เปิดกรุเกมเก่า

[เปิดกรุเกมเก่า] Tenchu 2 กำเนิดนินจาลอบสังหาร [Part 1]

เล่าเรื่องความเป็นมาของการถือกำเนิดนินจาสุดแกร่งริคิมารุและอายาเมะ

Tenchu 2 ภาคต่อที่ถือกำเนิดขึ้นจากการที่ตัวเกมภาคแรกได้รับความนิยมและโด่งดังไปทั่วทั้งฝั่งญี่ปุ่นและอเมริกา โดยในภาคนี้ได้เล่าเรื่องย้อนไปยังจุดกำเนิดของตัวเอกทั้งสองคนในช่วงเยาว์วัย เรื่องราวความเป็นมาของริคิมารุและอายาเมะก่อนที่จะมารับใช้ตระกูลโกดะอย่างเป็นทางการนั้นเป็นอย่างไร? กลุ่มนินจาอาซุมะนั้นคือใคร? ภาคนี้ก็ได้มีการวางโครงเรื่องและปูเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อเติมเต็มเนื้อเรื่องของ Tenchu ภาคแรกครับ


ระบบของเกม

image 959

สำหรับระบบการเล่นของเกมในภาคนี้ก็ยังคงเอกลักษณ์เหมือนกับเกมภาคแรกไม่เปลี่ยนแปลง แต่ก็มีส่วนที่ทำการปรับเปลี่ยนและพัฒนาไปจากภาคแรกค่อนข้างเยอะเหมือนกัน อย่างเช่น ตัวละครสามารถดำน้ำได้ การใช้ตะขอไม่สามารถเล็งไปที่เหนือหัวได้ทุกจุดเหมือนอย่างภาคแรก (ต้องเน้นมุมที่ตะขอเกาะได้เพื่อความสมจริง) กระบวนท่าสังหารมีความหลากหลายมากขึ้น ตัวละครสามารถเคลื่อนย้ายศพของศัตรูได้ และเพิ่มระบบกับดักให้หลากหลายมากขึ้น

ส่วนด้านคุณภาพกราฟิกก็มีการพัฒนาให้เห็นได้อย่างชัดเจน เช่น รูปร่างตัวละครที่สมส่วนขึ้น ทิวทัศน์ภายในด่าน ในส่วนของเพลงประกอบฉากนั้นก็จะถูกตัดออกไปครับ ตัวเกมในแต่ละด่านจะมีการใช้เสียงธรรมชาติเข้ามาแทนที่เพื่อสร้างความสมจริงมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญในภาคนี้มีโหมดสร้างด่านเองได้ด้วย ผู้เล่นสามารถทำการสร้างด่านได้เอง กำหนดภารกิจ จำนวนศัตรู ปรับแต่งภูมิประเทศ สิ่งของ สร้างเสร็จแล้วก็สามารถเซฟไปท้าทายเพื่อน ๆ ให้เล่นได้เลยครับ ถือเป็นความสนุกแบบใหม่สำหรับเกมนี้เลยทีเดียว


แนะนำตัวละคร

เรามาทำความรู้จักกับตัวละครหลักในภาคนี้กันก่อนครับ เนื่องจาก Tenchu ภาค 2 นั้นมีการวางโครงเรื่องมาอย่างดี (ซึ่งแตกต่างจากภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด) ตัวละครจะมีเนื้อเรื่องและด่านที่แตกต่างกันไปแบบชัดเจน ซึ่งในส่วนนี้ไม่เหมือนกับภาคแรกที่มีการสร้างด่านขึ้นมาให้เล่นแบบเส้นทางเดียว แตกต่างเพียงแค่บทสนทนาจากการเลือกใช้ตัวละครเล่นเท่านั้น แต่ในภาคนี้ตัวละครจะมีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเอง ผู้เล่นจะสามารถเห็นเนื้อเรื่องต่างมุมมองจากตัวละครที่เลือกใช้งานได้ และเนื้อเรื่องก็จะมีความสัมพันธ์กันในทุก ๆ ตัวละคร


ริคิมารุ (Rikimaru)

image 953

ริคิมารุ หนึ่งในตัวเอกหลักของซีรีส์ Tenchu ในภาคนี้เขาเพิ่งได้บรรลุวิชานินจาสำเร็จและถูกแต่งตั้งให้เป็นนินจากลุ่มอาซุมะอย่างเป็นทางการ ริคิมารุมีนิสัยซื่อตรง เป็นคนที่ค่อนข้างจริงจัง มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่และภารกิจที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่เขายังไม่มีประสบการณ์มากพอ ในภาคนี้เราก็จะได้เห็นความลังเล ความสับสน ของเขาอยู่บ้างครับ


อายาเมะ (Ayame)

image 1

อายาเมะ ตัวเอกหญิงของซีรีส์ Tenchu เป็นคนที่มีนิสัยค่อนข้างตรงกันข้ามกับริคิมารุอย่างมาก เธอเป็นสาวแก่นแก้ว ปากคอเราะร้าย และเธอเป็นคนที่มีความรู้สึกค่อนข้างอ่อนไหวพอสมควร เช่นเดียวกับริคิมารุที่ในภาคนี้เธอเพิ่งบรรลุวิชานินจาและได้เป็นนินจาอย่างเป็นทางการของกลุ่มอาซุมะ


