10 เหตุผลที่ควรเล่น (หรือกลับมาเล่น) GTA: San Andreas

หากพูดถึง San Andreas คุณจะคิดถึงอะไร? คำถามนี้ผมว่าเกมเมอร์หลายท่านคงจะมีคำตอบเตรียมไว้อยู่ในใจกันอยู่แล้วหลากหลายคำตอบ อาจจะมีตั้งแต่ “ ก็ GTA ภาคที่สนุกที่สุดยังไงล่ะ! ”, “ เป็นภาคที่ภารกิจยากโคตรๆ “ หรือจะเป็น “ All you had to do was following the damn train CJ! “ และอื่นๆ อีกมากมาย ต้องยอมรับเลยว่า GTA ภาคนี้เป็นอีกหนึ่งภาคในดวงใจไม่แพ้ภาคไหนๆ ของซี่รี่ส์นี้เลย เพราะด้วยระบบที่ไม่มีในภาคอื่น, กิจกรรมหลายๆ อย่างที่มีให้ทำมากมาย ไปจนถึง Easter Eggs สุดคูลที่ต่อให้ภาคอื่นมี แต่ก็เทียบไม่ติด (GTA 5 ก็มี Easter Eggs ครับ) โดยในวันนี้เนื่องในโอกาสที่เกม GTA: San Andreas แจกฟรี ผมจึงได้ขอถือโอกาสแนะนำ 10 เหตุผลที่ควรเล่น (หรือกลับมาเล่น) GTA: San Andreas ให้ทั้งแฟนๆ ทั้งหน้าใหม่และเก่ามาอ่านกันด้วยล่ะครับ

1. Customization ตัวละครที่โคตรจะอิสระ

ข้อนี้ค่อนข้างจะชัดเจนที่สุดสำหรับเกมภาคนี้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือการเปิดโอกาสให้เราสวมบทบาทเป็น CJ ได้อย่างเต็มที่ (ซึ่งมันก็เต็มที่จริงๆ นะ) ไม่ว่าคุณอยากจะให้ CJ ผอมเก้งก้างเป็นไม้เสียบผี, กล้ามโตบึกบึนเหมือนอาร์โนลด์คนเหล็ก หรือจะอ้วนฉุเหมือน Big Smoke ก็สามารถทำได้ (การจะเปลี่ยนรูปร่างของ CJ ก็ต้องหมั่นออกกำลังกายนะครับถึงจะมีกล้าม หรือถ้าอยากอ้วนก็ต้องกินเยอะๆ) และนอกจากระบบร่างกายของ CJ แล้ว ตัวเกมยังมีระบบย่อยอื่นๆ อีก เช่น ค่า Sex Appeal หรือค่าความดึงดูดสาวๆ , Respect หรือค่าความเคารพที่เราจะได้ตอนจบบางภารกิจ (บางภารกิจจบแล้วจะไม่ได้เงิน) , การปรับแต่งตัวละคร ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมและรอยสักยังอยู่ครบไม่แพ้ภาค 5 และที่สำคัญเกมนี้ตัวละครของเรามันหิวได้ด้วย! (ตอนผมเล่นภาคนี้ครั้งแรกนึกว่าเป็นเกม The Sims เลยครับ 555) ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ที่คุณจะได้สัมผัสภายในตัวเกมครับ

2. แผนที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลและมีความหลากหลาย ชวนให้เราออกสำรวจ

ถ้าคุณคิดว่าแผนที่ในเกมภาค 5 มันสุดยอดแล้ว ผมขอท้าให้คุณกลับมาลองขับสำรวจแผนที่ในเกมภาคนี้กันอีกสักครั้ง ถึงแม้ดูเผินๆ ตัวแผนที่ในภาค San Andreas อาจจะไม่ได้มีความสวยสมจริงเท่ากับในภาค 5 แต่ขอบอกเลยว่าแผนที่ในภาค San Andreas นั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศที่มีความหลากหลายมากๆ ตั้งแต่เขตทะเลทราย (เกาะ 3) ที่เป็นทุ่งโล่งกว้างเต็มไปด้วยทะเลทรายกว้างใหญ่ที่บางครั้งคุณอาจจะเจอกับพายุทรายเข้าให้ หรืออาจจะเป็นเมืองร้างซ่อนอยู่ใจกลางทะเลทราย ไปจนถึงพื้นที่เขตชนบท เต็มไปด้วยป่าทึบที่วันดีคืนดีจะมีหมอกลง ทำให้บรรยากาศกลับหลอนขึ้นอย่างน่าประหลาด (แถมยังมีเรื่องเล่าน่ากลัวๆ หลายอย่างเกี่ยวกับป่าในภาค San Andreas อีกด้วยนะครับ) ซึ่งตัวบรรยากาศที่มีความแตกต่างของแต่ท้องถิ่นในแผนที่ของ GTA: San Andreas ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายของเกมภาคนี้เลยทีเดียว

