เทคโนโลยี

จัดสเปคคอมสำหรับเล่นเกมที่เทียบเท่ากับ PS5

อาจจะต้องใช้งบถึงสองเท่าตัวเพื่อที่จะทำสเปคให้ใกล้เคียงกัน

เชื่อว่าหลาย ๆ คนในตอนนี้คงมีความรู้สึกว่าอยากจะได้เป็นเจ้าของคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PlayStation 5 กันเป็นจำนวนมาก และที่อยากจะทราบที่สุดคงเป็นเรื่องของราคาว่าจะมีราคาเท่าไหร่กันแน่ เพราะที่ผ่านมาข้อมูลดูไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันนัก บ้างก็ว่า 20,000 บาทขึ้นไป บ้างก็ว่าแค่หมื่นกลาง ๆ เท่านั้น แต่วันนี้เราจะมาคุยกันว่า ถ้าเกิดอยากจะประกอบคอมสักเครื่องให้มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือสูงกว่า PlayStation 5 จะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้ยืดยาวเกินไปมาดูกันเลยดีกว่า

ปัจจัยในการจัดสเปคครั้งนี้

สำหรับการจัดสเปคคอมในครั้งนี้ด้วยความที่ว่ามันเป็นการจัดเพื่อให้เทียบเท่ากับ PlayStation 5 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอื่น และระบบที่ใช้งานก็แตกต่างกัน ฉะนั้นเราจึงขอกำหนดปัจจัยขึ้นมาเพื่อให้เราทราบว่าควรจะมุ่งไปในทิศทางใด 

จัดสเปคคอมสำหรับเล่นเกมที่เทียบเท่ากับ PS5

– ต้องสามารถเล่นเกมได้ที่ความละเอียด 4K 60FPS เป็นอย่างต่ำ *** อัปเดตเพิ่มเติม PlayStation 5 จะรองรับการเล่นในบางเกมที่ 4K 120FPS

– คำนึงถึงความเร็วในการโหลดข้อมูลที่รวดเร็วในการเปิดเกมและระหว่างที่อยู่ในเกม

สองข้อนี้คือปัจจัยที่เราจะนำมาพิจารณาในครั้งนี้สำหรับการประกอบคอมเพื่อให้สามารถใช้งานเล่นเกมได้ไม่ต่างจาก PlayStation 5 เมื่อเห็นปัจจัยที่เราหยิบมาเป็นเป้าหมายแล้วก็ไปดูสเปคที่เราเลือกมากันเลย

จัดสเปคคอมสำหรับเล่นเกมที่เทียบเท่ากับ PS5

CPU: สำหรับซีพียูที่มีการใช้งานบน PlayStation 5 จะเป็นตัวของซีพียูปรับแต่งพิเศษจากทาง AMD ที่มีจำนวน Core ในการทำงานทั้งหมด 8 Core โดยมีความเร็วที่ 3.5GHz โดยที่ความเร็วในส่วนนี้จะมีการปรับตามสิ่งที่ใช้งานเองอีกครั้ง โดยสถาปัตยกรรมที่ใช้งานเป็นตัวของ Zen 2 ฉะนั้นเราจะขอเลือกซีพียูสำหรับการประกอบในครั้งนี้เป็นซีพียูที่มาจาก AMD เช่นเดียวกันอย่าง Ryzen 7 3800X ที่เป็นซีพียูที่ทำงานบน Zen 2 เช่นเดียวกัน มาพร้อมความเร็ว 3.9GHz จำนวน Core การทำงาน 8 Core 16 Threads เป็นซีพียูระดับสูงสำหรับการเล่นเกมในปัจจุบันจากฝั่ง AMD

จัดสเปคคอมสำหรับเล่นเกมที่เทียบเท่ากับ PS5

MB: ในส่วนของเมนบอร์ดก็เป็นอีกเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เพราะต้องรองรับการใช้งาน Interface ต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุดในขณะเดียวกันเราก็จะไม่เลือกตัวที่มีราคาที่สูงจนเกินไปด้วยเช่นกันจึงขอเลือกเป็น Asrock B450M Steel Legend ที่รองรับการเชื่อมต่อต่าง ๆ ได้ครบถ้วน อีกทั้งยังมีขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไปทำให้สามารถนำไปเข้ากับเคสต่าง ๆ ได้สะดวก แถมรองรับการใช้งานที่เก็บข้อมูลแบบ M.2 ได้ถึง 2 ช่องด้วยกัน

