คอนโซล / พีซีสกู๊ปพิเศษ

6 เหตุผลที่แฟน Resident Evil ควรเล่น Whisper Mountain Outbreak

เกมที่ Hard Ref. มากจาก Resident Evil Outbreak

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกท่าน ถ้าคุณเป็นแฟนเกม Resident Evil โดยเฉพาะภาค Outbreak ที่เคยทำให้หัวใจเต้นแรงจากความกดดันและการเอาตัวรอด ข่าวดีคือความรู้สึกแบบนั้นกำลังกลับมาใน Whisper Mountain Outbreak เกมที่ได้รับแรงบันดาลใจอย่างหนักจากซีรีส์ในตำนานนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบการเล่น การจัดการไอเทม หรือบรรยากาศชวนลุ้นระทึก ทุกอย่างถูกออกแบบมาให้คอ Survival Horror ได้สัมผัสความตึงเครียดอีกครั้ง และที่สำคัญ เกมนี้เปิดให้เล่นแล้ววันนี้บน Steam พร้อมให้คุณรวมทีมสู้เอาชีวิตรอดจากฝันร้ายบนภูเขาลึกลับ

[Netmarble] R2
StoneAge: Pet World
[Netmarble] R2
StoneAge: Pet World

เกมนี้คือการผสมผสานระหว่าง Escape Room กับ Co-op Survival Horror เหตุการณ์เกิดขึ้นในปี 1998 เมื่อคำสาปโบราณถูกปลดปล่อยออกมา กักขังทุกคนไว้บนภูเขา Mount Bisik ไม่ว่าคุณจะเล่นคนเดียวหรือร่วมมือกับเพื่อนสูงสุด 4 คน คุณต้องออกสำรวจ ค้นหาเบาะแส หาวิธีหนีออกไป… และเอาชีวิตรอดจากความสยองให้ได้

เราไปชมเหตุผลที่ทำไมแฟนเกม Resident Evil ถึงควรลองเล่นเกมนี้ และเกมนี้มีดียังไงครับ

1. แนวเกม Survival Horror ยิงก็ได้ ฟาดก็ดี

6 เหตุผลที่แฟน Resident Evil ควรเล่น Whisper Mountain Outbreak


Whisper Mountain Outbreak มาในสไตล์ Survival Horror แบบมุมมองด้านบน (Top-down view) ที่เน้นการเอาชีวิตรอดท่ามกลางสภาพแวดล้อมสุดกดดัน ผู้เล่นสามารถใช้ได้ทั้งการต่อสู้ระยะประชิดด้วยอาวุธ Melee เช่น ไม้เบสบอล ขวาน หรือดาบคาตานะ เพื่อประหยัดกระสุน และยังมีอาวุธปืนให้เลือกใช้ในสถานการณ์คับขันเช่นระเบิด แต่การยิงปืนมีกระสุนจำกัด ทำให้ต้องวางแผนว่าจะฟาดหรือยิงให้คุ้มค่า การเล่นจึงเต็มไปด้วยความตึงเครียดและต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบตลอดเวลาครับ และแน่นอนว่าศัตรูก็ไม่ได้มีแค่ซอมบี้ธรรมดาเท่านั้น แต่ยังมีพวกตัวใส่เกราะหรือบอสอีกด้วย เหมือนกับ Resident Evil Outbreak ที่ต้องแบ่งหน้าที่กันเลยครับ

2. ช่องเก็บของและสัญญาณชีพจรเหมือน RE มาก

6 เหตุผลที่แฟน Resident Evil ควรเล่น Whisper Mountain Outbreak


อีกหนึ่งจุดที่แฟน ๆ Resident Evil จะรู้สึกคุ้นเคยทันที คือการใช้หลอด HP ในรูปแบบสัญญาณชีพจร ที่เปลี่ยนสีและความถี่ตามสภาพร่างกายของตัวละคร เหมือนกับระบบในภาค 1-3 ที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าคุณยังพอวิ่งไหวหรือใกล้ตายเต็มทีแล้ว นอกจากนี้ ช่องเก็บของ (Inventory) ของเกมยังถูกออกแบบให้คล้ายกับ Resident Evil ยุคคลาสสิก ทั้งตำแหน่งช่อง ขนาดไอเทม และความจำกัดที่บังคับให้คุณต้องวางแผนจัดเก็บเหมือนกำลังย้อนเวลากลับไปเล่นภาคเก่า ๆ อีกครั้ง ซึ่งไอเทมต่าง ๆ เองก็มีความคล้ายกับ RE มากอีกด้วย เช่น การเพิ่ม HP ต้องใช้สมุนไพร เป็นต้น

