Digimon เป็นสื่อบันเทิงขนาดใหญ่ที่มีมานานเกือบสามทศวรรษ เริ่มต้นมาจากของเล่นสัตว์เลี้ยงดิจิทัล อนิเมะที่มีจำนวนตอนรวมกันมากกว่า 500 ตอน นับตั้งแต่เรื่อง Digimon Adventure ภาคแรก ไปจนถึงเกมที่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก
นับจนถึงปัจจุบันมีเกม Digimon มากกว่า 50 เกม ครอบคลุมหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นเกมจำลองเลี้ยงสัตว์ดิจิทัล, RPG, เกมต่อสู้, แข่งรถ และแม้กระทั่งเกมการ์ดสะสม และในวันนี้เราจะมาแนะนำ 10 เกมจากซีรีส์ Digimon ที่น่าเล่นมาให้ทุกคนได้ติดตามกัน
1. Digimon Racing
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2004 บน Game Boy Advance โดย Griptonite Games
เกม Digimon ส่วนใหญ่เป็นเกม RPG หรือเกมแอ็กชั่น แต่ Digimon Racing บนเครื่อง Game Boy Advance เป็นเกมแข่งรถโกคาร์ทบนเครื่องเล่นพกพา โดยเกมนี้นำเสนอวิวัฒนาการที่ยอดเยี่ยมเหนือสิ่งที่เคยมี โดยเกมนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Mario Kart: Super Circuit และ Crash Nitro Kart ถือว่าเป็นการใช้ลิขสิทธิ์ Digimon ได้อย่างสร้างสรรค์ เกมนี้มีตัวละครมากมายถึง 11 ตัว ซึ่งรวมถึง Digimon ยอดนิยมจากอนิเมะมากมาย เช่น Agumon, Gabumon, Palmon, Patamon, Tentomon และ Veemon
Digimon Racing จะยืมระบบการโจมตีด้วยไอเทมมาจาก Mario Kart แต่ก็มีการนำเสนอระบบใหม่ที่เรียกว่า “กระโดดทับ” ซึ่งผู้เล่นสามารถกระโดดทับนักแข่งคนอื่นเพื่อชะลอความเร็วของพวกเขาได้ นอกจากนี้เกมดังกล่าวยังมีระบบการเล่นที่โดดเด่นอีกอย่างคือ การขับรถผ่านจุดพลังงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มแถบพลัง ทำให้เหล่า Digimon นักแข่งสามารถวิวัฒนาการตามลำดับขั้นพัฒนา กลายเป็น Digimon ที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมกับท่าไม้ตายพิเศษที่หลากหลาย เพิ่มจำนวน Digimon ให้เลือกเล่นได้มากถึง 40 ตัว นอกจากนี้ Digimon Racing ยังมีสนามแข่งที่หลากหลายถึง 15 สนาม รวมถึงการต่อสู้กับบอส ซึ่งเน้นไปที่แอ็กชั่นและการต่อสู้มากกว่าการแข่งขันแบบเดิม ๆ และถึงแม้ว่าจุดเด่นของ Digimon Racing จะอยู่ที่ระบบการเล่น แต่ดนตรีประกอบที่ยอดเยี่ยมและระบบมัลติเพลเยอร์ที่แข็งแกร่ง ก็ช่วยให้เกมนี้กลายเป็นหนึ่งในเกมแข่งรถที่ดีที่สุดบนเครื่อง Game Boy Advance
2. Digimon Rumble Arena 2
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2004 บน PlayStation 2, GameCube, Xbox โดย Bandai, Black Ship Games, BNE LLC & Foundation 9 Entertainment
Digimon เป็นแฟรนไชส์ที่มีการต่อสู้เป็นแก่นหลัก ดังนั้นเกมต่อสู้ 4 คนเล่น ที่คล้ายกับ Super Smash Bros. จึงเป็นอะไรที่เข้ากันได้ดี โดย Digimon Rumble Arena 2 คือภาคต่อของเกมบนเครื่อง PlayStation รุ่นแรก และใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์เกมที่ดีขึ้นได้อย่างยอดเยี่ยม จุดเด่นส่วนหนึ่งของเกมนี้คือการออกแบบโมเดล Digimon ที่ยอดเยี่ยมและได้รับการอัปเกรดระบบจากภาคก่อนอย่างมาก ซึ่งเกมนี้มี Digimon ให้เลือกเล่นเกือบ 50 ตัวละคร
