่มีอยู่จริง ยิ่งกับเกม Indie หรือเกม Premium หลาย ๆ เกมมีระบบการเล่นที่บังคับให้ผู้เล่นใช้ระบบสัมผัสหรือทัชสกรีนอยู่ ก่อนซื้อตรวจหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตจากผู้ใช้งานจริง เจ้าของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก่อนว่ารองรับเกมไหนได้บ้างนับเป็นขั้นตอนนึงที่สำคัญที่สุด

เลือกจอยเกมมือถือแบบที่เข้ามือหรือเหมาะกับเกม

นอกจากจะรองรับกำลังทรัพย์และระบบปฏิบัติการบนเว็บไซต์แล้ว จอยเกมมือถือที่คู่ควรก็ต้องใช้งานเหมาะกับสรีระมือของเรา เหมาะกับสไตล์การใช้งานด้วย บางคนมือเล็กบางคนมือใหญ่ หากเลือกขนาดจอยสติ๊กที่ไม่เหมาะกับมือก็อาจจะทำให้แสดงฝีมือไล่ Kill ได้ไม่เต็มที่ หรือเล่นไม่นานก็เมื่อยมือจนนิ้วล็อคก็เป็นได้ ยิ่งสำหรับเกมมือถือบางเกมที่มี ฟังค์ชั่นเฉพาะที่ต้องอาศัยปุ่ม L1 L2 R1 R2 แบบจอย Console เองก็ต้องตรวจสอบให้ดี โดยปัจจุบันในเรื่องของงานออกแบบและทรงจอยเกมก็มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นจอยเกมมือถือแบบถือมือเดียว แบบขยายขนาดได้ตรงสรีระของอุปกรณ์การใช้งาน ถ้าอยากจะเล่นให้โปรก็ต้องเลือกให้เป็นนะจ๊ะ!

อัพเดทราคา 10 จอยเกมมือถือยอดนิยมจากร้านค้าออนไลน์ชั้นนำ

8BitDo SN30 Pro

ราคา 1,148 บาท

จากดีไซน์สุดคลาสสิคของคอนโซล SNES ที่พัฒนาขึ้นใหม่ให้รองรับกับเกมในปัจจุบัน สี่ปุ่มกดพร้อมด้วย Analog Stick และปุ่ม trigger ในส่วนของ L1 R1 ที่หลาย ๆ เกมต้องใช้งาน นอกจากจะใช้งานได้กับ OS Android ส่วนมากได้แล้ว ยังสามารถใช้งานกับ OS อื่น ๆ อย่าง PC เครื่อง Mac หรือแม้แต่ Nintendo Switch ก็ใช้ได้ด้วย!

แม้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่คุณภาพก็ถือว่าสมราคา เป็นจอยสติ๊กขนาดไม่ใหญ่ที่จะเหมาะกับคนมือเล็กมากกว่า สำหรับคนที่คุ้นเคยกับจอยเกมของ Xbox ที่จับถือง่ายอาจจะไม่ชอบเจ้า SN30 Pro สักเท่าไหร่ ส่วนสำหรับคนที่ชอบดีไซน์แบบ Retro แบบนี้ SN30 Pro+ ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ

ข้อดี	ข้อเสีย
– ดีไซน์สายวินเทจสุดคลาสสิคที่ไม่มีแบรนด์อื่นๆทำ- ใช้งานได้มากกว่าแค่กับโทรศัพท์มือถือ รองรับหลายระบบ- ขนาดเล็ก เบาและใช้ระบบบลูทูธ สามารถพกพาได้อย่างสะดวก	– ดีไซน์รูปทรงค่อนข้างเล็ก แตกต่างจากดีไซน์สมัยใหม่ที่รองรับการจับถือมากกว่า

