โดยปกติแล้ว หากพูดถึงเกมดีมีคุณภาพ ผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องนึกถึงเกมฟอร์มยักษ์ที่มีทุนสร้างมหาศาล, เกมดีเนื้อเรื่องเยี่ยมกินใจคนเล่นทั่วโลก, เกมที่มีระบบการเล่นสนุกไม่เหมือนใคร ไปจนถึงเกมเทพที่สามารถทำยอดขายได้ถล่มทลายเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ป็นสิ่งที่เหล่าเกมเมอร์ทุกคนคาดหวังกับเกมดีๆ สักเกม
แต่อย่างไรก็ตาม ‘เกมที่ดี’ ก็ไม่สามารถการันตียอดขายถล่มทลายได้เสมอไป เพราะคำว่า ‘ดี’ ของแต่ละคนมันไม่เท่ากันนั่นเอง และนี่จึงเป็นที่มาที่ทำให้ผมอยากรู้ว่ามีเกมไหนบ้างที่ได้รับคำวิจารณ์และเสียงตอบรับในแง่ดี แต่ยอดขายมันกลับสวนทาง ไม่เป็นอย่างที่คิด จะมีเกมอะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ
1. God Hand
หากพูดค่ายเกมที่ทำเกมแนว Action เดินตะลุยฉากแบบมันส์ๆ ในยุค PS2 ชื่อของ Capcom ต้องเข้ามาอยู่ในหัวทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะในช่วงยุคดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของ Capcom เนื่องจากมีเกม Action ขั้นเทพหลายเกมออกมาให้เราได้เล่นกัน และ God Hand ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานระดับขึ้นหิ้งจากทาง Capcom ที่ได้ทีมพัฒนาคุณภาพอย่าง Clover Studio และยังได้รับการกำกับจาก Shinji Mikami บิดาแห่งซี่รี่ส์ Resident Evil อีกต่างหาก แค่ฟังก็เริ่มน่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะครับ?
2. Okami
หากในเวลานั้นคุณอยากจะเล่นเกม Zelda แต่ดันไม่มีเครื่องเกมของ Nintendo สักเครื่องเลย แล้วคุณบังเอิญมีเครื่อง PS2 อยู่พอดี ผมเชื่อว่าในเวลานั้น ต้องมีเกมเมอร์ที่รู้จักกับเกม Okami อยู่บ้างไม่มากก็น้อย
ซึ่ง Okami เป็นอีกหนึ่งเกมยอดเยี่ยมส่งตรงจากทีมผู้พัฒนา Clover Studio เช่นเดียวกับเกม God Hand ซึ่งมันก็สามารถการันตีถึงคุณภาพของตัวเกมได้อย่างไม่ยากเย็น ตัวเกมมาในแนว Action-Adventure ที่ให้อารมณ์คล้ายคลึงกับเกมตระกูล Zelda ที่ตัวเราสามารถเดินทางสำรวจในแผนที่เปิดได้อย่างอิสระ และนอกจากตัวเกมเพลย์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว Okami ยังมีการนำภาพสไตล์ Cel-shaded มาปรับใช้ในเกมได้อย่างสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ และถึงแม้ว่าทุกองค์ประกอบของเกมจะดูดีและลงตัว แต่ยอดขายของ Okamiกลับไม่ดีเท่าที่ควรจนน่าเป็นห่วงเลยทีเดียว (และตัวเกมก็ยังดูมีท่าทีจะขายไม่ดีในประเทศญี่ปุ่นด้วย)
3. Grim Fandango
อีกหนึ่งเกมระดับ Cult Classic จากทางทีมผู้พัฒนา LucasArts สตูดิโอที่อยู่เบื้องหลังเกมตระกูล Star War ในอดีตก่อนที่ทาง Disney จะสั่งปิดไปนั่นเอง โดยความพิเศษของเกม Grim Fandango อย่างแรกเลยก็คือ เป็นเกมแรกที่มีการนำภาพกราฟิกแบบ 3D มาใส่ในพื้นหลังที่ได้รับการ Pre-render ทำให้ภาพในเกมมีความแตกต่างกับเกมคู่แข่งอื่นๆ ในเวลานั้น และนอกจากงานภาพที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ตัวเกมก็ยังนำเสนอตัวละครออกมาได้อย่างน่าจดจำอีกต่างหาก