Digimon Rumble Arena 2 มีระบบการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใคร โดยหลักแล้วผู้เล่นจะเก็บลูกแก้วเพื่อให้ Digimon วิวัฒนาการไปสู่ร่างต่อสู้ที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมกับท่าไม้ตายสุดแรงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีมินิเกมอีกถึง 7 เกม ให้เหล่าแฟนพันธุ์แท้ Digimon ได้เล่นเพลิน ๆ แม้ว่า Digimon Rumble Arena 2 จะเป็นเกมปาร์ตี้มัลติเพลเยอร์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ยังมีเครื่องเล่นเกมเก่าอยู่ ทำให้น่าสนใจมากว่าหาก Digimon Rumble Arena 2 ถูกนำมารีบูทในยุคใหม่ก็น่าจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
3. Digimon World DS
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2006 บน Nintendo DS โดย BEC
ซีรีส์ Digimon World มีเกมมากมาย แต่ชื่อภาษาไทยของ Digimon World DS บนเครื่อง Nintendo DS อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Digimon World แต่จริง ๆ แล้ว เกมนี้เป็นส่วนหนึ่งของแฟรนไชส์ Digimon Story ต่างหาก โดยเกมนี้ยังคงรูปแบบการเล่นแบบดั้งเดิมของ Digimon Story ที่ผู้เล่นจะได้เลี้ยง ฝึกฝน และพัฒนา Digimon คู่ใจไปผจญภัย แต่ในภาคนี้มีระบบการเล่นที่ยอดเยี่ยมและใช้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นออนไลน์ได้อย่างชาญฉลาด ผู้เล่นสามารถร่วมมือกันสร้างสรรค์ Digimon ที่หายากและพิเศษได้
เนื้อหาหลักของ Digimon World DS ดัดแปลงมาจากอนิเมะ Digimon Savers/Digimon Data Squad แต่ยังมี Digimon จากภาคอื่น ๆ ให้สะสมเพื่อเอาใจแฟนพันธุ์ Digimon ซึ่งเกม RPG บนเครื่องพกพาเกมนี้ เล่นง่าย ใช้เวลาไม่นานนักในการฟาร์มหาเหล่า Digimon ปาร์ตี้ในฝัน เหมาะสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ที่อยากรู้จักแฟรนไชส์ Digimon แต่ก็ยังคงความสนุกสนานและมีเนื้อหาที่ท้าทายสำหรับแฟนเกม Digimon ผู้มากประสบการณ์อีกด้วย
4. Digimon Battle Spirit
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2001 บน WonderSwan Color, Game Boy Advance โดย Dimps
ในยุคที่เกม Digimon บนเครื่องเล่นเกม WonderSwan Color ของ Bandai นั้นเป็นเกมที่หาเล่นได้ยาก เกม Digimon Battle Spirit เกมต่อสู้ 2D สุดคลาสสิค ก็ถือเป็นหนึ่งในเกมที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จ ซึ่งเกมนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 บนเครื่อง WonderSwan Color ก่อนที่จะถูกพอร์ตลงบนเครื่อง Game Boy Advance ถือเป็นเกมต่อสู้ Digimon บนแพลตฟอร์มของ Nintendo เกมแรก พัฒนาโดย Dimps สตูดิโอเดียวกับที่โด่งดังจากเกมต่อสู้ Dragon Ball
เกมนี้มีตัวละคร Digimon ให้เลือกเล่นทั้งหมด 12 ตัว ครอบคลุม Digimon จาก 3 ภาคแรกของซีรีส์ อย่างไรก็ตาม เกมนี้ได้มุ่งเน้นไปที่ Digimon จาก Digimon Tamers รวมไปถึง Digimon ที่เป็นร่างลึก ๆ อย่าง BlackAgumon ผู้เล่นจะต้องต่อสู้เพื่อหยุดยั้ง Millenniummon ก่อนที่มันจะทำลายล้างโลกดิจิทัล ซึ่งจุดเด่นของเกมนี้ก็คือระบบการเล่นและการควบคุมที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะกับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย อีกทั้งกราฟิกและดนตรีประกอบที่ยอดเยี่ยม แม้จะเป็นเกมต่อสู้พื้นฐาน แต่ก็ยังคงมีผู้เล่นกระตือรือร้นและชื่นชอบเกมนี้จนถึงปัจจุบัน แม้จะผ่านมาแล้วกว่าสองทศวรรษก็ตาม
5. Digimon World
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 1999 บน PlayStation, Microsoft Windows โดย BEC & Flying Tiger Development