ทัตสึมารุ (Tatsumaru)

image

ทัตสึมารุ เป็นนินจาที่มีทักษะและความสามารถสูงมาก เขาเป็นเพื่อนร่วมฝึกวิชานินจามาด้วยกันกับริคิมารุและอายาเมะ และเป็นคนที่ อาซุมะ ชิอุนไซ ฝึกวิชาให้มาอย่างยาวนานมากที่สุด จะเรียกว่าเป็นศิษย์พี่ของริคิมารุกับอายาเมะก็ว่าได้ นอกจากนี้เขายังได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้ากลุ่มนินจาอาซุมะอีกด้วย


เนื้อเรื่อง

อารัมภบท

image 956

มันคือยุคสมัยของการทำสงครามระหว่างแว่นแคว้น เมื่อโชกุนสิ้นอำนาจลง เหล่าขุนศึกซามูไรได้ลุกขึ้นต่อสู้กันอย่างดุเดือดเพื่อสิทธิในการชักธงเหนือปราสาทใหญ่ของญี่ปุ่น แต่ในที่ห่างไกลจากสนามรบนั้น ทั้งไม่เคยได้เห็นและไม่เคยได้ยิน บางสิ่งที่แตกต่างจากนักรบซึ่งใช้ความตายเป็นการแลกเปลี่ยน เกิดในเงาและพวกเขาก็ตายในเงา พวกเขาคือนินจา

image 954

เรื่องราวได้เริ่มต้นในหมู่บ้านนินจาอาซุมะ สองนินจารุ่นเยาว์ ‘ริคิมารุ’ และ ‘อายาเมะ’ ที่ได้เติบโตขึ้นจนบรรลุนิติภาวะแล้ว มีสิทธิ์ที่จะได้รับการเข้าทดสอบทักษะนินจาครั้งสุดท้าย เพื่อบรรจุเป็นนินจาอย่างเป็นทางการของกลุ่มอาซุมะ พวกเขาได้รับการทดสอบต่าง ๆ จนสามารถเป็นนินจาอย่างเป็นทางการได้ และได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจแรกจากอาจารย์ของพวกเขา ‘อาซุมะ ชิอุนไซ’ ในทันที

image 955

ภารกิจที่ได้รับมอบหมายนั้นคือการกำจัดกลุ่มโจรสองกลุ่มที่ได้ร่วมมือกันยึดพื้นที่หมู่บ้านของชาวนาในท้องถิ่น ริคิมารุได้รับมอบหมายให้ไปจัดการกับโจรกลุ่มแรกที่มี ‘การัน’ เป็นหัวหน้ากลุ่มในช่วงเวลากลางวัน และอายาเมะได้รับมอบหมายให้ไปจัดการกลุ่มโจรภูเขาอีกหนึ่งกลุ่มที่มี ‘โบรอน’ เป็นหัวหน้ากลุ่มในช่วงเวลากลางคืน


ฉากที่ 1 – ดอกบัวสีแดง

image 958

การตายของผู้นำตระกูลโกดะคนปัจจุบันทำให้เกิดการต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันภายใน การต่อสู้และการทรยศที่เลวร้ายยิ่งกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์การนองเลือดของประเทศญี่ปุ่น มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ผู้นำตระกูลโกดะได้มอบอำนาจและเกียรติยศของเขาทั้งหมด ความมั่งคั่งของดินแดน ให้กับบุตรชายของเขา ‘โกดะ มัตสึโนะชิน’ แต่น้องชายของผู้นำตระกูลโกดะคนปัจจุบัน ‘โกดะ โมโตฮิเดะ’ เชื่อว่าตัวเองมีสิทธิ์ในอำนาจของดินแดนโดยชอบธรรม เขาได้ติดสินบนให้กับซามูไรบางกลุ่มเพื่อให้มาเข้าร่วมกับเขา และมุ่งหน้าเข้าสู่อาณาจักรจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ‘เซคิยะ นาโอทาดะ’ ได้ตอบเพียงวิธีเดียวที่สามารถจะทำให้ตระกูลโกดะหลุดพ้นช่วงวิกฤตนี้ได้ เขาจะเรียกกลุ่มอาซุมะนินจามา

image 960

ทัตสึมารุ ริคิมารุ และอายาเมะ ได้ถูกชิอุนไซเรียกให้ไปพบในช่วงยามดึก ชิอุนไซได้กล่าวสรุปถึงเรื่องของปราสาทโกดะที่ถูกโจมตีโดย ‘โกดะ โมโตฮิเดะ’ และได้ออกคำสั่งให้ทั้งสามคนทำภารกิจปกป้อง ‘โกดะ มัตสึโนะชิน’ กับครอบครัว ผู้ซึ่งเป็นเจ้านายของพวกเขา ชิอุนไซได้ส่งมอบดาบ ‘อิซาโยอิ’ ดาบซึ่งได้รับสืบทอดต่อกันมาของกลุ่มนินจาอาซุมะให้กับทัตสึมารุ ซึ่งเป็นการแสดงถึงความไว้วางใจที่จะให้ทัตสึมารุได้สืบทอดการเป็นผู้นำของกลุ่มต่อ

