[รีวิว] Steelrising สงครามหุ่นปารีสพิทักษ์ราชินี
เกม Action RPG ธีม Automatons กอบกู้ฝรั่งเศส
หากคุณกำลังมองหาเกมแนว Action RPG ฟอร์มยักษ์ เล่นสนุก ธีมยุคเก่า และมีระบบการเล่นสุดมันส์ เราขอแนะนำ Steelrising จากทีมพัฒนา Spiders จัดจำหน่ายโดย Nacon ซึ่งวางขายเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2022 เป็นต้นมาบนช่องทาง STEAM รอให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์สุดเร้าใจ และเกมนี้จะมอบประสบการณ์แบบไหนให้กับคุณบ้าง เรามาชมรายละเอียดกันครับ
เนื้อเรื่อง : รับบทเป็นหุ่นยนต์ Automatons ของราชินีเพื่อกอบกู้ปารีส
เรื่องราวของเกมนี้จะเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองของประเทศฝรั่งเศสกลางกรุงปารีสในปี 1789 ทำให้ราชินีต้องลี้ภัยมาอยู่ที่บ้านพักหลังหนึ่งห่างไกลจากตัวเมือง โดยมีเราที่เป็นหุ่นยนต์ Automatons ที่สามารถพูดคุยกับมนุษย์ได้ มีสติตื่นรู้ คอยอารักขาราชินี แต่สงครามเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และไม่มีทีท่าว่าจะจบง่าย ๆ ราชินีจึงสั่งให้เรากลับเข้าไปยังกรุงปารีสเพื่อตามหาต้นตอของปัญหา ค้นหาผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ และหยุดยั้งความบ้าคลั่งของหุ่นยนต์ Automatons ตัวอื่น ๆ ที่ตอนนี้เป็นเพียงเครื่องจักรสังหารเท่านั้น ชะตากรรมของปารีสทั้งเมืองจึงขึ้นอยู่กับหุ่นยนต์ Automatons ที่ชื่อว่า Aegis ที่ราชินีส่งมาครับ
กราฟิก ธีม และเพลงประกอบ
ในด้านของกราฟิกนั้นถือว่าทำออกมาได้สวยงามสมจริงมากเลยทีเดียว หากปรับกราฟิกขึ้นสูงสุดก็จะเห็นว่าเกมนี้ใส่ใจรายละเอียดในเรื่องของแสงเงาเป็นอย่างดี แถมเรื่องของเส้นผมหรือต้นไม้ใบหญ้ายังทำออกมาได้ละเอียดยิบ แต่แน่นอนว่าก็ต้องแลกมาด้วยการใช้สเปคคอมที่สูงขึ้นตามไปด้วย ถึงขนาดว่าการ์ดจอขั้นต่ำคือ RTX 2060 เลยทีเดียว นอกจากนี้ในเรื่องของธีมยังเน้นไปที่วัฒนธรรมยุโรปยุคคลาสสิค โดยเราจะเห็นว่าบ้านเมืองก็ยังคงเป็นลักษณะของยุค 1789 มีการแต่งกายที่หรูหรา ทรงผมม้วน และศาสนาค่อนข้างมีอิทธิพลกับชาวเมือง แต่ตัวเราที่เป็นหุ่น Automatons จะมีความเป็น Clockpunk สูง ส่วนในเรื่องของเพลงประกอบนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเพลงคลาสสิคที่เน้นบิ๊วอารมณ์ให้ผู้เล่นมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบฉากหรือเพลงตอนต่อสู้ จะเน้นไปที่ความยิ่งใหญ่อลังการเสมอครับ
สร้างตัวละครในแบบที่คุณชอบ