ในบรรดาเกม Digimon ทั้งหมด หลายคนคงนึกถึง Digimon World เป็นอันดับแรก ถึงแม้ว่าเกมนี้จะมีภาคต่อออกมาอีกมากมาย แต่เกมเวอร์ชั่นดั้งเดิมยังคงครองใจผู้เล่นจนถึงปัจจุบัน โดยเกมนี้เป็นมากกว่าแค่เกมเลี้ยงสัตว์ทั่วไปเพราะ Digimon World นำเสนอประสบการณ์ RPG ที่ผสมผสานกลไกการต่อสู้และระบบเลี้ยงมอนสเตอร์แบบดิจิทัลซึ่งถือเป็นเกมแนวคิดใหม่ในยุคนั้น ผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็นเด็กหนุ่มที่ถูกส่งไปยัง File City บน File Island เพื่อช่วยเหลือเหล่า Digimon ที่สูญเสียความทรงจำและกำลังตกอยู่ในอันตราย
รูปแบบการเล่นของเกมนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ เกมเพลย์ต่อสู้ที่ผู้เล่นจะควบคุม Digimon ของตนต่อสู้กับมอนสเตอร์อื่น ๆ ในระบบเทิร์นเบส พัฒนาความสามารถและฝึกฝนทักษะการต่อสู้เพื่อเอาชนะศัตรู ในขณะที่เกมเพลย์การเลี้ยงดูนั้นผู้เล่นจะเลี้ยงดู Digimon ตัวโปรดตั้งแต่เป็นไข่ ฟูมฟักพัฒนาผ่านรูปแบบต่าง ๆ เช่น Baby, In-Training, Rookie, Champion และ Ultimate เมื่อ Digimon หมดอายุขัย มันจะกลับมาเป็นไข่อีกครั้ง วนเวียนไปเรื่อย ๆ
6. Digimon Story: Super Xros Wars
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2011 บน Nintendo DS โดย B.B. Studio
เกม Digimon RPG บนเครื่อง Nintendo DS นั้นประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ยังมีบางเกมที่ยอดเยี่ยมไม่ได้วางจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่น Digimon Story: Super Xros Wars คือหนึ่งในเกมเหล่านั้น เกมนี้วางจำหน่ายในปี 2011 มีเวอร์ชั่น Red และ Blue เนื้อหาแตกต่างกันเล็กน้อย จำเป็นต้องเล่นร่วมกันเพื่อรับประสบการณ์การเล่น Super Xros Wars ที่สมบูรณ์
สำหรับเกม Super Xros Wars ไม่ได้เป็นเกมปฏิวัติแฟรนไชส์ แต่นำระบบเดิมที่มีมาปรับปรุงให้ดีขึ้น พร้อมนำตัวละครและระบบ Digimon Fusion เข้ามาผสมผสาน โดยจุดเด่นของเกมก็คือเราจะได้ติดตามเรื่องราวของตัวละครหลัก Mikey Kudo จาก Digimon Fusion ที่มีเนื้อหาให้สำรวจมากมาย พร้อมกับ Digimon มากถึง 393 ตัว ทำให้เกมนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเกม Digimon ที่มีเนื้อหาเยอะที่สุดบน DS อีกทั้งยังมีระบบ Digimon Fusion ที่น่าสนใจอีกด้วย
7. Digimon World Dawn & Dusk
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2007 บน Nintendo DS โดย Bandai
Digimon World Dawn และ Digimon World Dusk หรือที่รู้จักกันในชื่อ Digimon Story Sunburst และ Digimon Story Moonlight ในญี่ปุ่น เป็นภาคต่อลำดับที่สองของซีรีส์ Digimon World/Story บนเครื่อง Nintendo DS เกมทั้งสองภาคนี้ดำเนินเรื่องราวต่อจาก Digimon World DS เพียงบางส่วนเท่านั้น โดยเน้นไปที่เนื้อเรื่องของบอสตัวสุดท้ายมากกว่า นอกจากนี้เกม Digimon World Dawn & Dusk มีความซับซ้อนมากขึ้นเมื่อเทียบกับเกมภาคก่อน โดยมี Digimon ให้เลือกเล่นมากกว่า 400 ตัว เกมทั้งสองเวอร์ชั่นวางจำหน่ายเป็นคู่ที่มีเนื้อหาแตกต่างกันเล็กน้อย
8. Digimon Survive
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2022 บน PlayStation 4, Nintendo Switch, Xbox One, Microsoft Windows โดย Hyde
