ข่าวสกู๊ปพิเศษ

10 สิ่งที่คุณควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบต่อสู้ใน Brown Dust II

เข้าใจแมคคานิคมากขึ้น เพิ่มโอกาสสู้ชนะได้มากขึ้น

สวัสดีเพื่อน ๆ ที่กำลังเล่น Brown Dust II กันอยู่นะครับ อย่างที่เราทราบกันว่าเกมนี้เป็นเกมแนว Turn-based สายวางกลยุทธ์ที่ต้องคิดพอสมควรถึงจะเล่นให้ดีได้ และระบบ Battle ของเกมนี้ก็ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงพอสมควร ถ้าไม่เข้าใจแมคคานิคของเกมเพลย์ก็เป็นเรื่องยากที่จะผ่านด่านหลัง ๆ ได้ เพราะเกมนี้ส่วนใหญ่เปิด Auto ไม่ค่อยผ่าน แถมเสียเลือดทีนึงส่งผลยาวไปยังการต่อสู้ส่วนหลัง ๆ ด้วย จะกินอาหารก็เปลืองมาก ทำให้เราควรคิดอย่างรอบคอบและทำความเข้าใจระบบเกมนี้เพื่อชัยชนะที่ไม่เปลืองงบมากครับ เรามาดูสิ่งที่คุณควรรู้เป็นพื้นฐานในการต่อสู้กันดีกว่า

1. ฝ่ายเราจะได้เริ่มโจมตีก่อนเสมอ และไม่จำกัดเวลาคิด

image 2363

ทุกครั้งที่เกิดการต่อสู้ขึ้นไม่ว่าจะเดินไปชนมอนสเตอร์ในแผนที่ การเจอเนื้อเรื่อง การสู้บอส การ PVP กับผู้เล่น ใด ๆ เลยก็ตามเราที่เป็นผู้คุมเกมจะได้เปิดการโจมตีก่อนเสมอครับ ดังนั้นในเทิร์นแรกนี้ควรจัดหนักจัดเต็มให้ได้คุ้มที่สุด เพราะถ้าคุณปิดเกมไม่ได้หรือสร้างความได้เปรียบไม่มากพอ เทิร์นถัดไปของศัตรูคือมันจะเอาคืนอย่างสาสมแน่นอน ซึ่งเกมนี้ไม่จำกัดเวลาคิดครับ คุณจะคิดวกวนนานเท่าไหร่ก็ได้ เน้นย้ำแค่เทิร์นแรกเอาให้คุ้มที่สุด แล้วเทิร์นต่อไปค่อยปรับตัวตามสถานการณ์ครับ

2. ลำดับเทิร์นอยู่ที่เราเลือก ให้ตัวไหนตีก่อนหลังก็ได้

image 2362

เกมนี้ไม่มีระบบ Speed มากำหนดว่าตัวละครไหนเร็วกว่าหรือช้ากว่า และลำดับการออกเทิร์นจะเป็นไปตามที่เรากำหนด 100% โดยเราสามารถสับเปลี่ยนลำดับได้ที่หน้าตัวละครทางซ้ายของจอ ตัวที่อยู่บนสุดจะได้เริ่มก่อนเสมอ เพราะงั้นตามหลักแล้วถ้ามีตัวที่ต้องแจกบัฟเพื่อน หรือต้องไป Knock back ศัตรูก็ควรให้ออกก่อนตัวที่ยิงดาเมจเสมอ ไม่งั้นลำดับเทิร์นจะผิดเพี้ยนแล้วคอมโบจะเสียได้ และคุณไม่จำเป็นต้องจัดลำดับแบบนี้เสมอไป สามารถเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้อีกด้วย

3. สกิลที่ใช้มีแต้มสกิลต้องจ่าย แต้มสกิลจะฟื้นจากการตีปกติ

image 2361

Action แต่ละครั้งของตัวละคร จะมีส่วนที่เป็นเบสิคและสกิล ส่วนที่เป็นเบสิคจะไม่กินแต้มสกิล ประกอบด้วยการโจมตีธรรมดาและการ Knock back ศัตรู แต่ส่วนอื่น ๆ นอกจากนั้นจะเป็นสกิลทั้งหมด แต่ละสกิลจะมากน้อยตามชุด Costume ของตัวละครตัวนั้น บางตัวมี 1 สกิล บางตัวอาจจะ 2-3 ก็เป็นไปได้ แต่ละสกิลจะมีจุดกลม ๆ กำหนดอยู่ว่ากินแต้มสกิลเท่าไหร่ และเราสามารถดูด้านล่างหน้าจอได้ว่าปัจจุบันเราเหลือกี่แต้ม ยิ่งคุณใช้เยอะ เทิร์นต่อไปก็จะทำให้คุณไม่มีสกิลไว้ใช้ แต่ก็สามารถฟื้นแต้มสกิลได้จากการโจมตีปกติ ครั้งละ 1 แต้ม เพราะฉะนั้นบริหารดี ๆ ครับ