3. บรรยากาศและความกดดันทำออกมาได้คล้ายกัน

6 เหตุผลที่แฟน Resident Evil ควรเล่น Whisper Mountain Outbreak


Whisper Mountain Outbreak ถ่ายทอดบรรยากาศความกดดันได้อย่างยอดเยี่ยมในสไตล์เดียวกับ Resident Evil โดยใช้สถานที่ที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน เช่น บ้านพัก สถานีตำรวจ โรงพยาบาล หรือสวนสาธารณะ แต่กลับบิดมันให้กลายเป็นฉากหลังของฝันร้าย ทุกมุมเต็มไปด้วยความเงียบที่อึดอัด เสียงฝีเท้าที่ทำให้หัวใจเต้นแรง และความรู้สึกว่ามีบางสิ่งซ่อนอยู่ใกล้ ๆ นี่คือคอนเซ็ปต์เดียวกับที่ RE ทำได้ดีที่สุด คือการเปลี่ยนสถานที่ธรรมดาให้กลายเป็นกับดักหลอนที่ไม่มีใครอยากติดอยู่ในนั้น และแน่นอนเกมนี้ก็มีจั้มป์สแกร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วย ไม่ถึงกับ ตุ้งแช่!จนล้มตกเก้าอี้ แต่มันก็มีสะดุ้งนิด ๆ ได้บ้างเหมือนกัน

4. แต่ละพื้นที่มี Story ของมัน อ่านได้จากไฟล์ต่าง ๆ ในด่าน

6 เหตุผลที่แฟน Resident Evil ควรเล่น Whisper Mountain Outbreak


นอกจากการเอาชีวิตรอด เกม Whisper Mountain Outbreak ยังซ่อนเรื่องราวของโลกและสถานที่ไว้ผ่านไฟล์ข้อมูลที่ผู้เล่นสามารถค้นหาได้ในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์เก่า บันทึกโน้ต จดหมาย หรือแม้แต่ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ แต่ละไฟล์จะค่อย ๆ เติมเต็มภาพรวมของเหตุการณ์และความลับที่ซ่อนอยู่ ผู้เล่นต้องนำเบาะแสเหล่านี้มาเชื่อมโยงกันด้วยตัวเองเพื่อเข้าใจเนื้อเรื่องอย่างลึกซึ้ง และบางไฟล์อาจถูกซ่อนอยู่ ทำให้การสำรวจอย่างละเอียดกลายเป็นส่วนสำคัญของการเล่น แต่ถ้าสำรวจเยอะเกินไปก็อาจจะไม่ทันการในการเอาชีวิตรอด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมนต์ขลังที่เหมือนกับ Resident Evil เลยครับ

5. ไอเทมและช่องเก็บของมีจำกัด วางแผนไปกลับให้ดี

6 เหตุผลที่แฟน Resident Evil ควรเล่น Whisper Mountain Outbreak


หนึ่งในองค์ประกอบที่ Resident Evil ทำได้ยอดเยี่ยมและ Whisper Mountain Outbreak นำมาต่อย่างลงตัว คือระบบ การจัดการไอเทม ระหว่างการสำรวจเราจะพบไอเทมหลากหลาย ทั้งอาวุธ กระสุน วัสดุฟื้นพลัง หรือคีย์ไอเทมสำหรับปลดล็อกพื้นที่ข้างหน้า แต่ช่องเก็บของก็มีจำกัด ทำให้ต้องคิดให้รอบคอบว่าจะพกอะไรไป ใช้อะไรในสถานการณ์ไหน และเส้นทางใดที่ต้องย้อนกลับมาอีก หากหยิบของหมดมือไปตั้งแต่แรก พอกลับมาอาจจะไม่เหลือของไว้ใช้ยามจำเป็น ทำให้การวางแผนเส้นทางและการจัดเก็บกลายเป็นหัวใจสำคัญของการรอดชีวิตครับ

6. ร่วมมือกับเพื่อนได้ 4 คน แต่เกมก็จะยากขึ้นตาม

6 เหตุผลที่แฟน Resident Evil ควรเล่น Whisper Mountain Outbreak


Whisper Mountain Outbreak รองรับการเล่น Co-op 4 คน แต่หากคิดว่ามีเพื่อนเยอะแล้วจะง่ายขึ้น… บอกเลยว่าผิดครับ เพราะจำนวนไอเทมและอาวุธในด่านยังคงเท่าเดิม ทำให้ต้องวางแผนแบ่งปันทรัพยากรอย่างรอบคอบ รวมถึงการกำหนดบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นคนลุยหน้า ถืออาวุธประชิดยืดแทงค์ให้เพื่อน คนยิงข้างหลังหรือระวังหลังให้เพื่อน หรือคนแบกของที่มีกระเป๋าเยอะแล้วไม่มีอาวุธใช้ และเมื่อเกิดสถานการณ์ที่เพื่อนล้มกลางทาง การตัดสินใจว่าจะช่วยหรือทิ้งเพื่อความอยู่รอดของทีม อาจทำให้จังหวะการหนีช้าลงและเพิ่มแรงกดดันอย่างมหาศาลในจังหวะวิกฤตครับ

Whisper Mountain Outbreak คือเกมที่ถ่ายทอดเสน่ห์และความตึงเครียดแบบ Resident Evil ยุคคลาสสิกได้อย่างครบถ้วน ทั้งระบบการต่อสู้ การจัดการไอเทม บรรยากาศสุดกดดัน และการเล่าเรื่องผ่านไฟล์ที่ต้องสืบค้นเอง เหมาะสำหรับแฟน Survival Horror ที่ชอบทั้งความท้าทายและการร่วมมือกับเพื่อน และตอนนี้เกมได้วางขายแล้วบน Steam พร้อมให้คุณลุยฝันร้ายบนภูเขาลึกลับทันทีครับ

Jou Thunder

Content Creator สายเกมที่อยากทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ โปรดติดตามช่อง youtube.com/@JouThunder
Back to top button