image 961

ทั้งสามคนได้รุดหน้าไปยังปราสาทโกดะและพบว่ากำลังถูกโจมตี พวกเขาได้เจอกับสาวรับใช้ของตระกูลโกดะและทราบว่าสมาชิกในครอบครัวของตระกูลโกดะยังมีชีวิตอยู่ ทัตสึมารุได้แบ่งหน้าที่ให้อายาเมะออกตามหาภรรยาของโกดะ ‘เคย์’ และบุตรสาว ‘คิขุ’ ส่วนริคิมารุให้ร่วมทางกับตัวเขาออกตามหามัตสึโนะชิน แต่ในระหว่างทางทัตสึมารุได้เห็นศัตรูจึงได้ให้หน้าที่นี้แก่ริคิมารุ และทำการติดตามศัตรูไป

image 977

ทัตสึมารุได้พบกับคนกำลังระบำอยู่บนยอดหอคอยปราสาท จากนั้นเธอก็เข้าจู่โจมทัตสึมารุและถูกโต้กลับจนชุดขาดออก เผยให้เห็นตัวตนว่าเป็นผู้หญิง เธอได้กล่าวชื่อของตัวเองให้ทัตสึมารุรับรู้ว่าเธอชื่อ ‘คากามิ’ เป็นผู้นำกลุ่มนินจา ‘เนียวเก็ตสึ’ ทัตสึมารุรู้จักนินจากลุ่มนี้ว่าคือคู่แข่งที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของ ‘โทดะ โยชิซาดะ’ คากามิเห็นดาบที่ทัตสึมารุถืออยู่และรู้ได้ทันทีว่าดาบนั้นคือดาบอะไร รวมถึงรู้ตำแหน่งของเขาด้วย เธอจึงได้เสนอให้ทัตสึมารุมาเข้าร่วมกับกลุ่มนินจาของเธอเพื่อเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ นั่นคือนำนินจาขึ้นสู่อำนาจที่เหนือกว่าซามูไร เป็นอิสระจากการถูกควบคุม และทำให้โลกถูกปกครองด้วยนินจา ทัตสึมารุปฏิเสธคำชวนของคากามิหลังจากฟังสิ่งที่เธอเล่าเสร็จ เธอจึงสั่ง ‘เซริว’ หนึ่งในสี่ขุนพลแห่งรุ่งอรุณที่ลุกไหม้ให้จัดการกับเขา

image 957

ในขณะเดียวกัน ริคิมารุได้เข้าไปยังปราสาทโกดะหลังหนึ่งที่ไฟไหม้เพื่อค้นหาเจ้านายของเขา และได้พบว่าโมโตฮิเดะกำลังปะทะอยู่กับมัตสึโนะชิน

โมโตฮิเดะได้กล่าวว่ามัตสึโนะชินนั้นไม่แข็งแกร่งพอที่จะปกครองแคว้นโกดะได้ ทางมัตสึโนะชินไม่ยอมรับคำกล่าวหานั้นและได้มีการประดาบกันเกิดขึ้น ทางมัตสึโนะชินนั้นเป็นฝ่ายได้เปรียบและสามารถที่จะทำการสังหารโมโตฮิเดะได้ แต่เขาไม่ได้ทำอย่างนั้นและลดดาบลง ทางโมโตฮิเดะที่เห็นท่าทีใจอ่อนของมัตสึโนะชินก็ได้ชักปืนขึ้นยิงเขา ริคิมารุที่เห็นเหตุการณ์นั้นก็ได้เข้าไปต่อสู้กับโมโตฮิเดะและจะทำการสังหารเขาในทันที แต่แล้วริคิมารุก็ต้องแปลกใจเมื่อมัตสึโนะชินได้เข้ามาขวางการโจมตีของเขาไว้ ทำให้ดาบฟันเข้าไปที่หลังของมัตสึโนะชิน

ริคิมารุได้ทิ้งดาบและเข้าไปดูอาการของเจ้านายของเขาพร้อมทั้งทำการขอโทษ ส่วนโมโตฮิเดะก็ได้อาศัยจังหวะนี้หลบหนีไป จากนั้น ‘ทาจิบานะ จูเบ’ ผู้เป็นนักดาบมือหนึ่งของโกดะก็ได้เข้ามาที่ห้องและจะทำการโจมตีริคิมารุ แต่มัตสึโนะชินได้ห้ามเอาไว้และบอกว่าริคิมารุคือคนที่ช่วยชีวิตของเขา ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ จูเบก็บอกให้เจ้านายของเขารีบหนีออกไปโดยใช้ทางลับพร้อมฝากให้ริคิมารุช่วยปกป้องในขณะที่ศัตรูเริ่มทำการบุกเข้ามาเพิ่ม

