สื่อนอกเผย ’10 เกมที่ค่อนข้างน่าผิดหวังในครึ่งแรกของปี 2023′
หลากหลายเกมที่ทำออกมาได้แย่แบบไม่คาดคิด หรือน่าจะทำได้ดีกว่านี้
ต้องยอมรับว่าเกมในปี 2023 เราได้มีโอกาสเห็นเกมที่น่าทึ่งบางเกมที่ผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในวิดีโอเกมให้สูงขึ้นไปอีกระดับ อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกเกมที่ประสบความสำเร็จในการนำเสนอสิ่งที่น่าทึ่งหรือดีพอ หลาย ๆ เกมกลายเป็นเกมที่แฟนเกมคาดหวัง แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องผิดหวังกับคุณภาพเกมที่ออกมา มีหลายเกมที่ทำออกมาได้แย่แบบไม่คาดคิด หรือน่าจะทำได้ดีกว่านี้ และในวันนี้เราได้รวบรวม “10 เกมที่ค่อนข้างน่าผิดหวังในครึ่งแรกของปี 2023” มาให้ทุกคนได้ติดตามกัน
1. Redfall
การเปิดตัว Redfall ในตอนแรกนั้นไม่ได้ดูแย่มากเท่าไหร่นัก แสงเงาและบรรยากาศโดยรวมที่ Arkane Lyon ทำออกมาดูน่าสนใจไม่น้อย แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปเมื่อมีการยืนยันว่าจะไม่มีโหมด Performance 60 FPS บน Xbox Series X/S แถมเมื่อเกมวางจำหน่ายจริง ๆ กลับพบปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นอนิเมชั่นที่ขาด ๆ หาย ๆ การแสดงออกทางสีหน้าที่น่าเบื่อ เอฟเฟกต์ที่แย่มาก โลกที่ซ้ำซากจำเจด้วยพื้นผิวที่ไร้ชีวิตชีวา ซึ่งโดยรวมแล้วทุกสื่อให้ความเห็นตรงกันว่าเกมนี้ “ขาดการขัดเกลาให้สมบูรณ์” และถึงแม้ว่าโหมด 30 FPS ไม่ได้แย่บน Xbox Series X แต่ Motion Blur ก็ยังไม่โดนใจผู้เล่น และการไม่มีฉากคัทซีนที่มีอนิเมชั่นทำให้เกมนี้ดูจืดชืดสนิท
2. AEW: Fight Forever
AEW: Fight Forever เป็นเกมมวยปล้ำที่เปิดตัวด้วยกระแสตอบรับที่ดี เนื่องจากเป็นการให้เกียรติ WWF No Mercy บน Nintendo 64 อย่างไรก็ตามเกมนี้กลับทำให้ผู้คนผิดหวังพอสมควรด้วยปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นอนิเมชั่นในระหว่างการต่อสู้จริงนั้นดูหยาบมาก หน้าตาบางคนของนักมวยปล้ำแทบไม่คล้ายกับหน้าตาจริง ๆ ของพวกเขา และบั๊คต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ
3. The Lord of the Rings: Gollum
The Lord of the Rings: Gollum เป็นเกมที่ผู้เล่นจะได้สำรวจเส้นทางที่แตกต่างกันของตัวละครที่คุ้นตาจากซีรีส์ The Lord of the Rings เช่น ทางเลือกทางศีลธรรมระหว่าง Smeagol และ Gollum อย่างไรก็ตาม เกมนี้นำเสนอชีวิตส่วนใหญ่ของ Gollum ออกมาได้น่าเบื่อสุด ๆ เช่น ใช้เวลาในคุกเพื่อนำทางนก และหลังจากนั้น การนำทางเพื่อนนักโทษอีกคนหนึ่ง นอกจากนี้ตลอดทั้งเกม การแสดงออกทางสีหน้า คุณภาพของพื้นผิว สภาพแวดล้อม และอื่น ๆ นั้นดูแย่มาก ประสิทธิภาพของเกมก็แย่เช่นกัน เต็มไปด้วยข้อบกพร่องมากมาย ซึ่งเมื่อมองมาที่ราคาเกมที่สูงพอสมควร ทำให้เกมนี้โดนด่าหนักมากกว่าเดิม
4. Crime Boss: Rockay City
Crime Boss: Rockay City เป็นเกมแอ็กชั่นอาชญากรรมที่เปิดตัวในปี 2023 โดยเกมดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมากในตอนเปิดตัว แต่ผู้เล่นต่างผิดหวังกับเกมจริงเมื่อวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกของเกมที่โดยรวมแล้วดูแย่มากไม่ว่าจะเป็นโมเดลตัวละคร แถมโมเดลอาวุธดูไม่สมจริง ศัตรูเคลื่อนไหวอย่างประดักประเดิด ตัวละคร NPC ไม่มีการแสดงออกทางสีหน้าเลย นอกจากนี้เกมเพลย์ก็น่าผิดหวังเช่นกัน ด้วยภารกิจซ้ำซาก และเกมเพลย์ก็ไม่มีกลไกใด ๆ ใหม่หรือน่าสนใจ บทสนทนาก็แย่มาก และเรื่องราวก็ธรรมดา
5. Ravenbound
Ravenbound เป็นเกมแอ็กชั่นผจญภัยที่ตั้งอยู่ในโลกที่เปิดกว้างของนอร์ส เกมดังกล่าวมีศักยภาพมากด้วยเนื้อเรื่องที่มีธีม Dark Fantasy และสัตว์ประหลาดที่แปลกตาและน่ากลัว อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า Systemic Reaction ผู้พัฒนาเกมจะพยายามทำมากเกินไป ทำให้ผลที่ออกมาก็คือผู้เล่นได้เจอกับโลกที่เปิดกว้างมีขนาดใหญ่แต่น่าเบื่อและไร้ชีวิตชีวา มีค่ายศัตรูรวมไปถึงศัตรูที่มีลักษณะซ้ำกันด้วยอนิเมชั่นที่มีอยู่จำกัด (เหมือนกันแม้กระทั่งการชาร์จก่อนการโจมตี) อีกทั้งคุณภาพของพื้นผิวในสภาพแวดล้อมและบนโมเดลก็ไม่ดีเช่นกัน