แม้จะเป็น Automatons แต่ก็ยังสามารถปรับแต่งตัวละครได้อยู่ ซึ่งในแง่ของความสวยงามก็อาจจะปรับแต่งได้ไม่มากนัก เราสามารถเปลี่ยนได้เพียงสีของร่างกาย สไตล์การแต่งหน้าและทรงผมเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือสไตล์การต่อสู้หรืออาวุธที่ใช้ต่างหาก เพราะเกมนี้จะเน้นไปที่ความสนุกของเกมเพลย์มากกว่าเรื่องของแฟชั่น ซึ่งคลาสในเกมนี้จะส่งผลกับค่าสเตตัสเริ่มต้น สไตล์การเล่น และอาวุธที่ใช้ โดยตัวเลือกจะมีดังนี้
Bodyguard
อาวุธที่เหมาะสม : Mace, Halberd
โบนัสสเตตัส : Durability +3 Engineering +2
สไตล์การรุก : โจมตีประชิด รุนแรง หนักหน่วง แต่โจมตีได้ช้า
สไตล์การตั้งรับ : Block การโจมตีศัตรู
Soldier
อาวุธที่เหมาะสม : Halberd, Chains
โบนัสสเตตัส : Power +3 Vigour +2
สไตล์การรุก : โจมตีประชิด AOE และการโจมตีแบบรักษาระยะห่าง
สไตล์การตั้งรับ : Dodge หลบศัตรู
Dancer
อาวุธที่เหมาะสม : Fans, Musket
โบนัสสเตตัส : Agility +3 Vigour +2
สไตล์การรุก : โจมตีประชิด โจมตีเบาแต่เร็ว เน้น Stagger ให้ศัตรูล้ม
สไตล์การตั้งรับ : Dodge & Block ได้ทั้งสองอย่าง
Alchemist
อาวุธที่เหมาะสม : Tonfa, Musket
โบนัสสเตตัส : Elemental Alchemy +3 Engineering +2
สไตล์การรุก : โจมตีด้วยธาตุและสถานะผิดปกติ
สไตล์การตั้งรับ : Parry และโจมตีสวนกลับ
เกมเพลย์ที่ใช้ความคิดมากกว่าบู๊แหลก
จริงอยู่ที่เกมนี้เป็นเกมแนว Action แต่ก็ใช่ว่าคุณจะวิ่งเข้าไปบวกกับศัตรูทุกตัวที่ขวางหน้าคุณแล้วคุณจะชนะ เพราะศัตรูในเกมนี้จะมีแมคคานิคแตกต่างกันไป บางตัวโจมตีด้วยระยะไกลได้ บางตัวบล็อกการโจมตีของคุณได้ บางตัวคุณต้องโจมตีระยะไกลสู้กับมัน นอกจากคุณจะต้องอ่านแมคคานิคศัตรูให้ออกแล้ว คุณยังมีสเตมิน่าให้บริหารขณะต่อสู้ ถ้าสเตมิน่าหมดคุณจะติดสถานะ Frost เคลื่อนไหวช้าลง หลบการโจมตีไม่ได้ แถมสเตมิน่ายังรีเจนช้าลงอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ศัตรูแต่ละตัวยังสามารถโจมตีคุณได้อย่างหนักหน่วง ถึงขนาดที่ว่าถ้าโดนรุมตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปก็เรียกว่าลำบากได้แล้วสำหรับเกมนี้ และเดิมพันของเกมนี้นั้นสูงมาก ถ้าคุณตายก็จะต้องกลับจุดเซฟและเงินที่เก็บมาจะดรอปลงบนจุดที่ตาย ถ้าไม่วิ่งไปเก็บหรือตายครั้งที่ 2 กองเงินกองแรกก็จะหายไปเลยแล้วคุณต้องเก็บใหม่ ดังนั้นคุณต้องคิดให้ดีครับ
สิ่งที่คุณทำได้ในการต่อสู้