image 965

ทางด้านของอายาเมะที่กำลังตามหาภรรยาและลูกสาวของโกดะก็ได้มาพบกับทั้งสองเข้า แต่ว่าเธอมาช้าเกินไป เพราะโมโตฮิเดะได้มาพบกับพวกเธอก่อน เขาพยายามจับเจ้าหญิงคิขุเป็นตัวประกัน ส่วนทางเคย์ก็ได้พยายามรั้งและขอร้องไม่ให้โมโตฮิเดะนำลูกของเธอไป จนกระทั่งเธอถูกโมโตฮิเดะสังหาร อายาเมะได้เข้ามาขัดขวางโมโตฮิเดะที่กำลังจะหลบหนี แต่เธอกลับถูกขัดขวางด้วยการปรากฏตัวของหนึ่งในสี่ขุนพลแห่งรุ่งอรุณที่ลุกไหม้ ‘เก็นบุ’ หลังจากการต่อสู้กันและขับไล่เก็นบุไปได้ อายาเมะก็มาดูเคย์ที่กำลังจะสิ้นลมหายใจ เธอได้มอบกระดิ่งสองเส้นให้กับอายาเมะและกล่าวประโยคสุดท้ายว่า “ฝากดูแลคิขุด้วยนะ”

image 962

หลังจากนั้นทัตสึมารุก็ได้ตามเข้ามาพบกับอายาเมะ เธออธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรีบออกติดตามตัวเจ้าหญิงคิขุ ทัตสึมารุก็ได้ไปหาเซคิยะและส่งข่าวการตายของเคย์รวมถึงเรื่องที่องค์หญิงคิขุถูกลักพาตัวให้ทราบ ทางด้านจูเบที่เข้ามาพบกับทั้งสองคนก็ได้แจ้งให้ทราบว่าทหารของโทดะได้รวมตัวกันอยู่แถวนอกเขตแคว้นและเตรียมการทำศึกกับโกดะ ทั้งสามคนรู้ได้ในทันทีว่าตอนนี้โมโตฮิเดะได้ทรยศโกดะและไปเข้าร่วมกับโทดะ ทัตสึมารุได้ยืนยันอีกว่าเขาพบกับนินจาของโทดะ และขออาสาไปทำภารกิจสังหารโทดะให้

image 966

ทางฝั่งริคิมารุที่พาโกดะหนีออกมาจากปราสาทก็ได้พบกับเซคิยะที่ขี่ม้าเร็วมา เขาได้แจ้งข่าวการเสียชีวิตของเคย์และการลักพาตัวองค์หญิงคิขุโดยการกระทำของโมโตฮิเดะ รวมถึงการรุกรานของโทดะที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ให้โกดะทราบ โกดะได้แต่ร่ำไห้และโทษตัวเองว่าเป็นความรับผิดชอบของเขา ริคิมารุที่เห็นเจ้านายของเขารู้สึกเจ็บปวดจึงขออาสาไปสังหารโทดะเพื่อนำหัวกลับมาให้

image 964

อายาเมะมาถึงค่ายทหารของโทดะและทำการสอดแนมการพบกันระหว่างโมโตฮิเดะและโทดะ โมโตฮิเดะได้กล่าวขอโทษที่ปล่อยให้โกดะหนีไปได้ แต่เขาได้ลักพาตัวองค์หญิงคิขุมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงร้องขอกองกำลังทหารเพิ่มจากโทดะ เพื่อที่จะทำหน้าที่ยึดปราสาทให้สำเร็จ ทว่าลูกน้องของโทดะได้ชักดาบฟันทหารของโมโตฮิเดะ โทดะปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมืออีกต่อไปและได้สังหารโมโตฮิเดะ เพราะเขามองว่านี่คือโอกาสที่จะบุกยึดแคว้นเล็ก ๆ ของโกดะได้ และกล่าวว่า “เหล้าแห่งชัยชนะจะหอมหวานเมื่อเจ้าไม่ต้องแบ่งปันให้กับใคร” ก่อนที่โมโตฮิเดะจะสิ้นลมหายใจด้วยความเจ็บแค้น จากนั้นโทดะก็ได้สั่งให้ทหารพาองค์หญิงคิขุไปซ่อนไว้เพื่อรอใช้ประโยชน์ อายาเมะกระโดดลงมาจากต้นไม้เพื่อจะไปหาที่ซ่อนขององค์หญิงคิขุ แล้วก็ต้องเจอกับคากามิที่ซุ่มโจมตีขวางทางเธอเอาไว้ เมื่อคากามิเห็นอายาเมะเป็นเพียงแค่เด็ก เธอจึงไม่ได้สนใจอะไรมากนักและวิ่งหายไป ปล่อยให้อายาเมะรู้สึกงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

image 975

อายาเมะได้พบกระท่อมที่ซ่อนตัวเจ้าหญิงคิขุเอาไว้ เมื่อเธอเข้าไปคิขุก็ตื่นขึ้นและร้องไห้ถามหาถึงแม่ของเธอ อายาเมะพยายามปลอบเธอและได้มอบกระดิ่งให้กับคิขุ คิขุรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและกล่าวว่านี่คือ ‘กระดิ่งพี่น้อง’ ที่แม่ของเธอทำไว้ให้เธอกับอายาเมะ เพื่อให้เปรียบเสมือนเธอกับอายาเมะได้เป็นพี่น้องกันจริง ๆ

