10 ความแตกต่างระหว่าง Mario Kart World กับ Sonic Racing CrossWorlds
สองเกมโกคาร์ทที่กำลังแข่งขันกันในตลาดอยู่ในขณะนี้

หลังจากปี 2023 เคยได้ชนกันไปแล้วครั้งหนึ่งระหว่าง Sonic Superstars กับ Super Mario Bros. Wonder ดูเหมือนว่าคู่แข่งทางจิตวิญญาณอย่างเจ้าเม่นสีน้ำเงินและลุงหนวดช่างซ่อมท่อจะดวงเข้ากันเหลือเกินเพราะปีนี้ได้ชนกันอีกรอบกับเกมรถแข่ง Mario Kart World และ Sonic Racing CrossWorlds ที่เปิดให้เล่นแล้ววันนี้ แต่หลายคนอาจสงสัยไม่น้อยว่าทั้งสองเกมนี้เหมือนและต่างกันตรงไหน ว่าแล้วมาติดตามกันเลยดีกว่า
- ความผาดโผนในการขับรถ

เริ่มจากความสุดเหวี่ยงในฐานะเกมรูปแบบโกคาร์ทสไตล์ปาร์ตี้ก่อนเลย Mario Kart World นั้นแม้จะไม่มีระบบดำน้ำ รวมไปถึงการขับรถต้านแรงโน้มถ่วง แต่รถยนต์สามารถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกได้ เช่นเดียวกับสามารถเรียกเครื่องร่อนออกมาได้เลย ส่วนฝั่งของ Sonic Racing เองก็จะมีการแปลงร่างรถให้เป็นเรือ เช่นเดียวกับเครื่องบินได้ด้วย นอกจากนี้สไตล์รถแข่งจะมีสองแบบคือรถมาตรฐานและฮาเวอร์บอร์ด แต่ Mario จะเป็นรถยนต์, รถเอทีวี และรถมอเตอร์ไซค์
- ฟิสิกส์ของรถ

โดยรวมแล้ว Mario Kart World จะให้ความมั่นคงในการเกาะถนนมากกว่าแม้ว่าจะปรับให้ผู้เล่นสามารถกระโดดเด้งไปมาได้มากขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มเมคานิกการไต่กำแพง การแข่งจึงอาศัยทักษะเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะร่วมกับการเลือกเฟ้นไอเทมที่จะช่วยพลิกเกม ส่วน Sonic Racing นั้นจะให้อารมณ์อาร์เคดที่รถสามารถวิ่งฝ่าอุปสรรคกันได้ฉิว และได้แรงบันดาลใจจากเกมภาค Sonic & SEGA All-star Racing Transformed เลย ส่วนนี้บางคนอาจจะชอบไม่เหมือนกันก็ได้
- สนามแข่งแบบมาตรฐาน

สนามมาตรฐานของทั้งสองเกมอยู่ในหลัก 20 – 30 แห่งพอๆ กัน แต่ Sonic จะจำกัดเป็นรูปแบบเซอร์กิต นั่นหมายความว่าทุกด่านแบ่งแยกออกจากกันตามการเลือกของผู้เล่นหรือทัวร์นาเมนต์ที่เลือกแข่งในโหมดหลัก ขณะที่ Mario Kart World นำเสนอประสบการณ์การแข่งขันในแผนที่ขนาดใหญ่ที่ทุกสนามเชื่อมต่อหากัน หรือจะเลือกเป็นแบบเซอร์กิตรายฉากเหมือนภาคเก่าก็ได้เช่นกันครับ
- รูปแบบการแข่งขัน

Sonic Racing CrossWorlds ให้ความสำคัญกับการแข่งในสนามเป็นหลัก ขณะที่ Mario Kart World มาพร้อมกับรูปแบบการแข่งที่มีกิมมิคไม่เหมือนกันสามแบบคือการแข่งในสนามที่เชื่อมต่อกันแม้เป็นเซอร์กิต, การแข่งขันขับรถระยะไกลอย่าง Knockout Mode ที่เป็นการแพ้คัดออกสุดเร้าใจ และโหมด Battle ที่ให้เราใช้ไอเทมโจมตีผู้เล่นหากัน นอกจากนี้ยังมีจำนวนผู้เล่นในสนามต่างกัน ซึ่ง Sonic มาพร้อมการรองรับ 12 ผู้เล่น ส่วน Mario จะเล่นได้ถึง 24 คนพร้อมกัน
- การสนับสนุนหลังวางจำหน่าย