GameSir G5 Bluetooth

ราคา 1,935 บาท

จากจอยเทพ PUBG มาสู่จอยเทพสำหรับเกม MOBA กับ 33 ปุ่มที่คุณสามารถ Configure เองได้ว่าอยากให้ออกสกิลอะไร เริ่มต้นจาก Trackpad ซ้ายขวาข้างละ 8 Action แถมด้วยอีก 8 ปุ่มรอบ ๆ Trackpad ด้านขวา ปุ่ม Trigger ด้านบน (L1 R1) อีก 6 ปุ่มโดยมีสองปุ่มอยู่ที่ด้านหลังของตัวจอยที่ใช้นิ้วนางหรือนิ้วก้อยกดเอา รวมปุ่มฟังค์ชั่น เช่น Start Select L3 (กด Analog) ครบเป็น 33 ปุ่มบังคับ เรียกได้ว่าสำหรับเกมเมอร์ที่คุ้นเคยกับการเซ็ตอัพ Mouse แบบ Macro อยู่แล้ว มาใช้งานจอยนี้คุณสามารถใช้ได้ทุกสกิลและสถานการณ์สำหรับทุกจังหวะตีป้อมแน่ ๆ

นอกจาก 33 ปุ่มที่เรียกว่าใช้พิมพ์ดีดแทนคีย์บอร์ดได้นั้น ยังประกอบไปด้วย 3 Mode สำหรับ Trackpad ของมัน แถมด้วยขาต่อโทรศัพท์ยืดได้หดได้ขนาด 3.5 นิ้ว ตัวจอยสติ๊กอาจจะมีน้ำหนักสักเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าแลกมาด้วยออพชั่นในการปรับแต่งจอยเกมระดับลึกซึ้งเว่อวังกันไปเลย

ข้อดี	ข้อเสีย
– ปุ่มบังคับที่ Configure เองได้ถึง 33 ปุ่ม!- ขนาดและงานดีไซน์ที่เป็นมาตรฐานสากล- Trackpad 3 โหมดสำหรับสามสไตล์เกม- GameSir App และ BattleDock แอพพลิเคชั่นที่จะเชื่อมสถิติเกมมือถือของคุณเข้าไว้ด้วยกัน	– ด้วยปุ่มกดที่มากมายจนเกินไป ค่อนข้างจะเยอะเกินไปสำหรับ Casual Gamer และไม่มีเกมไหนจริงๆที่ต้องใช้ปุ่มมากขนาดนั้น (ณ ตอนนี้)

DELAM Mobile Game Controller

ราคา 404 บาท

ออกแบบมาเพื่อเล่นเกมยิงปืน DELAM ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดจอยเกมมือถือสำหรับแฟนเกม Battle Royale อย่าง PUBG, Call of Duty และอื่น ๆ อีกมากมาย แม้จะไม่มีปุ่มฟังค์ชั่นมากนักแต่เพียง 6 นิ้ว (มือข้างละสาม) ก็ครบครันสำหรับเกม FPS ตั้งแต่การย่อ การคลาน การเชิดหัวขึ้นก็สามารถทำได้ง่ายและไวกว่าผู้เล่นที่ไม่ใช้จอยแน่นอน

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับเจ้า DELAM จอยเกมมือถือ PUBG ตัวนี้ก็จะเป็นเรื่องของตัวขาล็อคโทรศัพท์มือถือที่รองรับโทรศัพท์ขนาด 4.7 – 6.5 นิ้ว ซึ่งถือเป็นขนาดที่ค่อนข้างจะใหญ่มาก ในเรื่องของการออกแบบก็ทำได้ดีในเรื่องของการเล่นไปชาร์จโทรศัพท์ไป รวมถึงตัวพัดลมที่ช่วยลดความร้อนให้กับโทรศัพท์ของคุณระหว่างเล่นได้ เหมาะกับเกมที่ต้องใช้เวลาต่อหนึ่งเกมอย่างเกม Battle Royale ได้เป็นอย่างดี

ข้อดี	ข้อเสีย
– แม้จะดีไซน์มาสำหรับเกมยิงปืน แต่ด้วยความเรียบง่ายทำให้ใช้งานได้ดีกับทุกเกม (อาจจะต้องปรับปุ่ม Trigger เพิ่มเติมสำหรับสาย MOBA)- ดีไซน์รองรับผู้เล่นที่ชอบนั่งเล่นยาวๆเล่นไปชาร์จไป	– วัตถุดิบที่ใช้ทำค่อนข้างเปราะบาง เมื่อเทียบกับราคา