ในช่วงที่ตัวเกม Grim Fandango ออกวางจำหน่ายก็ได้รับคะแนนวิจารณ์ไปในทางบวกอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยองค์ประกอบของเกมที่ลงตัวและไม่มีใครเหมือน แต่ถึงอย่างนั้นยอดขายของเกมก็ไม่ได้ดีตามเป้าสักเท่าไหร่ โดยยอดขายทั่วโลก ณ เวลานั้น ก็ประมาณครึ่งล้านเท่านั้นเอง
4. Beyond Good & Evil
จะว่าเป็นเรื่องแปลกก็ดีที่ตัวเกม Beyond Good & Evil 2 กลายเป็นที่ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงของชาวเกมเมอร์ในช่วงที่ตัวอย่างของเกมถูกเปิดเผยออกมา แต่น้อยคนที่จะรู้จักกับเกมภาคแรกอย่าง Beyond Good & Evil ผลงานของศิลปินชาวฝรั่งเศสนามว่า Michel Ancel โดยเกม Beyond Good & Evil จะเป็นเกมแนว Action-Adventure ที่มีฉากหลังเป็นโลกที่มีกลิ่นอายความเป็นแฟนตาซีผสมกับความเป็นไซไฟ
Beyond Good & Evil เป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับคะแนนวิจารณ์ไปในทางบวกอย่างมาก เนื่องจากตัวเกมมีการเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยม, ภาพกราฟิกที่มีความสวยงาม (ณ เวลานั้นนะครับ) รวมไปถึงตัวละครที่มีความน่าจดจำอย่างมาก แต่ถึงแม้ว่าจะได้รับคำชมอย่างล้นหลาม แต่ยอดขายกลับไม่สู้ดีนัก ซึ่งสาเหตุมาจาก ณ เวลาที่เกมออกวางจำหน่าย ในตลาดเกมมีแต่เกมชื่อใหญ่ๆ อยู่เต็มไปหมด ทำให้ Beyond Good & Evil ไม่ต่างอะไรจากเพชรในตมที่หลายคนต่างมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย
5. EarthBound
เกมซี่รี่ส์ระดับตำนานจากทาง Nintendo ที่ผมเชื่อว่าต่อให้คุณเป็นแฟน Nintendo ก็อาจจะมีบางท่านที่ไม่รู้จักตัวเกมดังกล่าว หรืออาจจะรู้จักในชื่อ Mother ที่เป็นชื่อเรียกของเกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่นแทน
โดย EarthBound เป็นเกมแนว RPG แบบ Turn-Based ที่มีภาพกราฟิกโทนการ์ตูนน่ารักสดใส ดูแล้วสบายตา ซึ่งนอกจากงานภาพที่สวยงามแล้ว ตัวเกมก็มีสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างสร้างความแตกต่างจากเกมอื่นๆ นั่นก็คือการถูกยกย่องจากเกมเมอร์บางกลุ่ม ในฐานะเกมที่ดีที่สุดที่เคยถูกพัฒนาขึ้นมา (อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าเกมมันดีขนาดไหนนะครับ) ซึ่งมันก็แลดูจะขัดแย้งกับยอดขายของเกมในเวลานั้น ที่ทำได้เพียง 140,000 ชุดเท่านั้นในอเมริกา แถมยังมียอดขายต่ำกว่าในประเทศญี่ปุ่นอีกต่างหาก แต่ถึงกระนั้นเกมซี่รี่ส์ EarthBound ก็ไม่ได้ตายจากเราไปไหน เพราะตัวเกมมันเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นับแต่นั้น จนในปี 2006 ก็ได้มีการออกภาคใหม่ให้ชาวเกมเมอร์ฝั่งญี่ปุ่นได้เล่นกัน และพอร์ตเกมให้กับเครื่อง Wii ในปี 2013 อีกต่างหาก
