พาทัวร์ ‘Atlus Fes’ งานฉลองครบรอบ 35 ปีของเจ้าพ่อเกม Turn-Based JRPG อย่าง Atlus

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทางทีมงาน This Is Game Thailand มีโอกาสได้รับเชิญไปงาน Atlus Fes ซึ่งจัดขึ้นที่ย่านอากิฮาบาระเมื่อ 8 – 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยงาน Atlus Fes นี้ถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 35 ปีของเจ้าพ่อเกม JRPG อย่าง Atlus นั่นเอง

ซึ่งในงานก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากเกมเมอร์ชาวญี่ปุ่น โอกาสนี้ทางทีมงาน This is Game จึงไม่พลาดที่จะนำภาพบรรยากาศของงานมาฝากทุกๆ คนกัน นอกจากนี้ทางทีมงานยังได้มีโอกาสทดลองเกม Shin Megami Tensei V Vengeance และ Metaphor: ReFantazio ภายในงานอีกด้วย จะเป็นอย่างอย่างไรนั้น ไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ

ภาพบรรยากาศภายในงาน

Shin Megami Tensei V Vengeance

เกมเพลย์

ยังคงสไตล์เดิมของเกมซีรีส์นี้ คือ Turn-Based ที่ผู้เล่นต้องออกคำสั่งในแต่ละเทิร์น การโจมตีมีทั้งแบบ Attack ธรรมดา และใช้มานา(MP) ซึ่งสามารถติดคริติคอลเพิ่มความรุนแรงแก่ศัตรูได้ทั้งสองแบบ และนอกจากการโจมตีในแต่ละเทิร์นแล้ว ยังมีป้องกันด้วยเมนู Guard
แอกชั่นของตัวละครมาในรูปแบบกราฟฟิก 3D ในแบบยุคปัจจุบัน

สกิล

มีความหลากหลายให้ผู้เล่นสามารถปรับได้ตามกลยุทธ์ ทั้งโจมตีศัตรูครั้งละตัว และในบางสกิลสามารถโจมตีหมู่ได้

เกมมี Megatsushi ให้ผู้เล่นได้ปล่อยอัลติ โดยต้องสะสมเกจให้เต็มจากการโจมตีศัตรูในแต่ละเทิร์น ซึ่งจะสร้างความแดมเมจแก่ศัตรูอย่างรุนแรง

กราฟฟิก

ผสมกันระหว่าง 2.5D และ 3D ในรูปแบบการ์ตูนแอนิเมชั่นที่คุ้นตา โดยในแอกชั่นของตัวละครระหว่างต่อสู้เป็นแบบ 3D ส่วนฉากจะมาในรูปแบบ 2.5D แต่สามารถผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืนสวยงาม

อื่นๆ

มีไกด์แนะนำปุ่มเพื่ออำนวยความสะดวกในการเล่น เช่น R1 เปลี่ยนการควบคุมตัวละคร นอกจากนี้ตัวเกมยังอำนวยความสะดวกให้ผู้เล่นได้เทเลพอร์ท

จุดเด่น

• กราฟฟิกที่ผสมผสานกันระหว่าง 2D และ 3D กันได้อย่างลงตัว
• มีตัวละครและชุดสกิลที่หลากหลาย ทำให้ผู้เล่นปรับกลยุทธ์ได้ตามสถานการณ์

ข้อสังเกต

• เกมเพลย์แบบ Turn-Based ที่ไม่ต่อเนื่อง อาจจะทำให้ผู้เล่นบางกล่มไม่คุ้นเคย แต่ก็ทำให้ผู้เล่นได้มีเวลาคิดแผน หรือปรับกลยุทธ์ได้

Megami Tensei เป็นเกม JRPG ที่เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1987 โดยมีการออกทั้งภาคหลักและภาคเสริมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยเกม Shin Megami Tensei V Vengeance ภาคนี้มีกำหนดการวางจำหน่ายทั้งใน PS, Xbox, NSW, PC via Steam วันที่ 14 มิ.ย. ที่จะถึงนี้

Metaphor: ReFantazio

เวอร์ชั่นที่ผู้เขียนได้ทดลองเล่นจะมี 3 โหมดคือ Scenario, Dungeon และ Boss Mode

เกมเพลย์

เกมนี้ยังคงรูปแบบเกม JRPG ในสไตล์เดิม และมีระบบช่วยเล่นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เล่นตามสมัยนิยม เช่น ฟังก์ชั่น Auto Battle ด้วยการกด R ซึ่งนอกจากอำนวยความสะดวกแล้ว ผู้เล่นยังสามารถศึกษารูปแบบ, วิธีการเล่นจากการใช้ Auto Battle ได้อีกด้วย

ตัวเกมยังมีไกด์คอยแนะนำวิธีการเล่นให้ตลอด ซึ่งผู้เล่นมือใหม่เกม JRPG ทั้ง แผนที่คอยบอกที่ช่วยให้ผู้เล่นไม่หลงทาง(เหมาะกับผู้เขียนมากกก… 555)

กราฟฟิก

ผสมกันระหว่าง 2D และ 3D ในรูปแบบการ์ตูนแอนิเมชั่นที่คุ้นตา โดยในแอกชั่นของตัวละครระหว่างต่อสู้เป็นแบบ 3D ส่วนฉากจะมาในรูปแบบ 2D แต่สามารถผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืนสวยงาม

นอกจากนี้ยังมีคัทซีนเดินช้าๆ ตอนจบด่าน อย่างเท่!! น่าเสียดายว่าตอนทดสอบผู้เขียนเล่นถึงแค่เข้าฉากจะตีบอส แต่ไม่ทัน เนื่องหมดเวลาทดสอบซะก่อน T_T

จุดเด่น

• กราฟฟิกที่ผสมผสานกันระหว่าง 2D และ 3D กันได้อย่างลงตัว
• มีระบบช่วยเล่น ทั้งแผนที่คอยบอกทาง และไกด์ปุ่มต่างๆ รวมทั้ง Auto Battle
• คัทซีนในสไตล์แอนิเมชั่นที่เราคุ้นเคย

ข้อสังเกต

• เกมเพลย์ในสไตล์ Turn-Based ที่ไม่ต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่เหมาะกับผู้เล่นที่ใจร้อนหรือต้องการเกมเพลย์ที่ต่อเนื่องลื่นไหล แต่ก็ชดเชยด้วยคัทซีนเพลินๆ

Metaphor: ReFantazio ผลงานเกมแนว RPG ใหม่ล่าสุดจากทีมงานผู้สร้างเกม Persona 5 และเกม RPG ชื่อดังอื่นๆ โดยสร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 35 ปีของ Atlus เกมมีกำหนดการวางจำหน่ายบน Xbox Series X|S, PlayStation 4, PlayStation 5 และ PC ภายในวันที่ 11 ตุลาคมปีนี้