image 978

ในช่วงเวลานั้นเองทางฝั่งทัตสึมารุก็ได้ลอบเข้าไปยังค่ายทหารของโทดะและทำการต่อสู้เพื่อสังหารโทดะ เมื่อโทดะเสียท่าและกำลังจะเสียชีวิตนั้น คากามิก็ได้เข้ามาหาพอดี ทัตสึมารุได้กล่าวว่าสายเกินไปที่จะช่วยโทดะแล้ว แต่คากามิจิกหัวของโทดะขึ้นมาและทำการตัดหัวของเขา ทัตสึมารุตกใจกับการกระทำดังกล่าวและพูดว่า “นั่นเจ้านายของเจ้านะ!” คากามิตอบกลับ “ข้าเป็นเจ้านายตัวเอง” และนำหัวของโทดะไปที่หน้าผาพร้อมจุดไฟโยนลงไปข้างล่าง จากนั้นด้านล่างก็มีไฟจำนวนหนึ่งลุกโชนขึ้นมาซึ่งเป็นสัญญาณการเสียชีวิตของโทดะ และเป็นการกำเนิดของกลุ่ม ‘รุ่งอรุณที่ลุกไหม้’ กลุ่มนินจาที่เคลื่อนไหวเพื่อโค่นล้มซามูไรและสร้างดินแดนที่ปกครองโดยนินจา คากามิหันมาถามทัตสึมารุอีกครั้งว่าต้องการร่วมมือกับเธอมั้ย? ทัตสึมารุตั้งท่าต่อสู้ซึ่งเป็นคำตอบของเขาให้กับเธอ

image 976

ริคิมารุที่เดินทางมายังค่ายทหารของโทดะและกำลังจะเข้าไปยังจุดบัญชาการก็ต้องเจอกับ ‘ซูซากุ’ หนึ่งในสี่ขุนพลแห่งรุ่งอรุณที่ลุกไหม้เข้ามาขัดขวาง (ซูซากุได้ยื้อเวลาริคิมารุในช่วงที่ทัตสึมารุกำลังสู้อยู่กับโทดะ) หลังจากประมือกันไม่นานซุซากุก็กล่าวว่า “เจ้าอาจจะกลายเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับข้าสักวันหนึ่งก็ได้” และได้วิ่งจากไป ริคิมารุที่เหมือนโดนเยาะเย้ยรู้สึกโมโหและตะโกนเรียกให้ซูซากุกลับมา แต่ก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าต้องจัดการกับโทดะก่อนและได้เข้าไปยังค่าย เมื่อเข้ามาแล้วริคิมารุก็พบกับศพของโมโตฮิเดะที่นอนอยู่และพบศพไร้หัวของโทดะอีกด้วย ในขณะที่ริคิมารุสงสัยว่าเป็นฝีมือของใครนั้นก็ได้ยินเสียงการปะทะกันของใครบางคนจึงได้ตามเสียงนั้นไปแล้วพบกับอายาเมะ เธอฝากให้ริคิมารุปกป้องเจ้าหญิงและรีบวิ่งไปหาทัตสึมารุที่กำลังต่อสู้กับคากามิ ในระหว่างการต่อสู้ของทัตสึมารุและคากามินั้น หน้าผาได้เกิดถล่มขึ้นมาจึงทำให้ทั้งสองคนตกลงไปในทะเล ได้แต่ทิ้งให้อายาเมะมองตามลงไปด้วยความเศร้าใจ

image 963

หลังจากตกทะเลไปทั้งสองคนถูกซัดไปยังชายฝั่งทะเลที่ไหนสักแห่ง คากามิได้ลากทัตสึมารุขึ้นมาและชักดาบทำท่าจะแทงลงไปยังตัวเขา แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น เธอทำการผายปอดช่วยชีวิตทัตสึมารุด้วยความรู้สึกเวทนา พอทัตสึมารุได้สติก็พูดขึ้นมาว่า “ข้าคือใคร โปรดบอกข้าที” แล้วหมดสติไป คากามิรู้สึกตกใจและคิดว่าทัตสึมารุตั้งใจใช้อุบายเอาตัวรอดแล้วพยายามปลุกเขาขึ้นมาแต่ก็ไม่เป็นผล เธอจึงแบกเขาเดินทางไปทั้ง ๆ ที่ทัตสึมารุยังไม่ได้สติ


ฉากที่ 2 – ทรายเคลื่อนตัว

image 968

หลังจากตกลงไปยังทะเลที่ซัดโหมกระหน่ำ ทัตสึมารุได้รับการช่วยเหลือจากคากามิ ศัตรูที่เขาพยายามจะสังหาร เวลาผ่านไปสองเดือนหลังได้รับการดูแลอย่างดีจากข้ารับใช้ของคากามิ ร่างกายของทัตสึมารุได้ฟื้นฟูจนสมบูรณ์ แต่ทว่าความทรงจำของเขานั้นไม่กลับมา ดังนั้นเขาจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะหนึ่งในสี่ขุนพลแห่งรุ่งอรุณที่ลุกไหม้