ในการต่อสู้กับศัตรูไม่ว่าจะเป็นบอสหรือมอนสเตอร์ธรรมดา คุณจะต้องเลือก Action ที่เหมาะสมกับศัตรูตัวนั้น ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบ สิ่งที่คุณสามารถทำได้คือ โจมตีปกติ, ชาร์จโจมตี, ใช้ท่าพิเศษ, บล็อก, หลบ, โจมตีระยะไกล, ใช้ไอเทมสนับสนุน หรือแม้แต่ลอบสังหารก็ได้ถ้าเกิดว่าศัตรูยังไม่เห็นคุณ ซึ่งทุกการกระทำล้วนเสียสเตมิน่า ดังนั้นก่อนจะทำอะไรควรมองสเตมิน่าอยู่เสมอ ซึ่งอาวุธแต่ละชนิดจะมีความสามารถแตกต่างกัน เช่น บางอาวุธจะตั้งโล่ป้องกันได้ บางอาวุธสามารถยิงไกลได้ บางอาวุธมีท่าโจมตีพิเศษที่แรงมาก บางอาวุธเอาไว้โจมตีหมู่แก้ทางการโดนรุม แต่เราจะใส่ได้แค่ทีละ 2 ชิ้นเท่านั้น การเลือกใช้อาวุธให้ตรงสถานการณ์จะทำให้ได้เปรียบมากกว่าการเล่นอาวุธเดียวครับ
การใช้ไอเทมซัพพอร์ตก็สำคัญไม่แพ้กัน
นอกจากอาวุธและเครื่องป้องกันที่สวมใส่อยู่ในตัวแล้ว ไอเทมกดใช้ยังมีความสำคัญค่อนข้างมาก สำคัญขนาดว่าถ้ามีไอเทมเยอะจริง ๆ คุณอาจจะสามารถล้มบอสได้ซักตัวโดยที่ไม่ต้องโจมตีเลยก็ยังไหว (แต่ก็ต้องลงทุนเยอะเหมือนกัน) โดยไอเทมกดใช้นั้นจะมีลักษณะเป็นยาเพิ่มเลือด ยาต้านสถานะธาตุหรือไม่ก็ระเบิดเอาไว้โจมตี สามารถติดตั้งไว้ใช้ได้ทีละ 6 ชิ้น สับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา สามารถซื้อได้ที่จุดเซฟหรือเก็บเอาตามข้างทางก็ได้ การใช้ไอเทมให้ถูกสถานการณ์จะช่วยให้คุณได้เปรียบและไม่สิ้นเปลืองเกินไป เช่น ถ้าคุณรู้ว่าบอสตัวนี้โจมตีเป็นธาตุสายฟ้าแล้วคุณกินยาต้านสายฟ้าเข้าไปก็จะสู้ได้สะดวกขึ้น หรือถ้าคุณใช้อาวุธเป็นปืนน้ำแข็ง อยากจะเร่งปฏิกิริยาให้บอสติดแช่แข็งเร็วขึ้นก็สามารถโยนระเบิดน้ำแข็งช่วยแช่แข็งบอสให้เร็วขึ้นได้อีกระดับ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูด้วยนะว่าบอสตัวไหนต้านทานอะไรบ้าง ถ้าใช้ถูกสถานการณ์คือชีวิตพลิกแบบสบาย ๆ ได้เลยครับ
เลือก Modules ให้สอดคล้องกับการเล่นของคุณ
เกมนี้จะมีสิ่งที่เรียกว่า Modules ที่จะทำหน้าที่คล้ายกับ Perks หรือ Rune ของเกมอื่น ๆ สามารถติดตั้งในตัวเราได้เหมือนกับไอเทมสวมใส่ทั่วไป สามารถใส่พร้อมกันได้ทั้งหมด 4 ชิ้น แต่จำเป็นต้องมีการปลดล็อคโดยใช้กุญแจที่อาจจะเก็บได้ข้างทางหรือเอาชนะบอสบางตัวได้ Modules จะมีหลายขนาดตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ ในช่วงแรกเริ่มเราจะใส่ได้เพียง Modules ขนาดเล็กเท่านั้น หากอยากใส่ Modules ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและความสามารถดีขึ้น คุณก็ต้องเก็บกุญแจมาปลดล็อคช่อง Modules ในตัวให้ขยายใหญ่ขึ้นนั่นเอง และการเลือกปรับใช้ Modules ให้เข้ากับการเล่นของคุณย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการใส่มั่ว ๆ ถ้าคุณเป็นคนเน้นโจมตีธรรมดาแต่ใส่ Modules ที่เพิ่มพลังโจมตีธาตุก็อาจจะไม่เหมาะ เพราะงั้นลองเสียเวลาอ่านรายละเอียดของ Modules แต่ละชิ้นดูครับ มันจะช่วยให้การเล่นไหลลื่นขึ้น
พัฒนาตัวละครทุกครั้งที่กลับจุดเซฟ