IPEGA PG-9083S

ราคา 1,485 บาท

แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ที่ขายความ Compatible สำหรับเกมยอดนิยมในท้องตลาด IPEGA PG-9083S มีจุดขายที่ดีไซน์และการออกแบบที่โดดเด่นกว่าใคร ๆ แม้ว่าจะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อรองรับกับอุปกรณ์อย่าง Tablet ได้ดี น้ำหนักเบาพอใช้งานจริงร่วมกับอุปกรณ์ของเราแล้วรู้สึกพอเหมาะพอดีกว่าเดิม ฟังค์ชั่นการบังคับที่เรียบง่ายใช้งานไม่ซับซ้อน Analog ด้านขวาอาจจะค่อนข้างชิดไปสักเล็กน้อย ไม่เท่ากับ D-Pad ด้านซ้าย แต่ก็ยังถือว่าเป็นขนาดมาตรฐานที่จะมือเล็กมือใหญ่ก็ใช้งานได้ค่อนข้างดี

นอกจากภายนอกจะหรูหรามีคุณภาพ เนื้อในก็ยังใช้แบตเตอรี่ลิเที่ยมที่ชาร์จเต็มไว ใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมงเหมาะสำหรับทริปเดินทางยาว ๆ เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่เคยเป็นเจ้าของ IPEGA PG มาก่อน สำหรับในรุ่นนี้ไม่สามารถใช้งานกับ Nintendo Switch ได้แล้วนะ

ข้อดี	ข้อเสีย
– ดีไซน์งานออกแบบดีทั้งในเรื่องการใช้งาน วัตถุดิบและสมรรภาพเนื้อใน- ออกแบบมาให้ใช้งานได้กับเกมหลายๆรูปแบบ	– รองรับ Device ได้ไม่มากนัก เรียกว่าค่อนข้างจำกัด- ปุ่มด้านขวามือชิดกับ Analog เกินไป ไม่ถูกใจผู้รีวิวสักเท่าไหร่

Razer Raiju

ราคา 9,490 บาท

สำหรับโปรเกมเมอร์ตัวจริงคงจะพลาดแบรนด์นี้ไปไม่ได้ เจ้า Razer Raiju ตั้งแต่แกะกล่องออกมายลโฉมก็ชนะใจเราไปตั้งแต่เรื่องการออกแบบที่ซิมเปิ้ลแต่ไม่ซ้ำซากกับเจ้าดังอื่น ๆ อย่างโซนี่หรือไมโครซอฟต์ พอได้สัมผัสก็ยิ่งเข้าใจว่าทำไม Razer ถึงเป็นแบรนด์ยอดนิยมของเหล่าเกมเมอร์ นอกจากจะจับถือง่ายแล้วยังใช้งานได้กระชับ กดแล้วไม่เสียงดังก๊อกแก๊ก ๆ แบบพลาสติกถูก ๆ ทั่วไป ตั้งแต่แบรนด์ได้บุกมาทำตลาดโทรศัพท์มือถือ Razer ก็ซุ่มอัพเกรดวงการอุตสาหกรรมเกมมือถืออยู่อย่างลับ ๆ มาตลอด

ข้อเสียนึงที่เราต้องแจ้งให้ทราบก่อนเลยคือเจ้าจอย Razer Raiju ที่ราคาสูงขนาดนี้ ก็ไม่ได้สร้างมารองรับสำหรับทุกเกมมือถือแต่อย่างใด (แม้แต่ list game ในเว็บเขาบางเกมก็เล่นจริงไม่ได้) จึงทำให้เราหันไปเลือกทดสอบกับ Emulator และ Steam Link บนโทรศัพท์มือถือแทน ซึ่งเจ้า Razer Raiju ก็ไม่ทำให้ผิดหวังหลังจากทะลุทะลวงเล่นต่อเนื่องเป็นเวลานาน การทำงานของ Bluetooth เรียกว่าไม่มีติดขัดแต่อย่างใด แถมยังกระชับตรงใจผู้เล่นอย่างมาก

