5 สิ่งชวนคิดถึงที่ Resident Evil เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
ยิ่งเวลาผ่านไป มีภาคใหม่ออกมา ก็ยิ่งคิดถึงภาคเก่า ๆ มากขึ้น
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกคน หลาย ๆ คนก็คงจะเติบโตมากับเกม Resident Evil กันใช่ไหมครับ บางคนก็อาจจะเล่นเองตั้งแต่ภาคแรก แต่ถ้าใครกลัวก็อาจจะรู้จักผ่านการดูพวกพี่ ๆ เขาเล่นให้ดูเหมือนกับผม แต่ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากอะไร ถ้าคุณเป็นแฟน RE คุณก็คงมีความรู้สึกเหมือนกันกับผมว่า เกม RE ภาคหลัง ๆ มันสนุกนะ แต่มันเหมือนกับขาดอะไรบางอย่างไปที่ทำให้แฟน RE ยุคเก่า ๆ นั้นรู้สึกไม่อินเท่าที่ควร ถามว่ายังเล่นอยู่ไหมก็คงจะเล่นเพราะเป็นแฟนเกม แต่ความรู้สึกที่ขาดหายไปมันมีอะไรบ้าง เราไปชมกันครับ
1. เกมเพลย์มุมมองแบบกล้องวงจรปิด
แน่นอนว่าเรื่องนี้หลาย ๆ คนก็คงจะรู้กันอยู่แล้วเพราะผู้พัฒนาเขาก็ออกมาบอกตั้งแต่หลายปีก่อนว่า เหตุผลที่เขาต้องใช้มุมมองแบบกล้องวงจรปิดมันคือการลดทรัพยากรเครื่องของ Playstation 1 ที่สมัยนั้นเทคโนโลยีมันทำเกมได้แค่นี้ เขาเลยใช้วิธีล็อคมุมกล้องเพื่อไม่ให้กินสเปคเครื่องไปมากกว่านี้ แล้วเปลี่ยนฉากทุกครั้งที่ตัวละครเดินไป เลยทำให้เป็นมุมมองแบบกล้องวงจรปิด แต่ถึงแม้จะเป็นความไม่ได้ตั้งใจ 100% ของผู้พัฒนา แต่มันกลับเข้ากับแนวเกม Survival Horror ได้เป็นอย่างดี เพราะเราไม่รู้เลยว่าตรงหัวมุมมันจะมีอะไรรออยู่ ซึ่งในสมัยนี้ตัวเกมก็พัฒนาไปไกลมากจนเรียกได้ว่าเป็น FPS ก็ยังไหว และเราก็ยอมรับว่าเกมผีนั้นถ้าเป็น FPS มันน่ากลัวกว่าจริง ๆ แต่มันทำให้เราหวนคิดถึงมุมมองแบบกล้องวงจรปิดสมัยแรก ๆ อยู่ดีครับ มันเป็นการเล่นที่มีเสน่ห์มากเลยนะในยุคนั้น
2. ปริศนาชวนตื่นเต้นที่เรียกได้ว่างานศิลปะ
เกม Resident Evil ถ้าให้พูดถึงความสนุก อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยคือเรื่องของปริศนาหรือ Puzzle ซึ่งตั้งแต่ภาคแรกที่ออกมา มันมี Lore เนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกันอย่างคฤหาสน์ของสเปนเซอร์ ที่ต้องการให้คฤหาสน์ของเขานั้นเต็มไปด้วยกับดักและงานศิลปะราคาแพง ซึ่งพอพวกตัวเอกเข้าไปก็ทำให้ติดกับดักพวกนี้เข้าอย่างจัง และนั่นกลับเป็นความสนุกที่ห้องต่าง ๆ ถูกปิดทางไปจากปริศนาสุดลึกลับ ทั้งการเปิดไฟที่รูปภาพ การเข็นรูปปั้นให้ตกแตก การเอาเพชรไปเปิดประตู การเล่นเปียโน และอื่น ๆ อีกมากมายที่รู้สึกว่ามันเมคเซนส์กับ Lore ในเกม ในขณะที่ภาคหลัง ๆ เริ่มทำส่วนนี้ไม่ค่อยสุด บางอย่างเหมือนทำออกมาเฉย ๆ เพราะรู้ว่าคือเสน่ห์ของเกมแต่ยังขาด Lore รองรับหรือความสนุกของ Puzzle ไม่มากพอ เลยทำให้ Puzzle ของเกมดูเหมือนเป็นการเดินไปหากุญแจมาเปิดประตูเท่านั้น
3. ความรู้สึกที่ทำให้กลัวบ้านของตัวเอง
หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันหลังจากการเล่น Resident Evil ภาคแรก ๆ จบ ทุกคนจะพูดเหมือนกันว่าเราต่างกลัวบ้านของตัวเอง มันเป็นสิ่งหนึ่งที่เกมหลายเกมไม่สามารถทำได้ ในขณะที่เกมสยองขวัญอื่น ๆ ทำออกมาอยู่บนความแฟนตาซี โลกที่แตกต่างออกไป หรือสถานที่ที่เหมาะกับความสยองขวัญนั้น ซึ่งจะไม่ใช่บ้านของเราที่ดูธรรมดา มีห้องนอน มีห้องน้ำ มีห้องนั่งเล่น ซึ่ง Resident Evil สามารถสร้างความรู้สึกกลัวบ้านของตัวเองให้กับผู้เล่นได้อย่างดี ซึ่งในภาคหลัง ๆ ก็ไม่มีความรู้สึกตรงนี้แล้วเพราะว่าเริ่มออกห่างไปเรื่อย ๆ ถึงแม้ภาค 7 จะทำออกมาเป็นบ้านของคนทั่วไป แต่บรรยากาศในนั้นก็ไม่ปกติไปแล้ว ทำให้รู้สึกแฟนตาซีขึ้นเมื่อเทียบกับภาค 1 ที่เหมือนกับบ้านคนจริง ๆ เพราะทุกอย่างมันยังดูสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบเรียบร้อยครับ
4. ตัวละครหลักที่นับวันยิ่งห่างหายไปเรื่อย ๆ
ใครที่เล่นเกม Resident Evil มาตั้งแต่ภาคแรก ๆ แน่นอนว่าใครก็รู้สึกคุ้นเคยและอินกับตัวละครหลักอย่างคริส จิล แคลร์และลีออนกันอยู่แล้วใช่ไหมครับ แต่ภาคหลัง ๆ ก็ได้มีการเพิ่มตัวละครอื่น ๆ เข้ามาเพื่อเป็นการส่งไม้ต่อให้กับพวกเขา เพราะเกมนี้อิงตามเวลาของโลกจริง ยิ่งเวลาผ่านไปอายุของตัวละครก็ยิ่งแก่ตัวลงเรื่อย ๆ ก็เลยต้องมีคนรุ่นใหม่มาช่วยผลักดันซีรีส์ให้ไปไกลขึ้นนั่นเอง แต่ก็ต้องบอกว่าคนเก่า ๆ ก็อยากเจอตัวละครเก่า ๆ ครับ เราไม่ได้มีปัญหากับตัวใหม่ ๆ เราเรียนรู้ได้และเล่นได้ แต่เพียงแค่ว่าทุกครั้งที่เล่นเกม Resident Evil เราก็อยากจะเห็นว่าตัวละครที่เรารู้จักมาตั้งแต่ยังเด็กนั้น ตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงบ้าง ทำอะไรอยู่ ยังสู้ได้ไหม หรือวางมือไปทำอย่างอื่นแล้ว มันเป็นความคิดถึงนั่นแหละครับ
5. ฉาก Iconic สุดตราตรึงที่ฝังไปถึงหัวใจ
ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เล่นเกม Resident Evil มาตั้งแต่ภาคเก่า ๆ จะต้องมีฉากฝังใจหลายฉากแน่ หรือไม่ถ้าไม่ฝังใจก็ต้องมีฉากที่จำได้แม่น เพราะว่าคัตซีนต่าง ๆ เหล่านั้นมันเป็น Iconic ของเกมที่เรียกได้ว่าภาคใหม่ ๆ นี้ไม่ค่อยมีให้เห็นหรือฝังใจแล้ว เช่น ฉากหันหลังกลับมามองของซอมบี้ภาคแรกที่เรียกได้ว่าติดตามเด็ก ๆ หลายคนไปจนนอนไม่หลับ หรือฉากเปิดตัว Nemesis ที่สังหาร Brad ด้วยการเสียบหนวดทะลุปากที่จำฝังใจไปนานในยุคนั้น และยังมีอีกหลายฉากมากมายที่ถึงแม้กราฟิกจะไม่ได้สมจริงเหมือนในยุคนี้ แต่ก็สร้างความหลอนให้กับผู้เล่นได้ไม่น้อย ขนาดคนไม่เล่นที่เป็นเด็กเกาะเบาะยังจำติดตาเลยทีเดียว
และนี่ก็คือ “5 สิ่งชวนคิดถึงที่ Resident Evil เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม” เป็นยังไงบ้างครับตรงกับความคิดเห็นของเพื่อน ๆ บ้างหรือเปล่า หรือว่ามีส่วนไหนอยากจะคอมเมนต์เสริมก็บอกกันได้เลยนะครับ โดยส่วนตัวไม่เคยเกลียด Resident Evil ยุคใหม่ครับ ถ้ามีภาคใหม่มาก็เล่นทุกภาคแน่นอน เพียงแต่ว่าคิดถึงเสน่ห์ของภาคเก่า ๆ ที่เริ่มจางหายไปก็เท่านั้นเอง 😀