7 สิ่งที่ชวนคิดถึงเมื่อพูดถึง PANGYA
เกมตีกอล์ฟออนไลน์ที่ทุกคนต้องสรรหาทุกวิถีทางมาประชัน แม้แต่การนำไม้โปรมาวัดระยะที่หน้าจอ
ในยุคหนึ่งของแวดวงเกมออนไลน์ในบ้านเรากำลังเฟื่องฟู หลังจากที่เกม MMORPG อย่าง Ragnarok Online ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทำให้เกมออนไลน์ในยุคนั้นมีแต่ MMO เข้ามา เพราะคนไทยเข้าใจว่าเกมออนไลน์ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ แต่หากพูดถึงเกมออนไลน์สุดฮิตในยุคนั้นที่ไม่ใช่แนวเก็บเลเวลก็คงจะต้องพูดถึงเกม PANGYA เกมตีกอล์ฟชิล ๆ ที่เข้าไทยเมื่อปี 2005 โดยค่าย Ini3 ซึ่งเรียกได้ว่าค่อนข้างแหวกแนวกมออนไลน์ในยุคนั้นไปพอสมควร ด้วยความชิลล์และภาพสไตล์น่ารักสดใสก็ทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เรามาพูดถึงสิ่งที่ชวนคิดถึงของเกมนี้กันดีกว่า ว่าเกมนี้มีอะไรที่เราจำได้บ้าง
Table of Contents
1. ตอนโหลดเกมต้องรอลูกกอล์ฟลงหลุม
สิ่งที่น่าจดจำของเกมนี้ก็มีมาตั้งแต่เปิดเกมเลยทีเดียว ในขณะที่เกมออนไลน์เกมอื่นนั้นหลังจากกด Start Game จากตัว Launcher ก็มักจะเปิดหน้าต่างเกมด้วยภาพโลโก้ผู้พัฒนา ผู้ให้บริการ รวมไปถึงหน้าโหลดเข้าเกมที่เป็นโลโก้ของเกมนั้น ๆ แต่ปังย่าไม่ใช่ครับ เกมปังย่าใช้วิธีเปิดมาด้วยจอดำมืด มีสิ่งที่เราเห็นอยู่ 3 อย่าง คือ มาสคอต ลูกกอล์ฟและหลุม แล้วลูกกอล์ฟจะค่อย ๆ ไหลลงหลุมตามกำลังโหลดของเครื่องเรา แทนเปอร์เซ็นต์การโหลดด้วยระยะห่างระหว่างลูกกอล์ฟกับหลุม ถือว่าเป็นกิมมิคที่น่าสนใจไม่น้อย และมันยังเป็นเอกลักษณ์มาจนถึงปัจจุบัน
2. การตั้งชื่อโดยใช้อีโมชั่น
ไม่ใช่ทุกเกมที่จะอนุญาตให้ตั้งชื่อโดยใช้อีโมชั่นได้ และเกมปังย่าก็ทำออกมาได้แหวกแนวอย่างถึงที่สุด เพราะไม่ใช่แค่อีโมชั่นเบสิค ๆ อย่างพวกหัวใจ ดาว เครื่องหมายตกใจ แต่มันยังสามารถพิมคีย์เวิร์ดของอีโมชั่นหน้าคนสุดฮาลงไปในชื่อ เพื่อให้ชื่อตัวละครของเรามีหน้าแสดงความรู้สึกอยู่ในนั้นได้ด้วย เช่น (อิอิ)เราชื่อAนะ, Bไง(สู้ๆ)จะใครล่ะ หรือ ซะซะCมาแว้ว(ตกใจ) เป็นต้น ซึ่งส่วนในวงเล็บก็คือคีย์เวิร์ดที่ใช้ใส่หน้าคนที่เป็นอีโมชั่นลงไปในชื่อนั่นเอง และแน่นอนว่ามันฮิตมาก ๆ สำหรับเกมปังย่า ผมรู้ว่าเพื่อน ๆ ก็เคยทำ