3. ตัวละครที่มีเสน่ห์

มาถึงอีกหนึ่งข้อที่มองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือตัวละครของเกมภาคนี้ที่พูดได้เลยว่ามีเอกลักษณ์และน่าจดจำหลายตัวเลยทีเดียว ตั้งแต่ตัวละครตัวแรกที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือพี่อ้วน Big Smoke ของเราที่มีนิสัยชอบกินเป็นชีวิตจิตใจและเป็นเหมือนตัวสายฮาประจำแก๊ง แถมความดังของพี่แกก็ดูจะดังเอาซะมากๆ จนกลายเป็นมีมสุดฮาบนโลกอินเทอร์เน็ตไปแล้วไม่รู้กี่มีม (มีมพี่แกเยอะมากจริงๆ) หรือจะเป็นตัวละครสายดึงดาวอย่าง Ryder ที่เขาคนนี้จะมาพร้อมมาดแร็ปเปอร์สายลอย กับสไตล์การพูดที่ฟังแล้วก็งงว่านายพูดอะไรของนายอ่ะ (ตัวละครมีต้นแบบมาจากแร็ปเปอร์ Easy E) หรือจะเป็นตัวละครแก๊งตำรวจตัวร้ายของเรื่องอย่าง Tenpenny ที่คอยตามเบียดเบียน CJ ตลอดทั้งเรื่อง ก็มีบุคลิกที่ชวนให้เราคันมือคันเท้าเสียเหลือเกิน (ตัว Tenpenny พากย์เสียงโดย Samule L. Jackson ด้วยนะ ไม่ธรรมดา) ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ นะครับ (ตัวละครเจ๋งๆ มีอยู่อีกเยอะเลย)

4. เกมนี้มี Jetpack!

ถึงแม้ว่าตัวเกมภาค 5 จะมีการเพิ่ม Jetpack มาแล้วก็ตาม (ตัวเกมในตอนแรกไม่มีนะครับ) แต่อย่างไรก็ตาม GTA: San Andreas ก็ถือเป็นภาคแรกและภาคเดียวที่มี Jetpack ให้เราใช้ในตัวเกมตั้งแต่แรก ซึ่ง Jetpack ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะทำให้เราสามารถบินว่อนไปมาได้ทุกหนแห่ง (บอกเลยว่าสะดวกสบายจนลืมรถยนต์ไปเลย) และวิธีที่เราจะได้ Jetpack มาใช้งานนั้นมีอยู่สองวิธีด้วยกันได้แก่ ข้อแรกก็คือการกดสูตรโกง และอีกข้อหนึ่งก็คือการเล่นภารกิจตามเนื้อเรื่อง ซึ่งจะมีอยู่ภารกิจหนึ่งที่เราต้องเข้าไปบุก Area 69 (ชื่อคุ้นๆ ไหมครับ 555) เพื่อทำการโจรกรรม Jetpack หนีออกมาจากฐานทัพ แถมหลังจากจบภารกิจ เรายังสามารถนำมันออกมาใช้บินเล่นได้ด้วยนะ ไม่ใช่เพียงแค่อุปกรณ์ที่ใช้ได้แค่ในเนื้อเรื่องเท่านั้น บอกได้เลยว่าสนุกแน่นอน

5. ภารกิจหลักที่มีความหลากหลายไม่จำเจ

ถ้าไม่พูดถึงภารกิจในเกมก็คงจะแปลกไปสักหน่อย จริงไหมล่ะครับ เพราะในเกม GTA ทุกๆ เกม นอกจากเราจะได้ขับรถเล่นชมวิวทิวทัศน์ในแผนที่เปิดกว้างแล้วเนี่ย การทำภารกิจหรือมิสชั่นภายในเกมก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญของเกมซี่รี่ย์นี้เลยก็ว่าได้ โดยตัวภารกิจในเกม GTA จะมีความหลากหลายมากๆ ตั้งแต่การขับมอเตอร์ไซค์ไล่แก๊งคู่อริ (หรือที่เรารู้จักในชื่อ Damn Train Mission) ไปจนถึงภารกิจลอบขโมยของในฐานทัพ Area 69 ก็มีให้เราได้เล่นเหมือนกัน ซึ่งตัวภารกิจที่ให้อารมณ์ที่หลากหลายแบบนี้ในตัวเกมภาคอื่นก็อาจจะมีอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ความหลากหลายและความแปลกของภารกิจในเกม GTA: San Andreas นั้นก็มีความโดดเด่นไม่แพ้ภาคไหนๆ เลย (ส่วนตัวผมว่าน่าจะเป็นภาคที่ภารกิจให้อารมณ์หลากหลายมากที่สุดด้วยนะ) 

