[รีวิว] Audeze Penrose หูฟังเล่นเกมที่มาพร้อมจุดเด่นด้านการเชื่อมต่อ

หากมองไปในตลาดหูฟังสำหรับการเล่นเกมในปัจจุบันเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหูกันอยู่เพียงไม่กี่แบรนด์ แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีแบรนด์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอยู่ท่ามกลางแบรนด์ชื่อดังเหล่านั้นด้วย และในวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับหูฟังไร้สายรุ่นใหม่จากทาง Audeze ในชื่อ Penrose หูฟังเกมมิ่งไร้สายที่มาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องของความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่อกับทุกอุปกรณ์ จะเป็นยังไงเราไปดูกันเลย

สำหรับเจ้า Audeze Penrose ถูกออกแบบมาให้เป็นหูฟังแบบ Full Size ที่เราสามารถเห็นได้ในตอนนี้ การออกแบบหลาย ๆ อย่างหากมองแบบผิวเผินคงจะรู้สึกว่าก็น่าจะเป็นหูฟังสำหรับเล่นเกมทั่ว ๆ ไปที่มีประสิทธิภาพการใช้งานทั่ว ๆ ไป แต่หากเจาะลึกลงไปในรายละเอียดต่าง ๆ แล้วจะพบว่ามีความแตกต่างอย่างชัดเจน

วัสดุส่วนใหญ่ของหูฟังรุ่นนี้จะใช้งานเป็นพลาสติกที่ตัวโครงของหูฟัง แต่ใช่ว่าจะเป็นเกรดที่ด้อยคุณภาพอีกทั้งในบางส่วนที่ใช้งานเป็นพลาสติก หากไม่ได้ลองสัมผัสอาจจะหลงคิดไปได้ว่าเป็นโลหะได้เช่นกัน เนื่องจากการเก็บงานและการใช้งานสีภายนอกของตัวหูฟังทำออกมาได้ค่อนข้างดี

ที่บริเวณด้านนอกของ Headband จะมีการใส่ชื่อ Audeze ลงไป แต่ตรงส่วนนี้มีจุดให้สังเกตเล็กน้อยเนื่องจากตำแหน่งของเจ้าชื่อแบรนด์ในส่วนนี้ได้มีการออกแบบไม่ให้อยู่ตรงบริเวณส่วนกลางของ Headband แต่จะเฉียงออกไปด้านซ้ายซึ่งก็น่าสนใจว่าทำไมถึงได้เป็นเช่นนั้น แต่ในส่วนนี้ก็ไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพภายในของหูฟังแต่อย่างใด

ขณะที่ด้านในจะมีตัวรับที่เป็นแบบ Memory Foam ที่ทำหน้าที่ของมันได้ดี แม้จะไม่ได้หนามากแต่ก็รองรับการใช้งานไม่กดหัว

Audeze Penrose มาพร้อมกับตัวของ Earcup ที่ใช้งานวัสดุแบบ Memory Foam ซึ่งข้อดีของมันคือการคงทนและกลับคืนสภาพได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่เราเลิกใช้งาน ขณะเดียวกันด้วยความนุ่มก็ทำให้มันส่งผลต่อการใช้งานของเราได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของตัวควบคุมต่าง ๆ จะอยู่ที่ Earcup ด้านซ้ายของหูฟังทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นช่องสำหรับเสียบไมโครโฟน ปุ่มเพิ่มลดเสียง รวมไปถึงความพิเศษของหูฟังรุ่นนี้คือการที่มีปุ่มสำหรับเพิ่มลดเสียงไมโครโฟนโดยเฉพาะแยกมาให้ด้วย ไม่ต้องเสียเวลาไปปรับผ่านตัวเกมหรือการตั้งค่าของระบบ นอกจากนี้ยังมีปุ่มสำหรับใช้กดเพื่อเชื่อมต่อกับสัญญาณ Bluetooth ในอุปกรณ์ต่าง ๆ มาให้ด้วยเช่นกัน ส่วนสุดท้ายจะเป็นพอร์ตสำหรับการใช้ชาร์จตัวหูฟังที่จะเป็นแบบ USB-C รวมไปถึงพอร์ต 3.5 มิลลิเมตร