ข้อดี	ข้อเสีย
– จอยสติ้กเกมมือถือที่รองรับระบบ Bluetooth ที่เราคิดว่าดีที่สุดในตลาด ณ ตอนนี้- เหมาะกับเกมเมอร์ที่ชอบเล่นบน Emulator- แม้ทุกเกมจะไม่ได้ซัพพอร์ทการใช้งาน แต่เจ้าจอยตัวนี้ซัพพอร์ทการใช้งานให้ทุกเกมเล่นได้ดีขึ้น	– ไม่สามารถ Configure ปุ่ม Map ตามตำแหน่งทัชสกรีนได้- ราคาสูงมากตามสไตล์แบรนด์ Razer เมื่อเทียบคุณภาพกับแบรนด์คู่แข่งอย่าง Xbox Elite Controller ยังถือว่าแพงกว่ามาก

SteelSeries Nimbus

ราคา 1,550 บาท

อีกหนึ่งแบรนด์ที่เกมเมอร์ PC คุ้นเคยกันดี เจ้า SteelSeries Nimbus ตัวนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับไม้กวาดของแฮรี่พอตเตอร์นะครับ และก็ไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุดจากสตีลซีรี่ย์ด้วย (รุ่นล่าสุดคือ SteelSeries Stratus Duo)) มี ดีไซน์ใกล้เคียงกับจอยเกมมือถือยอดนิยม Mad Catz ที่ติดอยู่ในลิสต์ในปี 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งาน iOS กันโดยเฉพาะ ซึ่งบอกได้เลยว่าจอยเกมมือถือ ios ส่วนมากนั้นมีฟังค์ชั่นเหมือนกันหมด จุดที่แตกต่างจะมาในรูปแบบของการออกแบบและคุณภาพของวัตถุดิบ

รองรับทุก Device ที่มีระบบปฏิบัติการด้วย iOS จึงได้รับตรามาตรฐานรองรับจาก Apple อยู่แล้ว มั่นใจได้เลยว่าคุณภาพคุ้มค่าราคาถูกใจเกมเมอร์ที่เป็นสาวกแอปเปิ้ลอย่างแน่นอน

ข้อดี	ข้อเสีย
– แม้จะออกแบบมาใช้กับ Apply แต่ก็มีสายชาร์จหัว Lightning- คุณภาพงานออกแบบและดีไซน์คุ้มค่าราคาเกินคุ้ม	– ราคาสมเหตุสมผล แต่เป็นรุ่นตั้งแต่ 2018 ยังใช้เทคโนโลยบลูทูธ 4.1 อยู่- จุดขายจริงๆเน้นสำหรับ Apply TV ที่เล่นเกมได้ไม่ดี และก็ไม่ค่อยมีใครใช้

OKER BT-050

ราคา 380 บาท

แม้ว่าจะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 แต่เจ้า OKER BT-050 ก็ยังเป็นหนึ่งในจอยเกมมือถือขายดียอดนิยมในประเทศไทย ด้วยมาตรฐานของ OKER ที่มีราคาประหยัดแต่ใช้งานได้ดี มีความอึดในระดับที่เรียกว่าใช้งานได้นานกว่าโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันเสียอีก แม้จะไม่ได้มีดีไซน์ที่หรูหราดูแพงเหมือนกับแบรนด์อื่น ๆ ที่แนะนำมาก่อนหน้านี้ แต่เจ้า BT-050 ตัวนี้ก็ยังครองใจหลาย ๆ คนในเรื่องของการใช้งานได้เป็นอย่างดี

เมื่อเทียบกับยี่ห้อใหม่ ๆ ในปัจจุบันที่ออกแบบกันมาไม่หยุดไม่หย่อน สรีระของการจับถือยังค่อนข้างเทอะทะและมีน้ำหนักไม่ค่อยตรงใจผู้เขียนสักเท่าไหร่ แต่ด้วยราคาเพียงเท่านี้กับคุณภาพเท่านี้สำหรับจอยของแท้นั้น เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไม OKER BT-050 ยังเป็นสินค้าที่มีคนค้นหาอยู่

ข้อดี	ข้อเสีย
– ราคาประหยัดแต่คุณภาพดี- สินค้าหาง่ายในท้องตลาด	– ดีไซน์โบราณเนื่องจากเป็นสินค้าขายดีมาตั้งแต่ปี 2016

MEMO – AK66 (Universal Gamepad)