3. ตลาดที่มีแต่คนดูดีมาเดินโชว์ตัว
ใครที่เล่นปังย่ามาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มน่าจะรู้สึกเหมือนกัน ก็คือในตอนแรกระบบตลาดหรือการตั้งร้านขายของมันยังไม่เปิดให้ใช้ แล้วการที่เราจะมีชุดดี ๆ ไปอัพ Power, Control, Impact หรือสเตตัสอื่น ๆ ก็ต้องเติมเงินซื้อชุดในร้านค้าที่ทางเกมเค้าจัดการไว้ให้ แล้วเอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้ถูกใจเราเท่าไหร่หรอก แต่พอมีระบบตั้งร้านเองได้ สินค้าแฟชั่นเริ่มเข้ามา ผู้เล่นเริ่มตกแต่งเสื้อผ้าเองได้ แค่นั้นแหละความไฮเอ็นก็บังเกิดขึ้นมาทันที เรียกได้ว่าของที่ซื้อตามร้านค้าเทียบไม่ติด แล้วราคาที่ผู้เล่นด้วยกันขายยังแสนแพง แพงขนาดว่าเอาเงินไปเติมเกมซื้อในร้านค้ายังถูกกว่า แล้วในตลาดก็มีแต่คนรวย ๆ สวย ๆ มาเดินโชว์ชุดกันใหญ่ แต่ก็เป็นโมเม้นท์ที่คึกครื้นดีนะ
4. การตีแป้กเป็นอะไรที่หัวร้อนมาก
แม้เกมนี้จะมีระบบคำนวณคะแนนไว้แข่งขันกับผู้เล่นอื่น ไม่ว่าจะเป็นโหมด VS หรือ Match ก็ตาม แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เราต้องแข่งด้วยจริง ๆ ก็คือตัวของเราเองนั่นแหละ ว่ามันจะนิ่งได้แค่ไหนที่จะให้ตีปังย่าติดตลอดทั้งเกม เพราะยิ่งด่านดาวเยอะขึ้นก็ยากขึ้น แถมด่านในยุคหลัง ๆ ก็ต้องพึ่งพาท่าที่ใช้เกจตีทั้งนั้นถึงจะได้แต้มสวย ๆ และถ้าเกิดตีแป้กขึ้นมานะ จะเป็นอะไรที่หัวร้อนมาก ยิ่งทำมาดี ๆ ตั้งแต่ต้นเกมแล้วมารนเอาช่วงหลุมท้าย ๆ นี่คงเซ็งจัด
5. O.B. คือสิ่งที่ทำให้เรากดออกเกมได้
O.B. คือสิ่งที่ผู้เล่นปังย่าไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองมากที่สุด เพราะมันจะทำให้เสียแต้มเยอะพอสมควรและส่งผลให้แพ้ผู้เล่นอื่นได้ การจะทำให้ติด O.B. ก็คือการเผลอตีพลาดแล้วทำลูกกอล์ฟออกนอกโซนที่ด่านกำหนด ไม่ว่าจะเป็นเข้าป่า ตกเหว ตกน้ำ บลา ๆ ๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้แม้ว่าเพื่อน ๆ จะตีติด PANGYA แบบไม่แป๊กก็ตาม และความรู้สึกเรามันจะพังซะยิ่งกว่าตีแป๊ก ถึงขั้นเทเกมแล้วกดออกเกมไปเดี๋ยวนั้นได้เลยล่ะ ยังดีที่ช่วงหลังมีระบบไอค่อนปีกขาวให้ผู้เล่นได้สะสมจำนวนเกมที่เล่น ไม่ออกเกมกลางคัน เพราะไอค่อนปีกขาวจะได้มาจากการเล่นให้จบเกมอย่างต่อเนื่องและไม่ออกเลยเท่านั้นถึงจะได้มันมา แต่มันก็ทำให้เราฝืนใจพอสมควรเวลาตีออก O.B. จะออกก็เสียดายปีกขาว จะเล่นต่อก็ฝืนใจเหลือเกิน (555)
