CDPR งงใจ ‘ใส่ระบบ Microtransactions เข้ามาในเกม Single Player ทำไมกัน?’

ในช่วงที่ประเด็น Microtransactions ของเกม Dragon’s Dogma II กำลังร้อนแรง ล่าสุดทาง Piotr Nielubowicz หัวหน้าฝ่ายการเงินของ CD Projekt Red กล่าวว่า บริษัท “มองไม่เห็นความเหมาะสม” สำหรับการใส่ระบบ Microtransactions เข้ามาในเกม Single Player

CDPR ไม่มีแผนใส่ระบบ Microtransactions เข้ามาในเกม Single Player

Nielubowicz ชี้แจงอีกครั้งถึงจุดยืนของสตูดิโอเกี่ยวกับการสร้างรายได้ภายในเกม ผ่านการพูดคุยกับเว็บไซต์โปแลนด์ StockWatch.pl (อ้างอิงจาก JuiceHead) โดยเขาได้บอกว่าพวกเขาไม่เห็นจุดที่เหมาะสมกับการใส่ระบบดังกล่าวเข้ามาภายในเกมแบบเล่นคนเดียว แม้ยอมรับว่า ทีมพัฒนาเกมไม่ตัดโอกาสที่ CDPR จะใช้ระบบนี้ในอนาคต สำหรับเกมแนว Multiplayer

“เราไม่เห็นที่ทางสำหรับ Microtransactions ที่จะมาอยู่ในเกมสำหรับการเล่นคนเดียว” Nielubowicz กล่าวตามที่ JuiceHead ผู้ใช้ X รายงาน “แต่เราไม่ตัดโอกาสที่จะใช้ระบบนี้ในอนาคตสำหรับโปรเจกต์เกมแบบเล่นหลายคน (Multiplayer)”

ความเห็นของ Nielubowicz สอดคล้องกับความเห็นของ Adam Kicinski อดีต CEO ของบริษัทที่เคยกล่าวไว้ในปี 2020 ว่า “เป้าหมายคือการออกแบบระบบสร้างรายได้ในรูปแบบที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกพอใจที่ใช้เงิน”

ในขณะเดียวกัน The Witcher 3: Wild Hunt เกมจาก CDPR วางจำหน่ายแล้วบนอุปกรณ์ในเครือ PlayStation, Xbox, Nintendo Switch และ PC โดยเป็นเกมภาคต่อของซีรีส์ The Witcher แนว Open-world RPG ให้เรารับบทเป็น Geralt นักล่าอสูรที่ต้องเดินทางไปตามหาเด็กในคำทำนาย ผ่านสภาพแวดล้อมแปลกตาทั้งทุ่งหญ้าและเมืองใหญ่ โดยเกมมีจุดเด่นเรื่องการเลือกชอยส์คำตอบ และระบบความสัมพันธ์นั่นเอง