ที่ด้านนอกของ Earcup ด้านซ้ายจะเป็นปุ่มสำหรับการเปิดและปิดใช้งานหูฟังด้วยการกดค้างเอาไว้ ประมาณ 4 วินาทีก็จะมีเสียงแจ้งเตือนว่าเปิดหรือปิดนั่นเอง พร้อมกับมีไฟแสดงสถานะการใช้งานให้เราเห็นชัดเจน ขณะที่เหนือขึ้นไปจะเป็นปุ่มสำหรับเปิดและปิดใช้งานไมโครโฟนนั่นเอง ส่วนลวดลายบริเวณด้านนอก Earcup ก็มีใส่มาให้เช่นกัน

การปรับระดับตัวหูฟัง Audeze Penrose ทำออกมาได้ตามมาตรฐานของการใช้งานที่เราคุ้นเคย ไม่ได้มีลูกเล่นหรือระดับการปรับที่แตกต่างไป

ในภาพรวมของการออกแบบแล้วคงต้องบอกกันตามตรงว่าไม่ได้โดดเด่นมากนัก สิ่งเดียวที่พอจะบอกได้ว่าเป็นหูฟังสำหรับการเล่นเกมน่าจะเป็นเรื่องของขนาด พอร์ตการใช้งาน ปุ่มต่าง ๆ เสียมากกว่า ส่วนใครที่คาดหวังว่าจะมีไฟ RGB มาให้ก็ต้องบอกว่าไม่มี

จุดเด่นจริง ๆ อย่างที่เราได้บอกไปช่วงแรกนั่นคือเรื่องของการที่เป็นหูฟังที่รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อไร้สายทั้งแบบ Wireless 2.4 GHz หรือจะเป็น Bluetooth ก็สามารถเชื่อมต่อได้ ขณะเดียวกันหากใครที่ต้องการเชื่อมต่อผ่านสายที่ตัวหูฟังก็มีพอร์ต 3.5 มิลลิเมตรมาให้เช่นเดียวกัน เรียกว่าเป็นหูฟังครอบจักรวาลก็ว่าได้เพราะต่อได้หมดทั้งพีซี มือถือ คอนโซลทั้งแบบพกพาและไม่พกพา เป็นอะไรที่หาได้ยากมากในแบรนด์หูฟังที่คุ้นเคยเพราะส่วนมากจะเจอไม่มีนี้มาให้ก็ขาดบางอย่าง

ประสิทธิภาพการใช้งานของ Audeze Penrose เป็นอะไรที่น่าประทับใจและเกินความคาดหมายอย่างมาก เพราะด้วยความที่ตัวหูฟังมาพร้อมกับไดร์เวอร์แบบ Planar Magnetic 100 มิลลิเมตร ทำให้ประสิทธิภาพเสียงที่จะได้ไม่มีผิดเพี้ยน ใช้งานได้สนุกอย่างมาก

ความประทับใจหลังจากได้ใช้งานแน่นอนว่าเรื่องของการเล่นเกมเขาทำมาได้ดีอย่างมาก ทุก ๆ การเคลื่อนไหวภายในเกมที่หากตัวเกมทำออกมาให้มีจุดกำเนิดของเสียงเราจะสามารถรับรู้ได้ทันที แม้แต่เสียงที่เบาที่สุดก็ยังสามารถรับรู้ได้ ฉะนั้นแน่นอนว่าตัวหูฟังทำออกมาได้เหมาะกับการใช้งานร่วมกับเกม FPS ที่มีการตัดสินกันในรายละเอียดเล็ก ๆ ที่หากใครรับรู้ได้มากกว่าก็มักจะชิงความได้เปรียบอยู่เสมอ

แต่ที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือเรื่องของการนำมันไปใช้งานฟังเพลงที่ต้องบอกว่าใช้งานครั้งแรกแล้วต้องร้อง wow ! กันเลย เพราะทำออกมาได้ดีเหนือคำจำกัดความของหูฟังเล่นเกมอย่างมาก wow แรกคือคุณภาพเสียงและความหนักแน่นและนุ่มนวลในการฟังเพลงที่มีการปรับแต่งมาเป็นอย่างดี ส่งผลให้เราแทบไม่อยากที่จะถอดหูฟังเมื่อได้ใช้งาน wow ที่สองคือเรื่องของความดังที่ไดร์เวอร์ Planar Magnetic ทำออกมาได้ค่อนข้างดังมาก ๆ เปิดเพียงแค่ 3 – 4 ระดับก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงภายนอกแล้ว

