[รีวิว] Life is Strange: Double Exposure – ข้ามเวลาหาความจริง

Life is Strange: Double Exposure เป็นเกมภาคใหม่ของซีรีส์ Life is Strange ที่จะพาเราไปติดตามเรื่องราวของ Max Caulfield ที่พบว่าเพื่อนรักของเธอ Safi เสียชีวิตอย่างปริศนา ทำให้เธอตัดสินใจใช้พลังพิเศษที่เธอมีในการย้อนเวลากลับไปยังอีกไทม์ไลน์หนึ่ง ที่ซึ่ง Safi ยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ยังคงตกอยู่ในอันตราย และด้วยเหตุนี้เองทำให้ Max จะต้องใช้พลังในการข้ามเส้นกาลเวลาเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นซ้ำอีก!

ล่าสุดผู้เขียนได้มีโอกาสออกไปผจญภัยข้ามไทม์ไลน์กับ Max มาแล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 และถ้าหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยหลังจากที่รีวิวเผยแพร่ไปแล้วก็เป็นได้ นอกจากนี้การรีวิวอาจจะมีการสปอลย์ข้อมูลเกมบางส่วน หากผู้อ่านคนใดไม่อยากโดนสปอยล์ก็ขอให้ระวังไว้ด้วยนะครับ

เพลงประกอบสุดไพเราะ ดึงดูดใจผู้เล่นให้หลงใหลในโลกของเกม

สิ่งแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับการรีวิวเกมนี้ก็คือ เพลงประกอบที่ไพเราะจับใจ ที่เราจะได้สัมผัสตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้นเกมด้วยซ้ำเพราะผู้เล่นจะได้สัมผัสกับบทเพลงอันไพเราะที่ขับกล่อมตั้งแต่หน้าจอต้อนรับ จนถึงตลอดการผจญภัย ไม่ว่าจะเป็นเพลงบรรเลงอันไพเราะ หรือเพลงที่มีเสียงร้องประกอบ ก็ล้วนแต่สร้างบรรยากาศที่ดื่มด่ำและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก

เสียงดนตรีที่ไพเราะเหล่านี้ ไม่เพียงแต่สร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้เล่นเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การเล่นเกมให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทำให้ผู้เล่นรู้สึกดื่มด่ำไปกับโลกในเกมได้อย่างเต็มที่ โดยผู้เขียนขอยืนยันว่าเพลงประกอบของเกมนี้มีความโดดเด่นและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมที่มีดนตรีประกอบที่ดีที่สุดเกมหนึ่งเลยทีเดียว และผู้เขียนก็มั่นใจว่าผู้เล่นที่ชื่นชอบการฟังเพลงประกอบเกม จะต้องหลงรักเกมนี้อย่างแน่นอน

กราฟิกสุดประทับใจ ตอบโจทย์ทั้งภาพรวมและรายละเอียด

เกมนี้มาพร้อมกับกราฟิกที่สวยงามและน่าประทับใจ โดยเฉพาะการออกแบบตัวละครที่ดูเป็นสไตล์การ์ตูนแต่ก็มีความละเอียดสูง ทำให้ตัวละครแต่ละตัวมีเอกลักษณ์และน่าจดจำ นอกจากนี้ องค์ประกอบฉากต่าง ๆ ภายในเกมก็ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ อาคาร เป็นต้น ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ก็ทำให้ผู้เล่นรู้สึกดื่มด่ำไปกับโลกในเกมได้อย่างเต็มที่

สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกประทับใจจนต้องยกนิ้วให้ก็คือ การแสดงออกทางสีหน้าของตัวละครต่าง ๆ ภายในเกมนี้ ที่ถูกทำออกมาได้ดีอย่างน่าทึ่ง โดยการแสดงออกทางสีหน้าของตัวละครแต่ละตัวนั้นทำออกมาได้เป็นธรรมชาติมาก ๆ โดยเฉพาะตัวละครหลักที่สามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างชัดเจนผ่านสีหน้าและท่าทาง ทำให้เราเข้าใจถึงความรู้สึกของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง และยิ่งไปกว่านั้น การเคลื่อนไหวของตัวละครก็ดูลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้เราสามารถเข้าใจความรู้สึกของตัวละครผ่านสีหน้าและการเคลื่อนไหวของร่างกายได้อย่างดีเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ผู้เขียนให้คะแนนเยอะมาก ๆ เลยครับ

เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่ต้องทำการบ้านมาก่อน!

