สิ่งที่มาคู่กันกับ Call of Duty นอกเหนือจากประสบการณ์การยิงปืนที่เมามันส์แล้ว คงต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่อาจชวนให้ปวดหัวได้ในบางครั้งสำหรับผู้เล่นเพราะว่ามันคือการกินเนื้อที่ที่ดุเดือดขนาดที่ว่าเกมบางภาคต้องใช้พื้นที่ติดตั้งสูงเกือบ 250GB เลยทีเดียว แม้ว่าบน PC จะเป็นเรื่องที่สิวๆ ด้วยความง่ายต่อการจัดการไฟล์ แต่สำหรับอุปกรณ์ที่มีพื้นที่เริ่มต้นจำกัดอย่าง Xbox Series S หรือ PlayStation 5 ล็อตแรกๆ ที่ให้พื้นที่ได้ราว 325GB – 625GB ทำให้แค่คิดจะติดตั้งเกมภาคเดียวยังต้องก่ายหน้าผากหลายรอบ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Activision ได้พยายามหาวิธีที่จะลดขนาดการติดตั้งอยู่เสมอเช่นการให้ตัวเลือกติดตั้งคอนเทนต์ของเกมหรือไฟล์ปรับแต่งกราฟิกแยก กระนั้นก็ไม่ถือว่าประสบความสำเร็จเชิงรูปธรรมนัก อย่างไรก็ตามในบล็อกทางการของเกมที่เพิ่งอัปเดตให้อ่านเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับประเด็นนี้ที่น่าสนใจแล้ว และคราวนี้เองก็เป็นข่าวดีให้กับเพื่อนๆ ทุกคน โดยเฉพาะสายคอนโซลเพราะทางค่ายเตรียมนำเสนอแผนการปรับลดขนาดติดตั้งเกมภาคใหม่เริ่มต้นในช่วงปลายปีนี้
ระบบการปรับขนาดจะมาเริ่มนำร่องในรูปของอัปเดตที่จะปล่อยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อเตรียมงานในการจัดสรรปันส่วนไฟล์เกมสำหรับผู้เล่นที่เคยติดตั้งภาคเก่าๆ แล้ว (ปัจจุบันเป็นไฟล์ Hub ในชื่อ Call of Duty ที่ยืนพื้นเป็นเมนูกลาง) และในเดือนตุลาคมจะเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่าง โดยคาดว่าจะสมบูรณ์เมื่อเกมภาค Black Ops 6 ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เมื่อนั้นไฟล์เกมจะลดหายไปแบบเห็นได้ชัด ทั้งนี้ส่วนของ PlayStation 5 นั้นมีความซับซ้อนเรื่องระบบจัดการไฟล์ภายในเครื่อง จึงจำเป็นต้องดาวน์โหลดอัปเดตแยกเป็น 4 ชิ้นและมีขั้นตอนมากกว่า ทว่าเมื่อสำเร็จเสร็จสิ้นจะมีผลลัพธ์แบบเดียวกันคือไฟล์เล็กลงให้เราได้นำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ
หลักการทำงานของระบบแยกไฟล์ใหม่คือการต่อยอดจากระบบเดิมและสามารถใช้งานได้ง่ายนั่นคือ Warzone จะถูกทำเป็นไฟล์เดี่ยวไม่บังคับดาวน์โหลด อีกทั้งเกมโดยรวมจะอาศัยเทคโนโลยี Texture Streaming ที่เคยยกตัวอย่างมาแล้ว เพื่อสตรีมภาพไฟล์พื้นผิวกราฟิกของโมเดล จุดนี้ย่อมหมายความว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด แต่ในทางกลับกันเกมจะไม่ต้องบันทึกไฟล์คุณภาพสูงในเครื่องอีกต่อไป ทุกอย่างจะเป็นการดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลครับ
Call of Duty Black Ops 6 จะเป็นเรื่องราวต่อเนื่องจากภาค Black Ops Cold War ในปี 2020 โดยแคมเปญหลักมาพร้อมกับธีมสปายอยู่ในยุค 1990 พร้อมโหมดการเล่นแคมเปญ – PvP ออนไลน์ครบครัน ซึ่งโหมดมัลติเพลเยอร์จะนำเสนอคอนเทนต์ฉากที่พัฒนาใหม่ถึง 16 ฉาก รองรับความสนุกในโหมดการเล่นทั้ง 6v6 คลาสสิกยอดฮิต และโหมดพิเศษที่จะเปิดตัวในอนาคต โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ทั้งบน PlayStation 5, Xbox Series X|S และ PC เช่นเดียวกับการให้บริการผ่าน Game Pass