6. Valkyria Chronicles
หากใครที่ชื่นชอบการเล่นเกมแนววางแผน และเกมแนว RPG ผมเชื่อว่าต้องมีคนที่รู้จักเกม Valkyria Chronicles อย่างแน่นอน โดย Valkyria Chronicles เป็นเกมแนววางแผนแบบ Turn-based ที่มีความพิเศษตรงที่การผสมผสานความเป็นเกม Action Shooting ลงไปด้วย ซึ่งเราสามารถบังคับตัวละครไปมาได้ไม่ต่างจากเกม TPS แต่ถึงอย่างนั้นก็มีการเล่นและวางแผนอย่างรัดกุมตามสไตล์เกมแนววางแผน และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกม Valkyria Chronicles นั้นยอดเยี่ยม นอกจากเกมเพลย์ที่สนุกสุดมันส์แล้ว Valkyria Chronicles ก็ยังมีการนำเสนอภาพแบบ cel-shaded ที่ให้อารมณ์เหมือนภาพวาดที่หลุดออกมาจากสเก็ตบุ๊คที่ทั้งสวยงามความเฉพาะตัว แถมตัวเกมยังมีทั้งเนื้อเรื่องและตัวละครที่น่าจดจำอีกมากมาย ซึ่งเมื่อนำทุกอย่างมารวมกันแล้ว มันจึงกลายเป็นอีกหนึ่งเกมวางแผนที่กลมกล่อมใช้ได้ แต่ด้วยข้อจำกัดของตัวเกม ทำให้ในช่วงแรกออกให้เพียงแค่เครื่อง PS3 เท่านั้น ก่อนที่จะมากระตุ้นยอดขายในภายหลังด้วยนำเกมมาพอร์ตลง PC
7. Jet Grind Radio
อีกหนึ่งเกมสุดแนวที่เจ้าของเครื่องเกม Dreamcast ทุกคนต้องมีไว้ติดเครื่อง แต่ก่อนที่จะพูดถึงตัวเกม ผมเชื่อว่าต้องมีหลายคนคิดว่า “Dreamcast คือเครื่องเกมอะไร ?” ดังนั้นจึงขออนุญาตเท้าความก่อนว่า ครั้งหนึ่งค่าย Sega เขาก็เคยมีเครื่องเกมเป็นของตัวเองเหมือนกันนะครับ ซึ่ง Dreamcast ก็เป็นหนึ่งในนั้น
คราวนี้กลับมาเข้าเรื่องกันต่อ Jet Grind Radio หรือ Jet Set Radio เป็นเกมแนว Extreme Sport ที่เราสามารถออกท่วงท่าในการเล่น Roller Blade ได้อย่างอิสระ ถ้าใครฝึกเล่นจนเซียนแล้วล่ะก็ เรียกว่าแทบจะร่อนในฉากได้อย่างชิลๆ กันเลยทีเดียว และตัวฉากภายในเกมก็ออกแบบมาให้เราสามารถเล่นแบบโลดโผนโจนทะยานได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งด้วยเหตุผลนี้เองเลยทำให้เกม Jet Set Radio เป็นอีกหนึ่งเกมที่คนเคยสัมผัสต้องหลงรักมันอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยข้อจำกัดในเวลานั้นที่ตัวเกมออกให้กับเครื่อง Dreamcast เพียงอย่างเดียว มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะมียอดขายที่สวนทางกับความยอดเยี่ยมของมัน
เป็นยังไงกันบ้างครับ ในเกมเหล่านี้มีเกมไหนบ้างรึเปล่าที่คุณเคยได้สัมผัสกันมาแล้ว ส่วนตัวผมเคยมีโอกาสได้ลองเล่นทั้ง God Hand, Jet Set Radio , Okami และ Beyond Good & Evil มาแล้ว ต้องยอมรับเลยว่า เกมเหล่านี้มันเล่นสนุกมากๆ ไม่น้อยหน้าเกมขายดีอื่นๆ เลยทีเดียว ซึ่งมันก็เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่บอกได้ว่า “เกมที่ดีบางครั้งมันก็ไม่จำเป็นต้องขายดีเสมอไปก็ได้”