image 967

คากามิได้นำทัตสึมารุไปยังฐานที่มั่นของกลุ่มรุ่งอรุณที่ลุกไหม้ เธอได้ประกาศให้ทุกคนทราบว่าทัตสึมารุจะมาเป็นขุนพลคนใหม่แทนที่เซริวคนเก่า แม้ว่าตอนแรกจะมีเสียงคัดค้านจากเก็นบุอยู่บ้าง แต่ในที่สุดทุกคนก็ยอมรับเขาเป็นหนึ่งในพรรคพวกที่จะสามารถมาทำประโยชน์ให้ได้ จากนั้นคากามิก็ได้สั่งให้ทัตสึมารุไปทำภารกิจลักพาตัวชาวบ้านเพื่อนำมาใช้เป็นทาสแรงงานในการสร้าง ‘ปิศาจอัคคี’ เธอได้มอบหน้ากากมังกรฟ้าให้กับเขาและเน้นย้ำว่า ‘ความฝัน’ จะต้องมีความสำคัญสูงสุดเสมอ

image 969

นับจากเหตุการณ์การก่อกบฏของโมโตฮิเดะ เวลาได้ผ่านล่วงเลยไปสามเดือน ปราสาทโกดะที่ถูกโจมตีและไฟไหม้ก็ได้รับการซ่อมแซม เช่นเดียวกับตระกูลโกดะที่ได้รับการช่วยเหลือจากอาซุมะนินจา ในขณะที่ปราสาทได้รับการซ่อมแซมจากบริวาร โกดะก็พักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนินจาอาซุมะจนฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ดูเหมือนทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี แต่ทว่าหัวใจของหมู่บ้านนั้นยังมืดมัว เพราะว่ายังไม่ได้รับข่าวคราวของทัตสึมารุ

โกดะได้ส่งอายาเมะไปทำภารกิจช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกลักพาตัวและถูกส่งไปยังเกาะร้าง ส่วนริคิมารุก็ได้ถูกส่งไปทำภารกิจแยกที่หมู่บ้านบนภูเขาซึ่งกำลังถูกกลุ่มนินจารุกราน

image 974

อายาเมะได้ว่ายน้ำเดินทางไปยังเกาะร้างที่เป็นเป้าหมายของภารกิจในครั้งนี้ ระหว่างการค้นหาและสำรวจ อายาเมะพบว่าเกาะแห่งนี้มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา เธอเห็นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งถูกขนลงจากเรือให้เดินเข้าไปยังเกาะโดยกลุ่มโจรสลัดชาวจีน เธอจึงได้ทำการสำรวจเกาะเพิ่มเติมจนพบกับเรือนจำเล็ก ๆ แห่งหนึ่งบนยอดเกาะ อายาเมะช่วยปล่อยชาวบ้านให้เป็นอิสระและพบกับหัวหน้ากลุ่มโจรสลัด ‘หวังต้าไห้’ จึงเกิดการต่อสู้กัน หลังอายาเมะจัดการกับหวังต้าไห่ได้ เก็นบุก็ปรากฏตัวออกมาต่อหน้าอายาเมะ และชักชวนเธอให้มาเข้าร่วมกับกลุ่มรุ่งอรุณที่ลุกไหม้ พร้อมบอกถึง ‘ความฝัน’ และพูดถึงผู้นำของกลุ่มคากามิให้เธอฟัง แต่เก็นบุก็ไม่สามารถโน้มน้าวใจของอายาเมะได้ เธอได้ปฏิเสธคำชวนของเก็นบุไป

image 971

ทางฝั่งริคิมารุที่ไปยังภูเขาก็ได้ปีนขึ้นไปถึงยอดบนสุดและเจอพวกชาวบ้านที่ถูกจับไว้ เขาได้ช่วยปล่อยให้ชาวบ้านเหล่านั้นเป็นอิสระ และหนึ่งในชาวบ้านก็ได้พยายามจะมอบของบางสิ่งให้กับริคิมารุ แต่เขากลับโดนหัวหน้านินจา ‘คามะโดมะ’ โจมตีจากข้างหลัง ริคิมารุรู้สึกโกรธกับการกระทำดังกล่าวและเข้าต่อสู้กับคามะโดมะจนสามารถสังหารเขาได้ จากนั้นเขาก็ได้เข้าไปดูอาการของชาวบ้านที่บาดเจ็บ ชาวบ้านคนนั้นได้มอบแผนที่ ‘ท่าเรือลับ’ พร้อมกับขอร้องให้ริคิมารุช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกจับตัวไปก่อนที่จะสิ้นลมหายใจ

ทางด้านทัตสึมารุที่เดินทางกลับไปยังฐานทัพของรุ่งอรุณที่ลุกไหม้ก็ได้รับคำสั่งใหม่จากคากามิ เธอบอกว่าที่ตั้งของ ‘ท่าเรือลับ’ นั้นถูกอาซุมะนินจาค้นพบแล้ว เธอต้องการให้ทัตสึมารุไปที่ท่าเรือและปกป้องพวกทาสแรงงานที่กำลังสร้าง ‘ปิศาจอัคคี’

image 970

ริคิมารุที่สำรวจท่าเรือลับก็ได้พบว่ามีผู้ค้าทาสชาวจีนเป็นจำนวนมาก (ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่อายาเมะพบ) ริคิมารุได้เข้าต่อสู้และปลดปล่อยเหล่าชาวบ้านที่ถูกจับมา จากนั้นก็ได้พบกับหัวหน้ากลุ่ม ‘หวังเสี่ยวไห้’ จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ขณะนั้นเองทัตสึมารุที่ได้เดินทางมายังท่าเรือลับก็ได้จู่โจมเหล่าทหารของโกดะและได้ปะทะกับซามูไรเฒ่า ‘อุราโนะ ทาเคะฮิโตะ’ ที่ชั้นบนกับเรือลำเดียวที่ริคิมารุได้ลอบเข้าไป และได้สังหารซามูไรเฒ่าก่อนเข้าไปยังตัวเรือ