Digimon Survive เกมใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวเพื่อฉลองครบรอบ 25 ปีของ Digimon เกมนี้ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง มอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมที่คู่ควรกับเนื้อหา Digimon กว่าสองทศวรรษ โดยจุดเด่นที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือเกมนี้เป็นการผสมผสานแนวเกมที่สร้างสรรค์ ผสมผสานการผจญภัยแบบนิยายภาพเข้ากับเกมเอาชีวิตรอดเชิงกลยุทธ์ นิยายภาพอาจไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนชอบ แต่ Digimon Survive พัฒนาการเล่นที่น่าสนใจโดยที่การตัดสินใจเรื่องราวของผู้เล่นส่งผลต่อการผจญภัยของพวกเขาและกระบวนการวิวัฒนาการของ Digimon คู่หู
เกมดังกล่าวสามารถเล่นจบได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่ผู้เล่นที่ต้องการเล่นเกมแบบสมบูรณ์และพบกับ Digimon ทั้ง 117 ตัวนั้นใช้เวลานานกว่านั้น และโดยรวมของเกมนี้แล้วต้องยอมรับว่า Digimon Survive เป็นตัวอย่างที่สวยงามของศักยภาพอันไร้ขีดของซีรีส์ Digimon
9. Digimon Story: Cyber Sleuth
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2015 บน PlayStation Vita, PlayStation 4, Nintendo Switch, Microsoft Windows โดย Media Vision
Digimon Story: Cyber Sleuth นำแฟรนไชส์ JRPG กลับมาสู่ชีวิตอีกครั้ง โดยเกมนี้มาพร้อมความทันสมัยที่น่าประทับใจ ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นเป็นนักสืบในโลกไซเบอร์หรือแฮ็กเกอร์อันตราย แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นใครภารกิจของคุณคือการไขปริศนาลึกลับที่เกี่ยวข้องกับ Digimon แนวคิดที่สร้างสรรค์นี้มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่หลากหลายและน่าตื่นเต้น
เนื้อหาหลักของ Cyber Sleuth เรียกได้ว่ามีเยอะมาก แถมยังมีโหมด New Game Plus ที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้คุณสามารถเล่นเกมซ้ำได้อย่างสนุกสนานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ภาคต่อของ Cyber Sleuth ที่วางจำหน่ายในปี 2019 นั่นคือ Hacker’s Memory ก็ถือว่าเป็นเกมที่ดีเช่นกัน น่าเสียดายที่ผู้เล่นหลายคนมองว่าเกมภาคต่อนั้นขาดความแปลกใหม่เมื่อเทียบกับ Cyber Sleuth ภาคแรก
10. Digimon World: Next Order
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2016 บน PlayStation Vita, PlayStation 4 โดย B.B. Studio
ซีรีส์ Digimon World เคยผ่านการลองผิดลองถูกมามากมาย แต่ Digimon World: Next Order ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นวิวัฒนาการที่แท้จริงของสิ่งที่เกมเหล่านี้สามารถเป็นได้ โดยเกมนี้ได้ปรับปรุงสูตรดั้งเดิมของแฟรนไชส์ เปลี่ยนเกมให้กลายเป็น RPG โอเพ่นเวิลด์ที่กว้างใหญ่ไพศาล ผู้เล่นสามารถสร้างทีม Digimon คู่หูสองตัวที่มาพร้อมตัวเลือกการปรับแต่งและอิสระมากมาย ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการเล่นซ้ำได้แบบไม่เบื่อ
จุดเด่นของเกมนี้คือ การเพิ่มองค์ประกอบการจำลองการทำฟาร์มและการสร้างเมือง โดยผู้เล่นสามารถปลูกพืช อัปเกรดอาคาร จัดการชุมชน และสร้าง Digi-metropolis ที่แข็งแกร่งได้ ซึ่งระบบนี้ถือเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการดึงดูดผู้เล่นใหม่ ๆ ที่ไม่เคยสนใจเกม Digimon มาก่อน ทำให้เกมนี้ไม่ได้เป็นแค่เกม Digimon World ที่ดีที่สุดเท่านั้น แต่มันยังเป็นเกม Digimon ที่น่าประทับใจที่สุดอีกด้วย
ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามข่าวทั้งหมดของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<