ในลำดับต่อมาเนื้อเรื่องของเกมนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีเนื้อเรื่องที่น่าติดตามด้วยการวางปมปริศนาที่ท้าทายให้ผู้เล่นได้ไขปริศนาไปพร้อมกับตัวละครเอก ทำให้เราอยากรู้คำตอบมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เพิ่งเข้ามาสัมผัสเกมนี้เป็นครั้งแรก อาจจะรู้สึกสับสนและงง ๆ กับเนื้อเรื่องได้ เนื่องจากเกมนี้มีการอ้างอิงเนื้อเรื่องในหลาย ๆ ส่วนมาจากภาคก่อน ๆ ทำให้มีการพูดถึงเหตุการณ์และตัวละครในภาคก่อน ๆ อยู่บ่อยครั้ง

หากคุณไม่เคยเล่นภาคก่อน ๆ หรือไม่ค่อยคุ้นเคยกับเรื่องราวมาก่อน การตัดสินใจเลือกคำตอบในบางสถานการณ์อาจจะทำได้ยาก เนื่องจากเกมจะมีการพูดถึงข้อมูลเก่า ๆ เข้ามาให้เราตัดสินใจ ซึ่งหากผู้เล่นไม่รู้จักตัวละครหลัก ๆ จากเกมภาคก่อน หรือไม่ได้ทราบเรื่องราวมาก่อนก็อาจจะต้องเดาหรือสุ่มตอบไป ซึ่งอาจจะส่งผลต่อเนื้อเรื่องในส่วนต่อไปได้ โดยผู้เขียนเองในหลายหลายครั้งก็พบว่าตัวเกมได้อ้างอิงข้อมูลถึงภาคก่อนหน้าซึ่งผู้เขียนก็ลืมไปพอสมควรแล้ว ทำให้การตอบบางครั้งใช้วิธีการสุ่มตอบแบบไร้จุดหมายมาก ๆ

ดังนั้นหากคุณอยากจะสนุกกับเกมนี้อย่างเต็มที่ ผู้เขียนขอแนะนำให้ลองเล่นภาคก่อน ๆ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อเรื่องในภาคก่อน ๆ ก่อนจะเริ่มเล่นภาคนี้ เพื่อให้คุณเข้าใจเนื้อเรื่องได้ดียิ่งขึ้น และเพลิดเพลินไปกับการผจญภัยครั้งใหม่นี้ได้อย่างเต็มที่

ตัวเลือกของคุณ สร้างเรื่องราวของคุณเอง

เกมนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การผจญภัย แต่ยังเป็นการเล่าเรื่องที่ผู้เล่นมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง การเลือกตอบของคุณในแต่ละสถานการณ์ จะส่งผลต่อเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น สิ่งของในฉาก หรือบทสนทนาของตัวละคร ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงเส้นทางของเรื่องราวหลักอีกด้วย

เกมนี้ได้ออกแบบระบบการเลือกตอบที่น่าสนใจมาก โดยบางครั้งคุณอาจรู้สึกว่าการเลือกตอบของคุณนั้นดูเหมือนจะไม่มีผลอะไรมากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกตอบเหล่านั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อเนื้อเรื่องในอนาคตในแบบที่คุณคาดไม่ถึงก็ได้ ดังนั้นการเลือกตอบแต่ละครั้งจึงมีความสำคัญ และเป็นการสร้างประสบการณ์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณ ซึ่งนี่คือจุดสนุกที่สุดของเกมนี้และเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เกมนี้มีคุณค่าในการเล่นซ้ำสูงมาก ๆ เพราะผู้เล่นจะต้องคอยติดตามว่าหากเราเลือกคำตอบอีกเส้นทางหนึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั่นเอง

สรุปรีวิว

โดยรวมแล้วเกมนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่สานต่อความเข้มข้นของเนื้อเรื่องออกมาได้ดีมาก ๆ ในช่วงต้น อย่างไรก็ตามในช่วงกลางค่อนท้าย ไปจนถึงตอนจบแอบทำให้ผู้เขียนรู้สึกเอ๊ะเล็กน้อยเพราะการดำเนินเรื่องแอบเร็ว และได้มีการนำเสนอข้อมูลบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่า “นี่มันไม่ใช่แนวของ Life is Strange เหมือนเดิม” ซึ่งก็เป็นทั้งจุดเอ๊ะ และจุดที่น่าสนใจว่าเกมต่อ ๆ ไปจะเดินทางไปยังทิศทางไหนกันแน่ (ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดมากกว่านี้เพราะจะเป็นการสปอยล์มากจนเกินไป) ในขณะเดียวกันในส่วนของกราฟิก อนิเมชั่น และเกมเพลย์นั้นก็ยังคงความเจ๋งไว้ได้เป็นอย่างดีจนต้องยกนิ้วให้

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 8 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

– กราฟิกที่สวยงาม อนิเมชั่นของหน้าตาตัวละครที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ

– ระบบการเลือกตอบที่ยังคงเป็นจุดเด่นอยู่เสมอ

– ดนตรีประกอบที่เป็นดาวเด่นของเกมนี้

– เนื้อเรื่องที่น่าติดตามในระดับที่น่าพึงพอใจ

ข้อสังเกต

– เนื้อเรื่องช่วงกลางค่อนท้ายไปจนถึงช่วงท้ายอาจจะไม่ถูกใจไปบ้างสำหรับแฟนเกมบางคน

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

ใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อได้ที่ : [คลิก]

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามรีวิว / พรีวิวเกมอื่น ๆ ของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<