6. ภารกิจเสริมที่น่าเล่นและมีความหมาย

นอกจากตัวภารกิจหลักที่ยอดเยี่ยมแล้ว GTA: San Andreas ยังมีภารกิจเสริมให้เราได้เล่นเพลินๆ อีกหลายอย่าง (บางภารกิจก็ไม่มีให้เล่นในภาคอื่นๆ ด้วย) ตั้งแต่ภารกิจลักขโมยของในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นขโมย T.V., เครื่องเสียง, เงิน, เครื่องเกมและทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งตัวภารกิจนี้จะทำได้ในเวลากลางคืนเท่านั้น และในแต่ละพื้นที่ของเมือง จำนวนบ้านที่เราสามารถเข้าไปขโมยของได้ก็จะมีจำนวนที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ผู้เล่นอย่างเรากลับมาเล่นภารกิจเสริมนี้เรื่อยๆ (บ้านที่เราเข้าไปขโมยก็จะมีของแตกต่างกันด้วย หายห่วงเรื่องบ้าน ก๊อปวางได้เลย) แถมตัวภารกิจลักขโมยก็มีความท้าทายให้เราต้องใช้ฝีมือในการลอบเร้นระดับนึงเลย เพราะทุกการกระทำของเราจะมีเสียงด้วย ทำให้ต้องมีการคิดวางแผนใช้ได้เลย บวกกับภารกิจเสริมทั่วไปอย่างภารกิจจับโจรหรือภารกิจช่วยคนป่วยก็จะมีรางวัลตอบแทนนอกจากเงินอีกด้วย ทำให้เรามีทางเลือกในการเล่นภารกิจเสริมมากมายและทุกภารกิจก็มีรางวัลตอบแทนเราอีกต่างหาก

7. เรื่องเล่าปากต่อปาก (Myths) ที่มากมายของตัวเกม

ก่อนที่จะลงรายละเอียดในข้อนี้ ผมขอนุญาติเท้าความสักเล็กน้อยก่อนนะครับว่าภาคนี้นั้นเต็มไปด้วยเรื่องเล่าปากต่อปาก หรือ Myths ค่อนข้างเยอะหลายเรื่องเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากช่วงที่เกมออกวางจำหน่ายใหม่ๆ อินเทอร์เน็ตยังไม่เป็นที่แพร่หลายทำให้การพูดบอกต่อปากต่อปากในหมู่เกมเมอร์เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องเล่าดังกล่าวก็มีตั้งแต่ในเกมมี Big Foot หลบซ่อนตัวในเขตป่าย่านชนบท (เรื่องนี้เป็น Myth ที่ดังมากจนถึงหู Rockstar เลยทีเดียว), เมืองร้างในเขตทะเลทรายที่ไม่รู้ว่ามีอยู่ได้อย่างไร, ฆาตกรอย่าง Piggsy และ Leather Face ก็มี หรือจะเป็นรถผีสิงที่อยู่ดีๆ ก็มาขับวนเวียนให้เราเห็นกลางป่าแบบหาที่มาที่ไปไม่ได้ (ช่วงเวลานั้นจากเกม GTA เล่นสนุกๆ ก็กลายเป็นเกมน่ากลัวไปเลยทีเดียว) แต่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของภาคนี้เลยก็ว่าได้ครับ เพราะจนถึงปัจจุบันเรื่องเล่าเหล่านี้ก็ยังเป็นเรื่องที่กลุ่มผู้เล่นยังคงพูดถึง (และมีการทำ mod ใส่ไปในเกมจริงๆ ด้วย) และก็ไม่มีตัวเกมภาคไหนที่มี Myth มากท่ากับเกมภาคนี้อีกด้วย