4. สามารถเปลี่ยนตำแหน่งการยืนได้ทุกเทิร์น

image 2360

ในเกมเพลย์นั้นคุณสามารถสับเปลี่ยนตำแหน่งการยืนได้ทุกเทิร์นครับ ในช่องจะมีความกว้าง 3×4 รวม 12 ช่อง ซึ่งสามารถจับวางได้ตามเห็นสมควร ไม่จำเป็นที่ตัวแทงค์ต้องอยู่หน้า หรือตัวดาเมจต้องอยู่หลังเสมอไป ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่ใช้และการปรับตัวรับการโจมตีของศัตรูครับ เพราะบางครั้งศัตรูอาจจะโจมตีตัวหลังเป็นหลัก บางครั้งรัศมีสกิลของศัตรูอาจจะเป็นเครื่องหมายบวก ถ้าเรายึดติดกับการยืนฟอร์มเดิม ๆ มันจะทำให้เรารับมือสถานการณ์ได้ไม่กว้าง ดังนั้นถ้าเป็นไปได้พยายามเปลี่ยนตำแหน่งการยืนทุกเทิร์นดีกว่าครับ

5. ศัตรูจะโจมตีตัวที่ตรงแถวเดียวกันเป็นหลัก

image 2358

จากที่กล่าวมาว่าตำแหน่งพื้นที่การยืนจะมี 12 ช่อง ซึ่งฝ่ายศัตรูเองก็มีจำนวนช่องเท่ากับเรา และตารางจะมีแถวตรงกัน ดังนั้นตัวละครฝ่ายเราตัวไหนยืนตรงกับศัตรูแถวไหน มักจะโดนโจมตีตามระยะสกิลเสมอครับ แต่จะโจมตีตัวหน้าหรือตัวหลังก็ขึ้นอยู่กับว่าศัตรูตัวนั้นตีทะลุได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็จะตีตัวหน้าสุดเสมอ ดังนั้นเพื่อน ๆ สามารถจัดการได้ว่าจะเอาตัวละครไหนไปรับการโจมตีให้เพื่อนในทีมแล้วเฉลี่ยดาเมจได้ครับ แต่ถ้าตัวละครฝ่ายเราในแถวนั้นตายหมดแล้ว ศัตรูแถวนั้นจะเปลี่ยนแถวมาโจมตีตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดแทน

6. การ Knock back หรือการ Pull จะสามารถดาเมจให้ตัวที่ถูกชนเสมอ

image 2357

เกมนี้จะมีการ Knock back และการ Pull เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งศัตรูได้เล็กน้อย ซึ่ง Knock back คือการทำให้เป้าหมายถอยหลังตามทิศทางที่กำหนด อาจจะถอยไปตรง ๆ หรือถอยแบบเฉียง หรือเลื่อนไปซ้ายหรือขวาก็ได้ ส่วนการ Pull คือการดึงให้เลื่อนขึ้นมาข้างหน้าตามระยะที่สกิลกำหนดเช่นกันกับ Knock back และทั้งสองอย่างนี้โดยพื้นฐานจะมีดาเมจเพียงแค่ 1 เท่านั้น ยกเว้นปลายทางที่ Knock back หรือ Pull นั้นมีตัวละครตัวอื่นยืนรออยู่แล้วดึงมาชนกัน ตัวที่ถูกชนจะรับดาเมจเสมอ แต่เป้าหมายในการดึงจะเสียเลือด 1 เท่าเดิมครับ

7. สามารถกดดูได้ว่าศัตรูตัวไหนเล็งใคร และโดนดาเมจเท่าไหร่

image 2356

ถ้าคุณยังไม่เข้าใจแมคคานิคแบบ 100% แล้วกังวลว่าตัวละครฝ่ายเราจะรอดไหม ถูกศัตรูตัวไหนเล็งบ้าง หรือถ้าเอาไปแทงค์จะเลือดลดเหลือเท่าไหร่ คุณสามารถเช็คได้คร่าว ๆ จากการกดดูที่ตัวละครฝ่ายศัตรูทีละตัวครับ มันจะบอกด้วยการโยงเส้นว่าศัตรูตัวนี้กำลังจะโจมตีตัวไหนของคุณ และการโจมตีนี้เป็นการโจมตีปกติหรือใช้สกิล โจมตีด้วยดาเมจเท่าไหร่ ถ้าตัวละครของเราถึงตายจะขึ้นคำว่า K.O. เหมือนกับที่เราเล็งศัตรูเหมือนกัน ดังนั้นก่อนจะกดเริ่มเทิร์น ลองจิ้ม ๆ ดูคร่าว ๆ ว่าอีกฝ่ายจะเดินเกมยังไง ส่งผลประมาณไหนบ้าง จะช่วยให้คาดเดาได้ง่ายขึ้นครับ