ราคา 225 บาท

มาถึงยี่ห้อจอยมือถือที่เรียกว่าเล่นได้ทุกเกมทุกแบบกับ MEMO AK66 Universal Gamepad ที่มีดีไซน์เก๋ไก๋ดูโฉบเฉี่ยวและมีคุณภาพวัตถุดิบที่ค่อนข้างแข็งแรงทนทาน ปรับให้ใช้งานได้สำหรับมือถือทุกขนาดโดยไม่ต้องกังวลว่าจะหักหรือเสียได้ง่าย ปุ่ม Trigger หลังเพิ่มเติม โดยเจ้า AK66 ต้องเรียกว่าเป็นรูปแบบของ Gamepad หรือ Game Grip มากกว่า Joystick เนื่องจากไม่ต้องเชื่อมเข้ากับระบบของโทรศัพท์ รูปแบบการใช้งานแบบช่วยให้เล่นเกมโทรศัพท์มือถือได้ง่ายขึ้น จับถนัดมือมากกว่าที่เคย ทำให้มีราคาประหยัด

โดยเจ้าจุดขายที่แท้ทรูของ AK66 ก็คือปุ่ม Back Trigger ที่ทำงานได้ตรงตามสเป็คที่โฆษณาไว้ ช่วยให้เล่นได้ลื่นไหลขึ้นโดยไม่ติดจังหวะ กระชับทุกการเคลื่อนไหวซึ่งต้องชื่นชมว่าทำได้ดีมากสำหรับ Gamepad ในท้องตลาดปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมี Port สำหรับเสียบสายชาร์จโทรศัพท์ไปเล่นไปได้ด้วย

ข้อดี	ข้อเสีย
– เป็น Gamepad แต่ Trigger หลังมีความ Sensitive ดีมากพอสำหรับเกม PVP ที่วินาทีเดียวก็มีค่า- ดีไซน์ดูดีแถมรองรับการเสียบสายชาร์จโทรศัพท์ได้สำหรับโทรศัพท์หลายๆรุ่น	– เป็น Gamepad ไม่ใช่ Joystick หรือ Controller

Flydigi WASP2

ราคา 1,390 บาท

เมื่อจะรีวิวงานดีไซน์ออกแบบสำหรับจอยเกมมือถือแล้ว Flydigi WASP2 เรียกได้ว่าชนะใจคนเขียนไปแบบขาดลอย ด้วยรูปแบบการใช้งานแบบมือถือข้างเดียว เนื่องจากเป็นงานออกแบบที่สร้างขึ้นมาสำหรับใช้งานกับสมาร์ทโฟนอย่างแท้จริงโดยมีรูปแบบที่แตกต่างจากเจ้าอื่นๆเป็นไหนๆ ประกอบไปด้วยสามส่วนคือ แท่นบังคับ, แท่นช่วยจับและระบบพัดลมช่วยลดความร้อนของเครื่อง มีน้ำหนักเบา (ไป) เล็กน้อย แต่มีสัมผัสที่พอเหมาะพอเจาะแม้จะใช้วัตถุดิบจากพลาสติกธรรมดา เพราะมีแผ่นหนังซิลิโคนที่บริเวณตัวจับ (ที่นิ้วจะไปชี้ กลาง นางมือซ้ายจะไปล็อคพอดี) ตัวแท่นช่วยจับไม่ได้มีปุ่มบังคับเหมือนกับจอยมือถืออื่น ๆ แต่นั่นคือจุดประสงค์ของการเล่นเกมโทรศัพท์ด้วยระบบทัชสกรีนหรือเปล่า ? อาจเป็นเรื่องที่คุณต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง

ระบบทำความเย็นด้วยพัดลมที่มีแสงสีสวย ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ตอบโจทย์ในเรื่องของงานดีไซน์สำหรับเรา ดวงไฟสีฟ้าอ่อนที่ใต้ D-Pad (Analog) ถือเป็นงานออกแบบเรียบง่ายแต่ดูหรูหราเป็นที่สุด อย่างไรก็ตามเจ้า Flydigi WASP2 แม้จะชนะเลิศเรื่องงานออกแบบ แต่ยังถือว่ายังด้อยในส่วนของเทคโนโลยีเนื้อใน แม้เราจะไม่ประสบปัญหาในการเล่นเกมใช้งาน