ปัจจุบัน Sonic Racing CrossWorlds มีการวางแผนให้การสนับสนุนเกมทั้งรูปแบบอัปเดตคอนเทนต์ฟรีเพื่อปลดล็อกตัวละครครอสโอเวอร์ใหม่ๆ ในอนาคตไปตลอดปี 2026 เช่นเดียวกับสนามแข่งใหม่ที่กำลังรอการเปิดตัว และยังมีการเตรียมการส่วนทัวร์นาเมนต์สำหรับการแข่งขันสายจริงจัง ขณะที่ Mario Kart World ยังมีเพียงแค่การประกาศทัวร์นาเมนต์ระดับภูมิภาคอย่างเดียว และไม่ได้มีการวางโร้ดแมปสนับสนุนคอนเทนต์ใดหลังจากนี้
- Lore ที่แฝงเอาไว้อยู่ในเกม
จุดเด่นสำคัญของ Sonic Racing CrossWorlds คือการที่องค์ประกอบของเนื้อเรื่องถูกถ่ายทอดมาอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นคัตซีนการแนะนำการแข่งขัน และไดอะล็อกของตัวละครหลักที่พูดคุยกัน ขณะที่ Mario Kart World ดูเหมือนจะโฟกัสไปยังการแข่งขันมากกว่า และแม้จะมีการใส่ชื่อของป้าย ร้านค้า หรือสปอนเซอร์ภายในฉาก ทว่าก็ไม่อาจเชื่อมโยงไปถึงตัวเกมจักรวาลหลักได้เพราะทุกตัวละครล้วนจดจ่อกับพวงมาลัยตรงหน้า
- การปรับแต่งรถที่โดนใจเรา

Sonic Racing CrossWorlds มาพร้อมกับระบบการแต่งรถที่ลึกกว่า Mario Kart World ที่เน้นความเรียบง่าย โดย Sonic สามารถเลือกรถที่ชอบเข้ากับสถานะของตัวละคร หรือจะจูน ปรับสีสัน ได้อย่างอิสระ พร้อมปิดท้ายด้วยระบบป้ายทะเบียนที่เป็นเหมือนเพิร์คพิเศษ แต่ Mario จะมีการปรับสถานะรถแข่งเพียงแค่ชุดเดียวเข้ากับสถานะเริ่มต้นของตัวละครนั้นๆ หากใครอยากเนรมิตรถแข่งที่มีความเป็นตัวของตัวเอง Sonic อาจเข้ากับความต้องการมากกว่า
- แพลตฟอร์มที่รองรับ

แน่นอนว่า Mario Kart World นั้นมาพร้อมกับการเป็นเกมเอ็กคลูซีฟบนแพลตฟอร์มเครือ Nintendo เพียงเท่านั้น แต่สำหรับ Sonic Racing CrossWorlds ได้จัดหนักกว่าเดิมเพราะลงให้ครบทุกเครื่องตั้งแต่ PlayStation 5, Xbox Series X|S, Nintendo Switch 2 และ PC ไปจนถึงเครื่องเกมเจ็นก่อนหน้า พร้อมทำลายข้อจำกัดเดิมๆ ด้วยการเปิดเซิร์ฟเวอร์ครอสเพลย์ให้หาตี้เล่นกันได้ไม่ว่าจะอยู่บนอุปกรณ์ไหนก็ตาม
- แนวคิดการครอสโอเวอร์

แม้ Mario Kart 8 Deluxe จะชิมลางการครอสโอเวอร์ไปแล้วด้วยตัวละครและสนามแข่งจากเกมอื่น แต่ Sonic Racing CrossWorlds จะมาพร้อมทั้งตัวละครครอสโอเวอร์ และสนามที่ข้ามจักรวาลมามอบความสนุกกันตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ ไม่ว่าจะเป็น Hatsune Miku, Joker, Ichiban ที่เป็นตัวละครในเครือที่จะอัปเดตให้ฟรีพร้อมอีเวนต์เก็บไอเทมพิเศษ และยังมีตัวละคร DLC เพิ่มเติมอย่าง Rockman, Steve จากเกม Minecraft ไปจนถึงเต่านินจาการ์ตูนดังวัยเด็ก
- การรองรับภาษาไทย
แม้จะเป็นเวลาไม่กี่ปีที่ SEGA ได้เริ่มรุกตลาดเอเชียกัน แต่เราจะพบว่ามีเกมจากแฟรนไชส์เจ้าเม่นสีน้ำเงินที่ได้รับการแปลภาษาให้เราได้เลือกเป็นเจ้าของกันมากมาย เช่นเดียวกับ Sonic Racing CrossWorlds ที่มาพร้อมการรองรับคำบรรยายภาษาไทยทั้งในส่วนของเมนูและไดอะล็อก ส่วนฝั่ง Mario Kart World นั้นแม้จะยังไม่มีการแปลภาษา แต่อย่างน้อยก็เปิดตลาดเกมแรกกันแล้วกับ Donkey Kong Bananza ที่จะมีแพตช์ในอนาคต ไม่แน่อาจมีอัปเดตมาก็ได้นะ
เห็นได้ว่าต่างเกมต่างมีจุดเด่นเฉพาะตัว ทั้ง Sonic Racing CrossWorlds ที่จัดเต็มในแง่โปรดักชันและคอนเทนต์การร่วมมือกับเพื่อนต่างค่าย ต่างเกมกันแบบเต็มสูบ ส่วน Mario Kart World เองก็จะเป็นเกมรถแข่งที่เน้นย้ำความคลาสสิกแบบภาคต้นฉบับที่มีทั้งการแข่งแบบจริงจังและความปั่นป่วนด้วยไอเทมเช่นเดียวกับโหมดการเล่นที่หลากหลาย สำหรับเพื่อนๆ ชอบเกมไหนก็หาซื้อกันได้ และแน่นอนว่า ThisIsGame Thailand ก็มีรีวิวให้ติดตามกันข้างล่างทั้งสองเกมเลยด้วย~