8. หลุมศพคนตายจะกินพื้นที่ทิ้งไว้ ชนไม่ได้ เลื่อนไม่ได้ กำจัดไม่ได้

image 2355

ไม่ว่าฝ่ายเราหรือฝ่ายศัตรู หลังจากจัดการจน K.O. แล้วจะปรากฎป้ายหลุมศพขึ้นที่ช่อง ณ ตำแหน่งที่ตัวละครนั้น ๆ ตายลง ซึ่งหลุมศพนี้จะทำหน้าที่เป็นสิ่งกีดขวาง ไม่ให้เราสามารถเล่นได้อย่างสะดวก ก็คือย้ายตำแหน่งตัวละครไปยังหลุมศพไม่ได้ ไม่มี Unit ให้โจมตี Knock back ป้ายหลุมศพก็ไม่ได้ แถมยังกระแทกให้ศัตรูไปชนหลุมศพก็ไม่มีดาเมจ ทำอะไรกับมันไม่ได้เลย ถือว่าเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งที่จะเกิดขึ้นและอาจทำให้เสียคอมโบในหลาย ๆ สถานการณ์ ดังนั้นคุณไม่ควรเล็งฆ่าทีละตัว ถ้าเป็นไปได้ให้เก็บทีละ 2-3 ตัวขึ้นไปจะคุ้มกว่า ไม่งั้นคุณได้ปวดหัวกับหลุมศพแน่นอนครับ

9. เมื่อศัตรูมีออร่า เป็นสัญญาณว่ามันกำลังจะใช้สกิล

image 2354

ทริคอีกอย่างหนึ่งที่ใช้มองผ่าน ๆ แล้วรู้เลยว่าควรระวังตัวหรือเปล่าคือออร่าของศัตรูครับ โดยศัตรูที่ใช้สกิลจะปรากฎออร่าขึ้นมา อาจจะเป็นสีแดง สีม่วง สีเหลือง สีเขียว ก็แล้วแต่ นั่นมีความหมายว่ามันจะไม่โจมตีธรรมดาหรือ Knock back คุณ ให้คุณจิ้มดูว่าสกิลนั้นทำอะไร ถ้าโจมตีจะมีรัศมีกว้างแค่ไหน ความแรงเท่าไหร่ มันจะช่วยเตือนคุณได้คร่าว ๆ ว่าถ้าเห็นออร่าคือมาแน่ ส่วนตัวไม่มีออร่าก็ยังสามารถปล่อยผ่านไปก่อนได้ครับ

10. เข้าใจระยะสกิล Me / Ally / Very Front / Skip

image 2353

ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีปกติ การ Knock back หรือการใช้สกิลต่าง ๆ แต่ละอย่างจะมีระยะสกิลของมันอยู่ ซึ่งจะแสดงผลต่างกัน โดยส่วนมากถ้าโจมตีปกติเป็นแบบไหน การ Knock back ก็จะตรงกับระยะการโจมตีปกติด้วย โดยระยะที่คุณควรทำความเข้าใจมีดังนี้

Me – ระยะสกิลที่ใช้กับตัวเองคนเดียวเท่านั้น อาจเป็นสกิลบัฟ การยั่วยุ หรือเพิ่มสถานะอะไรบางอย่าง

Ally – ระยะสกิลที่มีผลกับตัวละครฝ่ายเราทั้งหมด อาจเป็นสกิลบัฟหรือสกิลฮีลเพิ่มเลือด

Very Front – ระยะสกิลประเภทนี้คือโจมตีศัตรูตัวที่อยู่หน้าสุดก่อนเสมอ ถ้าศัตรูข้างหน้าไม่ตายจะเล็งตัวหลังไม่ได้

Skip – ระยะสกิลที่ข้ามศัตรูตัวหน้าสุด 1 ตัวเสมอ เช่น ถ้าในแถวมีศัตรู 3 ตัวเรียงกันเป็นแนวตั้ง จะเล็งไปที่ตัวที่ 2 เสมอ

และนี่คือ “10 สิ่งที่คุณควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบต่อสู้ใน Brown Dust II” หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ ที่เล่นเกมนี้อยู่นะครับ ใด ๆ เลยก็คือสิ่งที่กล่าวมาทั้ง 10 ข้อนี้ เป็นเพียงระบบพื้นฐานที่เกมจะดำเนินให้แบบปกตินะครับ ยกเว้นว่าตัวละครหรือศัตรูบางตัวถูกออกแบบให้มีความพิเศษและแหกกฎเหล่านี้ได้ก็มีอยู่เหมือนกัน ใด ๆ เลยคือถ้าเข้าใจพื้นฐานแล้ว ควรอ่านสกิลให้ดีเพื่อเตรียมรับมือความแปรปรวนที่อาจเพิ่มเข้ามาครับ

ดาวน์โหลดเกม

image 173

Jou Thunder

เร็ว แรง ติดคริ คือคติของผม โปรดติดตามช่อง youtube.com/@JouThunder
Back to top button