ในเกมนี้จะมีจุดเซฟอยู่ตามที่ต่าง ๆ จะมีลักษณะเป็นรูปปั้นผู้หญิง ถ้ากดเปิดจะมีลูกกรงพร้อมเก้าอี้ปรับแต่ง Automatons โผล่ขึ้นมาจากพื้น ตรงจุดนี้เราสามารถใช้เป็นจุดเติม HP เติมยาปั้ม ซื้อของจากร้านขายของ อัพเกรดอาวุธ อัพเกรดสเตตัสตัวละคร ซื้ออาวุธชิ้นใหม่ รวมไปถึงการเอาของมาขายอีกด้วย โดยหน่วยเงินของเกมนี้คือ Anima Essence ซึ่งจะดรอปเกือบทุกครั้งที่ทำการกำจัดศัตรูหรือขายของในร้านค้า เงินของเกมนี้ค่อนข้างสำคัญเพราะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตัวละครเก่งขึ้น และตอนอัพสเตตัสแต่ละครั้งก็ไม่ได้ใช้น้อย ๆ ดังนั้นถ้าเรารู้สึกว่าศัตรูมันยากไป เล่นไม่ผ่าน ก็สามารถฟาร์มได้เสมอ เพราะทุกครั้งที่กลับมาจุดเซฟ HP และยาของเราจะถูกเติม และศัตรูจะเกิดใหม่อีกครั้ง ทำให้เราสามารถวิ่งฟาร์มเป็นลูปเพื่อหาเงินมาอัพตัวละครได้เสมอครับ
ข้อสรุปในมุมมองของผู้เขียน
Steelrising เป็นเกม Action RPG ที่มีความยืดหยุ่นในการต่อสู้ค่อนข้างสูง และมีความยากในแบบของมัน อาจจะไม่ถึงขนาดฮาร์ดคอร์เกมเพราะเกมยังปราณีเราด้วยจุดเซฟที่ค่อนข้างถี่และสามารถฟาร์มได้ แต่ก็ไม่ได้แคสชวลเล่นผ่านได้สบาย ๆ เพราะศัตรูทุกตัวต้องใช้ความคิดและเลือกวิธีปราบมันให้เหมาะสม ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีไม่ได้ตายตัว ถือว่าเป็นความสนุกที่เกมไม่ได้บังคับวิธีการของเรามากนัก ในแง่ของความสนุกและความยืดหยุ่นของเกมแล้วค่อนข้างทำได้ดี แต่ถ้าหากจะมองในจุดสังเกตก็คงมีเรื่องของอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวของตัวละครที่แอบหน่วงเล็กน้อยและไม่ได้ไหลลื่นเท่ากับเกมแนว Hack & Slash เพราะเป็นเกมแนวจับจังหวะโจมตี นอกจากนี้กราฟิกที่สวยงามอาจส่งผลกระทบกับการเล่นไปบ้าง แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีสเปคเครื่องที่สูงอยู่แล้วปัญหานี้ก็จะไม่ส่งผลกับคุณครับ
หากใครที่สนใจจะซื้อเกม Steelrising ไปลองเล่นกันดูก็สามารถเข้าไปที่หน้าร้านค้า STEAM ได้เลยนะครับ ราคาจะอยู่ที่ 949 บาทสำหรับ Standard และราคา 1,019 บาทสำหรับ Bastille Edition ถือว่าเป็นราคาที่ไม่ค่อยแรงเมื่อเทียบกับเกมระดับ AAA ทั่วไปครับ ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเกมสไตล์ Dark Soul แต่เป็นมิตรกับผู้เล่นขึ้นมาอีกนิด และมีเนื้อเรื่องเฉพาะทางของตัวเอง ก็ลองซื้อ Steelrising ไปเล่นกันได้ครับ
สุดท้ายนี้ ทีมงาน This is Game Thailand ต้องขอขอบคุณทาง Ripples ที่เอื้อเฟื้อเกมดีๆ เกมมันส์ๆ มาให้พวกเราได้รีวิวกันในครั้งนี้ด้วยนะครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…
เว็บไซต์ทางการ : https://steelrising.org/