6. Wanted: Dead
Wanted: Dead เป็นเกมที่พยายามเลียนแบบรูปลักษณ์และการออกแบบของเกมคอนโซลรุ่นที่ 6 มากเกินไป แต่ผลที่ออกมากลับดูแย่เกินไปทั้งพื้นผิวของตัวละครและสภาพแวดล้อมดูค่อนข้างธรรมดา รวมไปถึงอนิเมชั่นที่แข็งทื่อ การแสดงออกทางสีหน้าที่น้อยมาก ๆ แม้ว่าทางผู้พัฒนาเกมจะพยายามอ้างว่าต้องการ “สร้างเกมให้ดูคลาสสิค” แต่ความจริงแล้วทุกคนก็รู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลย
7. Farming Simulator 23
Farming Simulator 23 เป็นเกมจำลองการทําฟาร์มที่ได้รับความนิยมโดยทั่วไป เกม Farming Simulator 22 ขายได้มากกว่า 1.5 ล้านก๊อปปี้ในสัปดาห์แรกและได้รับคะแนนรีวิวจากผู้ใช้ Steam สูงถึง 94% แต่ Farming Simulator 23 กลับได้รับคำวิจารณ์เชิงลบซะอย่างนั้น โดยสาเหตุหลักมาจากการที่ Farming Simulator 23 ไม่ได้วางจำหน่ายบน Xbox, PlayStation และ PC เหมือนกับเกมภาคก่อน ๆ แต่วางจำหน่ายเฉพาะบน iOS, Android และ Nintendo Switch เท่านั้น คุณภาพของเกมจึงด้อยกว่าภาคก่อน ๆ อย่างมาก ทั้งในแง่ขนาดของแผนที่, อิสระในการเล่น และฟีเจอร์ต่าง ๆ และที่แย่ไปกว่านั้นคือ ประสิทธิภาพของการเล่นเกมนี้บน Nintendo Switch ยังแย่มากอีกด้วย
8. Redemption Reapers
เกม Redemption Reapers พัฒนาโดย Adglobe และ Binary Haze Interactive ซึ่งเคยทำเกม Ender Lilies มาก่อน ซึ่งเกม Ender Lilies เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จด้วยภาพที่สวยงามและกราฟิกที่น่าทึ่ง แต่สำหรับเกม Redemption Reapers กลับเลือกใช้สไตล์กราฟิกที่แตกต่างออกไป โดยใช้กราฟิกแบบสมจริงที่มีโทนสีเดียว สิ่งนี้อาจดูเข้ากันได้ดีกับโลกหลังวันสิ้นโลกของเกม แต่บางครั้งก็ทำให้ภาพดูจืดชืดไปบ้าง ฉากคัทซีนก็ดูดีพอสมควร แต่สภาพแวดล้อมในเกมดูน่าเบื่อมาก โมเดลตัวละครก็ดูแย่ด้วยอนิเมชั่นที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก ทำให้แม้ว่า Redemption Reapers จะไม่มีงบประมาณที่สูงมาก แต่เกม Harvestella ของ Live Wire (ซึ่งก็เคยร่วมงานกับ Adglobe และ Binary Haze Interactive ในเกม Ender Lilies) ก็ดูดีกว่ามาก
9. Wo Long: Fallen Dynasty
Wo Long: Fallen Dynasty เป็นเกมแอ็กชั่น Hack-asn-Slash ที่ได้รับการพัฒนาโดย Team Ninja ทีมพัฒนาที่มีชื่อเสียงจากเกม Nioh แม้ว่ากราฟิกโดยรวมของเกมดูดีพอสมควร แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ พื้นผิวของตัวละครและสภาพแวดล้อมดูธรรมดา การแสดงออกทางสีหน้าของตัวละครก็ดูจืดชืด ยกเว้นฉากคัทซีนเท่านั้นที่ดูดี แถมเกมยังมีปัญหาด้านประสิทธิภาพบน PC ทำให้เกมมีอาการกระตุกและค้างอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ
10. Greyhill Incident
Greyhill Incident เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่มีธีมแนวไซไฟ เกมดังกล่าวดูน่าสนใจจากตัวอย่างเกม แต่น่าเสียดายที่คุณภาพของเกมนั้นต่ำกว่าที่คาดไว้มาก เริ่มต้นจากอนิเมชั่นของตัวละครที่แข็งทื่อและโมเดลตัวละครก็ดูแย่มาก การแสดงออกทางสีหน้าของตัวละครก็แทบไม่มีเลย แม้แต่เอเลี่ยนตัวน้อยก็แทบไม่มีการแสดงออกทางสีหน้าเมื่อได้รับบาดเจ็บหรือถูกยิงที่ศีรษะ นอกจากนี้ เกมยังมีปัญหาด้านกราฟิก เช่น Motion Blur และ Washed-Out Textures ที่ทำให้ภาพดูไม่สดใส ทำให้เกมนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเกมที่ติดโผไปอย่างน่าเสียดาย
ทั้งหมดนี้ก็คือ 10 เกมที่ค่อนข้างน่าผิดหวังในครึ่งแรกของปี 2023 ที่ถูกนำเสนอโดย Gaming Bolt ครับ ผู้อ่านล่ะครับมีความเห็นอย่างไร มาคอมเมนต์พูดคุยกันได้นะครับ