ข้อดี	ข้อเสีย
– ดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นเกมโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนอย่างแท้จริง- พกพาง่าย เบาและใช้งานแยกชิ้นส่วนได้	– ไม่ตอบโจทย์สำหรับเกมเมอร์ที่จุดประสงค์ในการใช้จอยเพื่อจะเลิกใช้ระบบทัชสกรีน

Saitake 7007F Joy Bluetooth

ราคา 961 บาท

ก่อนจะอธิบายถึงความดีความงามของมัน หากใครที่ครอบครอง Saitake 7007X หรือ 7007 อยู่แล้ว เจ้า 7007F จริง ๆ ถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับเกม PUBG ซึ่งเป็นจุดขายหลักของมันเลยก็ว่าได้ ดังนั้น Spec และการรีวิวจะมีเนื้อหาใกล้เคียงกับ Saitake 7007 ดีไซน์ด้ามจับถอดเข้าออกสองข้างหน้าตาคล้ายกับเจ้า Nintendo Switch ยังไงยังงั้น สำหรับคนที่ครอบครองหรือชอบการใช้งานด้ามจับของสวิทช์ก็ไม่ควรจะพลาดสำหรับ Saitake 7007F นี้เลย

สำหรับเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์ที่เล่นเกมจริงจังมาก ๆ อาจจะไม่ถูกใจกับยี่ห้อนี้เท่าไหร่ เนื่องจากตัว Analog Stick ไม่ได้ใช้งานได้จริงแบบจอยสติ้กทั่วไป ไม่ใช่ว่ามันเสียแต่อย่างใด แต่การบังคับทิศทางไม่ได้สามารถทำได้เป็นวงกลมแบบจอยเกมจริงๆที่เราเคยใช้งานกัน แต่มาในรูปแบบของ 4 ทิศทางแบบ D-Pad (ซ้าย ขวา ขึ้น ลง) เหมาะสำหรับผู้เล่นสายคลาสสิคที่ชอบเล่น Emulator เกม PS1 หรือเกมที่ไม่ต้องใช้ Analog มากเป็นพิเศษ

ข้อดี	ข้อเสีย
– ดีไซน์ทันสมัย คล้ายกับ Nintendo Switch รวมถึงขนาดที่เป็นมาตรฐาน- แอพพลิเคชั่น “BEBONCOOL GAMEPAD” แจกเกมฟรีให้เล่นกัน	– Analog Stick ใช้ระบบ 4 ทิศทางหรือ D-Pad

เลือกซื้อของออนไลน์ให้ถูกวิธี ต้องระวังให้ดีเรื่องไหนบ้าง ?

อ่านกันมาจนถึงตอนนี้ เพื่อน ๆ คนไหนที่ตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อจอยเกมมือถือยี่ห้อไหนดี อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลของร้านค้าออนไลน์ที่เราสนใจก่อนด้วย เนื่องจากจอยเกมมือถือในปัจจุบันมีการจำหน่ายของปลอมกันเยอะมากใน Market Place เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบก่อนว่าเป็นสินค้ามือหนึ่งจริง หรืออย่างน้อยมีรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นเป็นทุนสำรองไว้หน่อย ยิ่งกับยี่ห้ออย่าง SteelSeries หรือ Razer ที่มาในราคาถูกก็ต้องระวังให้ดีว่าเป็นรูปแบบของสินค้าที่เราตามหาอยู่จริงหรือเปล่า

ใครจะบอกว่าใช้จอยสติ๊กเล่น PUBG แล้วขี้โกงก็ช่างเขา Accessories สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะบนเครื่องเล่นอย่าง PC ก็มีปุ่ม Macros ให้ใช้งานกันมาตั้งแต่อดีตกาลแล้ว โปรตัวจริงต้องเล่นให้ดีไม่มีข้ออ้าง ! หรือถ้ากำลังตามหาโทรศัพท์มือถือสำหรับเล่นเกมเครื่องใหม่ก็ไปเช็ค ราคาสมาร์ทโฟน กันก่อน หากคุณสนใจหรือชื่นชอบเนื้อหาบทความเกี่ยวกับเรื่องราคาสินค้าต่าง ๆ ในปี 2020 ลองไปอ่านต่อได้ที่เว็บไซต์ Priceza Article ได้เลย!