ริคิมารุที่สังหารหวังเสี่ยวไห้สำเร็จแล้วก็รู้สึกได้ถึงการมาของบุคคลอื่น เขาตอบสนองการซุ่มโจมตีของบุคคลปริศนานี้ได้ และได้ถามไปว่า “เจ้าเป็นใคร?” ก่อนที่บุคคลปริศนาคนนี้จะชักดาบออกมา ริคิมารุจำดาบที่ชักออกจากฝักนั้นได้เป็นอย่างดีว่าคือ ‘อิซาโยอิ’ และทัตสึมารุก็ได้ถอดหน้ากากออก ริคิมารุรู้สึกดีใจที่เห็นทัตสึมารุยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ทันไรทัตสึมารุก็ได้ตอบกลับไปว่า “ใครคือทัตสึมารุ? ข้าเซริวหนึ่งในขุนพลแห่งรุ่งอรุณที่ลุกไหม้” และเกิดการปะทะกันต่อขึ้น ริคิมารุที่กำลังสับสนว่าทัตสึมารุพูดเรื่องอะไรอยู่ และได้พยายามบอกว่าตัวเขานั้นคือทัตสึมารุเป็นผู้นำของกลุ่มนินจาอาซุมะ ทัตสึมารุหยุดการโจมตีลงและพูดว่าเขาไม่มีเวลามาพูดคุยกับคนบ้า จากนั้นก็ได้หนีไปพร้อมกับทิ้งความสงสัยให้กับริคิมารุที่ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา

image 973

ริคิมารุเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านอาซุมะและรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้อาจารย์ฟัง พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับทัตสึมารุ และไม่ทราบว่ากลุ่มรุ่งอรุณที่ลุกไหม้ได้ใช้กลวิธีอะไรถึงทำให้ทัตสึมารุจดจำพวกพ้องไม่ได้ แต่ก็คาดเดากันว่าทัตสึมารุอาจจะลืมทุกอย่างไปแล้วจริง ๆ ระหว่างการพูดคุยโกดะก็ได้เข้ามาหาชิอุนไซ เขาได้บอกว่าวัดแห่งหนึ่งถูกกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารุ่งอรุณที่ลุกไหม้เข้ายึดไปแล้ว จึงได้มอบหมายภารกิจให้กับริคิมารุไปจัดการนินจากลุ่มนี้

image 982

ทางด้านทัตสึมารุก็กลับไปยังฐานที่มั่นและรายงานความสูญเสียที่เกิดขึ้นของท่าเรือลับ คากามิโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากทั้งเรื่องของหมู่บ้านบนภูเขาและที่ท่าเรือลับ เธอจึงสั่งให้ทัตสึมารุไปทำการสังหารคนในหมู่บ้านลับของโกดะ ซึ่งที่นั่นเป็นหมู่บ้านกักกันชาวบ้านที่ป่วยเป็นโรคระบาดอยู่ ทางโกดะเองเมื่อทราบข่าวว่ากลุ่มรุ่งอรุณที่ลุกไหม้ได้มีการสั่งโจมตีไปยังหมู่บ้านแห่งนี้ ก็ได้มอบหมายภารกิจให้กับอายาเมะไปช่วยเหลือหมู่บ้านดังกล่าว

image 972

ส่วนสถานการณ์ทางฝั่งริคิมารุ เมื่อเขาได้ลอบเข้าไปยังวัดและทำการสังหารศัตรูมากมายแล้ว เขาก็ได้เข้าไปยังอารามแห่งหนึ่งและพบกับซูซากุที่เป็นเป็นผู้บงการ ซูซากุได้ปิดกั้นทางเข้าออกของอารามเพื่อที่จะดวลกับริคิมารุ แต่ทว่า ‘ยูกิโฮตารุ’ นินจาหญิงหนึ่งในกลุ่มรุ่งอรุณที่ลุกไหม้ได้ขอซูซากุให้เธอเป็นคนกำจัดริคิมารุแทนเขา แต่เธอก็ไม่สามารถจัดการกับริคิมารุได้ ในขณะที่เธอกำลังจะตาย เธอได้ขอให้ซูซากุช่วยกอดก่อนที่เธอจะสิ้นลมหายใจ แต่ซูซากุได้ใช้ดาบแทงเข้าไปที่คอของเธอ ยูกิโฮตารุที่มีความรักให้กับซูซากุได้แต่ถามว่าทำไม? เขาตอบเพียงแค่ว่า “ข้าไม่มีความรักให้กับความอ่อนแอ”