8. อาวุธที่สุดแหวก แปลกที่สุดแล้ว

ถ้าคุณคิดว่า GTA V มีอาวุธให้ใช้อย่างมากมายแล้วนั้น ผมก็ขอให้คุณลองมาเล่นในภาค San Andreas ดูบ้าง เพราะในเกมมีอาวุธหลายชนิดมากๆ (และบางอันก็แปลกมากๆ ด้วย) ตั้งแต่ช่อดอกไม้ที่คุณสามารถเก็บได้ในแผนที่, ดาบคาตานะก็มีให้เราได้ใช้งาน, เลื่อยไฟฟ้าก็มีให้เราเก็บมาเลื่อยคนเล่นๆ ไปจนกระทั่งของเล่นผู้ใหญ่อย่าง Dildo ก็มีให้เราเอามาไล่ทุบชาวบ้านได้โดยไม่ต้องเกรงใจใคร (แหม่นี่มัน Saints Row ชัดๆ) นอกจากที่กล่าวมา ยัง,uตัวเลือกอาวุธให้ใช้อีกหลากหลายมากมาย (สูตรกดอาวุธมี 3 สูตรถ้าผมจำไม่ผิด) บอกได้เลยว่ามันส์แน่นอน

9. กิจกรรมต่างๆ ภายในเกมที่มีให้เราได้เล่น

นอกเหนือจากภารกิจที่น่าเล่นต่างๆ ภายในตัวเกมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับตัวเกมภาคนี้เลยก็คือ Side Activity หรือกิจกรรมเสริมอื่นๆ ที่มีให้เราได้เล่นตั้งแต่การเข้ายิมออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามโตๆ แข็งแรง (แถมระบบออกกำลังก็ทำมาละเอียดระดับนึงด้วยนะครับ ไม่น้อยหน้าเกมอย่าง The Sims เลยเชียวล่ะ) , การจีบสาวและพาไปออกเดท (ผู้หญิงก็มีให้เราเลือกหลายคนด้วยนะทำเป็นเล่นไป และถ้าเราเล่นไม่ดีก็จะมีการโดนบอกเลิกด้วยนะเออ) หรือจะเป็นการฝึกศิลปะการต่อสู้ให้กับตัวละครได้มีท่วงท่าในการออกหมัดที่ดูเท่ขึ้น (สถานที่ฝึกมี 3 ที่ให้เราเลือกสไตล์ได้อย่างอิสระ และเราก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอด) หรือจะเป็นการทำสงครามชิงพื้นที่แก๊งที่เราจำเป็นต้องเข้าปะทะกับแก๊งคู่อริในพื้นที่ต่างๆ (ถ้าจำไม่ผิดมีประมาณ 2 – 3 แก๊งนะครับ) น่าเสียดายที่หลายๆ ระบบกลับมีเพียงแค่ในภาคนี้เท่านั้น และไม่ได้มีการนำไปสานต่อในเกมภาคหลังๆ เลย

10. เนื้อเรื่อง

และมาถึงข้อสุดท้ายก่อนที่จะจากกันไปก็คือ เนื้อเรื่อง ของเกมภาคนี้นั่นเอง ซึ่งในภาคนี้จะเล่นประเด็นเนื้อเรื่องที่ชวนให้เราติดตามตลอด มีเหตุการณ์หักมุมอยู่อีกหลายจุด รวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งตัวละครและบรรยากาศก็ทำให้การเล่นเกมเพื่อเสพเนื้อเรื่องสามารถทำได้เหมือนกัน ส่งผลให้ตัวผู้เล่นติดเกมนี้ได้อย่างง่ายดายและงอมแงมอย่างไม่ต้องสงสัย และนอกจากความน่าติดตามของเนื้อเรื่องแล้ว ในแง่ของอารมณ์ที่ผู้เล่นจะได้รับจากเนื้อเรื่องก็มีความหลากหลายเช่นกัน มีตั้งแต่ความตลกโปกฮา อย่างภารกิจสั่งอาหารในตำนาน (I’ll have 2 number 9, number 9 large อะไรทำนองนี้) ไปจนถึงภารกิจสุดตึงเครียดที่เราจะได้เล่นในช่วงกลางถึงท้ายๆ เกมก็มี ทำให้รสชาติของเนื้อเรื่องในเกมนั้นกลมกล่อมเลยทีเดียวล่ะครับ

ก็จบกันไปแล้วกับ 10 เหตุผลที่ควรเล่น หรือกลับมาเล่น GTA: San Andreas เป็นยังไงกันบ้างครับ ผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เกมเมอร์หลายคนเริ่มสนใจเกมนี้มากขึ้นนะครับเพราะเกมนี้ของดีจริง (เป็น GTA ภาคที่ผมชอบที่สุดแล้วก็ว่าได้) สำหรับใครที่อยากจะเล่นเกมนี้ ตอนนี้ทาง Rockstar กำลังแจกเกมนี้ฟรีอยู่นะครับ รีบไปโหลดมาเล่นกันได้เลย 

ดาวน์โหลดเกมได้ ที่นี่