6. อยากเล่นเกมไป Match – อยากคุยแชทไป VS
รู้สึกว่าปังย่าจะถูกจัดโซนออกเป็น 2 แบบ ถ้าใครเป็นสายเล่นเกม ชอบความท้าทาย ฟาร์มเงิน ล่าถ้วยรางวัล ไม่ต้องคุยกับใคร รีบตีแล้วเร่ง Speed ขี้เกียจรอคนอื่นเล่น โหมด Match จะเหมาะกับคุณมาก เพราะเล่นจบแล้วก็กดออกได้เลยแล้วรอรับรางวัลทีหลัง ทำรอบได้เร็ว ผลตอบแทนสูง แต่ถ้าเพื่อน ๆ เป็นผู้เล่นสายชิล ไม่อยากแข่งขันอะไรมาก เน้นแชท เน้นชิลล์ แพ้ก็ไม่เป็นไรเพราะไม่ได้โฟกัสที่ตรงนั้น สายจีบหนุ่มจีบสาว เชิญที่โหมด VS เลย แต่จะให้ไปสร้างห้อง Chat เข้าไปนั่งเล่นคุยกันเฉย ๆ มันก็ดูจะไม่มีอะไรทำเกินไปหน่อย เพราะงั้นโหมด VS นี่แหละลงตัว คุยไปด้วยเล่นไปด้วย เพลินดี
7. การเอาไม้โปรแทรกเตอร์ไปทาบหน้าจอ
อีกหนึ่งโมเม้นท์ของผู้เล่นสายจริงจังเกมมิ่ง ใครจริงจังกับเกมปังย่าในยุคแรก ๆ แล้วยังไม่มีโปรแกรมหรือเว็บคำนวณลมให้ใช้ บอกเลยว่าเพื่อน ๆ จะต้องวัดเอาเอง โดยมันจะมีตารางพร้อมสูตรคำนวณไว้ให้เรียบร้อย แต่การจะรู้ว่าตอนนี้ลมมันกี่องศาก็ต้องดูที่หัวลูกศรลมที่อยู่ล่างขวาของจอ และการจะวัดมันได้ก็คือต้องมีไม้โปรเจคเตอร์ที่เป็นครึ่งวงกลมที่เราใช้เรียนวิชาคณิตศาสตร์ มาทาบกับหน้าจอเพื่อดูลูกศรว่าตอนนี้ลมมันหันไปทางทิศไหน กี่องศา เราจะได้เอาไปเทียบกับตารางแล้วคำนวณแรงตีได้ถูก โดยผลลัพธ์ที่เราคาดหวังก็คือการทำ Hold in One นั่นเอง
เป็นยังไงบ้างครับ กับ “7 สิ่งที่ชวนคิดถึงเมื่อพูดถึง PANGYA” หลังจากที่ได้อ่านแล้วทำให้เพื่อน ๆ คิดถึงปังย่ากันบ้างไหมครับ ตอนนี้เกมปังย่าก็ยังเปิดให้บริการภายใต้สังกัดของค่าย Ini3 เหมือนเดิมนะครับ ถือว่าเป็นเกมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในบ้านเราเกมหนึ่ง แม้ว่าตอนนี้เซิฟอื่น ๆ ทั่วโลกที่เป็นออฟฟิเชียลจะปิดให้บริการกันไปแล้ว แต่ปังย่าเซิฟไทยก็ยังคงยืนหยัดอยู่ได้อย่างไม่เสื่อมคลาย (ล่าสุดประการยุติให้บริการแล้ว) ถ้าใครอ่านบทความนี้แล้วอยากลองกลับไปเล่นปังย่าดูสักเกมก็ไม่เสียหายนะครับ เว็บเดิม เจ้าเดิม ID เดิมก็ใช้ได้ครับผม