จากนั้นริคิมารุก็ได้ถามว่ากลุ่มรุ่งอรุณที่ลุกไหม้ได้ทำอะไรกับทัตสึมารุ ซูซากุตอบว่าไม่มีทัตสึมารุอีกต่อไปแล้ว มีเพียงแต่เซริว เขาเลือกที่จะทิ้งอดีตของเขาไปและใช้ชีวิตใหม่ ริคิมารุไม่เชื่อในสิ่งที่ซูซากุพูดเพราะเชื่อมั่นในตัวทัตสึมารุ และทั้งสองก็โต้ตอบกันถึงเรื่องเป้าหมายของกลุ่มรุ่งอรุณที่ลุกไหม้ต่อ ในขณะที่ริคิมารุเริ่มสับสนกับคำพูดของซูซากุ ซูซากุก็ได้หลบหนีไป ริคิมารุพยายามจะตามเขาไป แต่ก็ต้องหยุดเมื่อพบกับนกพิราบสื่อสารที่ผูกผ้าพันคอสีแดงบินมาหา ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณบอกว่าหมู่บ้านนินจากำลังถูกโจมตี

image 981

ในช่วงเวลาที่ห่างกันไม่มากนัก ทางด้านอายาเมะซึ่งมาทำภารกิจที่หมู่บ้านลับของโกดะก็พบว่าหมู่บ้านถูกกลุ่มรุ่งอรุณที่ลุกไหม้เข้ายึดครองไปแล้ว เธอทำการสังหารเหล่าศัตรูจากนั้นก็มุ่งตรงไปยังเขตศาลเจ้าของหมู่บ้าน และเธอก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นทัตสึมารุและคากามิที่อยู่ด้วยกันสองคน

เมื่อคากามิออกจากหมู่บ้านไป อายาเมะก็วิ่งเข้าไปหาทัตสึมารุด้วยความดีใจที่เขายังมีชีวิตอยู่ แต่ทัตสึมารุปฏิเสธว่าไม่เคยเจอกับเธอมาก่อนในชีวิต อายาเมะที่สับสนว่าเกิดอะไรขึ้นก็พยายามพูดคุยกับทัตสึมารุ แต่เขาก็ไม่สนใจและพยายามจะจากไป อายาเมะพยายามจะรั้งตัวทัตสึมารุเอาไว้แต่ก็ถูกสามนินจา กบ, งู และทาก เข้ามาขวางทาง เธอจำเป็นต้องต่อสู้กับนินจาทั้งสามคนจึงทำให้ทัตสึมารุหลบหนีเธอไปได้ เมื่อการต่อสู้จบลงก็มีนกพิราบสื่อสารบินมาที่ตัวอายาเมะ จึงทำให้เธอรู้ว่าหมู่บ้านนินจากำลังถูกโจมตี

image 979

ริคิมารุที่เดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านนินจาก็พบว่าผู้คนในหมู่บ้านกำลังถูกศัตรูสังหาร และได้พบกับคากามิผู้นำกลุ่มรุ่งอรุณที่ลุกไหม้ตรงนั้น ริคิมารุโมโหและกล่าวว่า “เจ้ายังเรียกตัวเองว่านินจาได้อยู่อีกหรือ? การกระทำของเจ้าไม่สามารถให้อภัยได้!” คากามิเดาได้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้คือริคิมารุ ผู้ที่เข้ามาขัดขวางแผนการต่าง ๆ ของเธอ ทั้งสองตอบโต้กันด้วยคำพูดสักพักก่อนที่คากามิจะหลบหนีไป ริคิมารุรีบขึ้นไปยังบ้านของชิอุนไซและพบว่าอาจารย์และเจ้านายของเขายังปลอดภัยดี ชิอุนไซกล่าวว่าจะคอยปกป้องโกดะเอง ส่วนริคิมารุให้ไปช่วยผู้คนในหมู่บ้าน ริคิมารุรับคำสั่งของอาจารย์และรีบลงมือทันที

image 980

ในระหว่างที่ริคิมารุพยายามสังหารศัตรูเพื่อช่วยเหลือหมู่บ้านอยู่นั้น ทางทัตสึมารุที่เริ่มเข้าโจมตีหมู่บ้านก็ได้เข้าไปยังบ้านของชิอุนไซ โกดะที่เห็นทัตสึมารุบุกรุกเข้ามาก็ได้วิ่งเข้าไปโจมตีใส่ แต่เขากลับโดนทัตสึมารุชกสวนเข้าให้กลางหน้าอกจนหมดสติไป ชิอุนไซเห็นทัตสึมารุก็ตกใจที่เขาได้บุกเข้ามายังที่นี่ ชิอุนไซนิ่งไปสักพักแล้วพูดกับทัตสึมารุเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตก่อนจะเข้าต่อสู้กับเขา ทัตสึมารุได้สังหารชิอุนไซด้วยดาบอิซาโยอิ ในช่วงเวลาที่ชิอุนไซล้มลงนั้นทัตสึมารุก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เขาสงสัยว่าชายแก่คนนี้คือใคร มีความสำคัญอย่างไรกับเขาหรือไม่ เขารู้สึกเหมือนสูญเสียสิ่งสำคัญบางอย่างไป แต่ทว่าตัวเขาก็ยังไม่สามารถนึกเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาได้อยู่ดี

ติดตามต่อ : [Part 2]

Back to top button