และเมื่อพูดถึงระดับความดังและการกันเสียงเข้าเมื่อใช้งาน Audeze Penrose ชนะขาดเลยในเรื่องนี้ เนื่องจากมีการป้องกันเสียงภายนอกเข้าได้เป็นอย่างดีซึ่งในจุดนี้อาจจะไม่ได้เป็นความดีความชอบของวัสดุที่ใช้งาน แต่เป็นเรื่องของแหล่งกำเนิดเสียงที่ทำออกมาได้ดังจนกลบเสียงภายนอกไปได้ทั้งหมดนั่นเอง

ไมโครโฟนเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องพูดถึง สำหรับ Audeze Penrose จะเป็นไมโครโฟนที่สามารถถอดเข้าออกได้เมื่อไม่ได้ใช้งาน ทำให้ง่ายต่อการพกพาไปใช้งานตามสถานที่ภายนอกได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังประหยัดพื้นที่อีกด้วย ส่วนคุณภาพของเสียงก็อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ

ถึงแม้ว่าหูฟังจะไม่ได้ต้องการปรับแต่งพิเศษใด ๆ แต่ทาง Audeze ก็มีซอฟต์แวร์สำหรับการปรับแต่งสำหรับผู้ที่ต้องการมาให้เช่นกันกับซอฟต์แวร์ที่มีชื่อว่า Audeze HQ ที่มีให้ใช้งานทั้งบนพีซี Mac และมือถือ Android ช่วยให้เราปรับแต่งลักษณะของเสียงและดูสถานะของตัวหูฟังได้ภายในตัวเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับผู้ที่อยากปรับแต่งนอกเหนือจากที่ค่าพื้นฐานมีมาให้

ขณะที่แบตเตอรี่ถือว่าใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานไม่น้อยสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 15 ชั่วโมง โดยที่ระยะเวลาการชาร์จจะอยู่ที่ประมาณ 3 ชั่วโมง (หากเริ่มชาร์จตั้งแต่ 0 เปอร์เซ็นต์) ก็ถือว่าเป็นระยะเวลาที่ไม่นานแต่ก็ไม่ได้เร็วนักสำหรับระยะเวลาในการชาร์จ

ขอบเขตในการใช้งานอยู่ในระดับมาตรฐานหากพบสิ่งกีดขวางก็จะมีช่วงที่สัญญาณสะดุดไปดื้อ ๆ เช่นกัน แต่หากพ้นมาแล้วก็กลับมาต่อเนื่องตามปกติ ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอะไรนักสำหรับหูฟังเล่นเกมไร้สาย

สรุปแล้ว Audeze Penrose เป็นหนึ่งในหูฟังที่ครอบจักรวาลที่ถูกออกแบบมาให้กับผู้ที่มองหาหูฟังไร้สายคุณภาพสูงที่สามารถนำไปใช้งานเล่นเกมก็ได้ ฟังเพลงได้ดี และหากใครที่มีอุปกรณ์ติดตัวหลากหลายประเภทไม่ว่าจะมือถือ Mac เครื่องเล่นเกม ก็สามารถนำไปใช้งานได้ทันที ภาพรวมในแง่ของประสิทธิภาพที่มีมาให้ต้องบอกว่าเอาอยู่ทั้งหมด ส่วนเรื่องของราคาอยู่ที่ 11,900 บาท เป็นราคาที่แอบสูงไปเสียหน่อยแต่หากต้องการจบและใช้งานไปยาว ๆ ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย

ข้อดี

– วัสดุที่ใช้งานเป็นแบบเกรดคุณภาพสูง

– การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลากหลายทั้งแบบไร้สายและมีสาย

– คุณภาพของเสียงที่ทำออกมาได้เหมาะสมทั้งการใช้งานเล่นเกมและฟังเพลง

– การตัดเสียงภายนอกที่ทำได้เป็นอย่างดี

– มาพร้อมกับปุ่มปรับเสียงระบบและเสียงไมโครโฟนแยก

– สามารถดาวน์โหลดโปรไฟล์เสียงเพิ่มเติมมาใช้งานได้

– ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน

ข้อสังเกต

– การออกแบบภายนอกที่ไม่โดดเด่นมากนัก

– ราคาที่สูงไปเสียหน่อย

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางมั่นคงแก็ดเจ็ทที่ได้ส่งอุปกรณ์ในครั้งนี้มาให้พวกเราได้ใช้งานกันหากใครที่สนใจ Audeze Penrose หูฟังไร้สายสำหรับเล่นเกมสุดครอบคลุมสามารถหาซื้อได้แล้วในตอนนี้ทั้งช่องทางออนไลน์และตามร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป

รายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้า : https://bit.ly/3d2R5KO