จัดสเปคคอมสำหรับเล่นเกมที่เทียบเท่ากับ PS5

RAM: เป็นหัวข้อที่อาจจะยากเสียเล็กน้อยเพราะแรมบน PlayStation 5 มีการปรับแต่งมาแบบพิเศษให้สามารถใช้งานได้ดียิ่งขึ้น และจากข้อมูลแล้วมันก็เป็นแรมคนละประเภทเสียด้วย อย่างไรก็ตามเราก็จะขอจัดตามตัวเลขที่มีการแสดงออกมาให้ได้เห็นกันนั้นก็คือ 16GB โดยจะเป็นตัวของ HyperX Fury DDR4 16GB ที่เป็นแบบ 8GB x 2 ซึ่งบัสก็เลือกเป็นแบบ 3200 ที่แม้เมื่อนำมาเทียบกันบนพีซีด้วยกันแล้วบัสที่สูงอาจจะไม่ได้ช่วยทำให้เล่นเกมได้ดีขึ้นมากนักถึงกับขนาดที่ต้องลงทุน แต่เมื่อเราจะพูดถึงการจัดสเปคให้เทียบเท่ากับคอนโซลรุ่นใหม่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ในระดับนี้

จัดสเปคคอมสำหรับเล่นเกมที่เทียบเท่ากับ PS5

GPU: การ์ดจอจุดเด่นที่น่าจะทำให้เป็นข้อที่แตกต่างที่สุดในการเล่นเกมใน PlayStation 5 จะใช้งานเป็นการ์ดจอที่มีการปรับแต่งมาจากทาง AMD ที่เป็นสถาปัตยกรรม RDNA 2 มีจำนวน CU ทั้งหมก 36 CUs ความเร็ว 2.23GHz และประสิทธิภาพการทำงานในระดับ 10.28 TFLOPS ซึ่งการที่จะหาการ์ดจอที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพระดับนี้ในปัจจุบันค่อนข้างจะใช้งบที่สูงพอตัว ซึ่งที่พอจะเห็นว่ามีประสิทธิภาพที่สูงกว่าจะเป็นตัวของ NVIDIA GeForce RTX 2080 Super ที่มีประสิทธิภาพ 11.15 TFLOPS ส่วนรุ่นที่เราพอจะหาได้และมีราคาถูกสุดจะเป็นตัวของ GIGABYTE RTX 2080 SUPER GAMING OC 8G

จัดสเปคคอมสำหรับเล่นเกมที่เทียบเท่ากับ PS5

STORAGE: ที่เก็บข้อมูลใน PlayStation 5 ได้มีการปรับแต่งมาเป็นพิเศษให้สามารถส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วทำให้ลดระยะเวลาต่าง ๆ ได้เป็นอย่างมาก โดยที่ความจุของมันจะอยู่ที่ 825GB ใช้งาน Interface เป็นตัว NVMe SSD ที่เป็นแบบ PCIe 4.0 ความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุด 5.5 GB/s ฉะนั้นหากให้เลือกคงต้องเป็น SAMSUNG 970 EVO 1TB M.2 NVMe ที่มีความเร็วอยู่ในระดับที่เรียกว่าสูงเช่นกัน

จัดสเปคคอมสำหรับเล่นเกมที่เทียบเท่ากับ PS5

PSU: ในส่วนนี้ขอข้ามรายละเอียดของ PlayStation 5 ออกไปเพราะต้องมาคำนึงถึงกำลังไฟที่ตัวระบบต้องใช้งานจึงเลือกเป็นตัวของ Seasonic  M12II EVO ที่มีขนาด 850W รองรับมาตรฐานการจ่ายไฟต่าง ๆ ได้ไม่มีปัญหา ที่สำคัญสามารถจัดสายได้ง่ายด้วยความที่สามารถเลือกต่อสายสำหรับใช้งานได้อย่างอิสระ

จัดสเปคคอมสำหรับเล่นเกมที่เทียบเท่ากับ PS5

CASE: เป็นเรื่องอยากที่จะหาเคสที่มีขนาดใกล้เคียงกับ PlayStation 5 เนื่องจากสิ่งที่อยู่ภายในที่แตกต่างกัน และขนาดที่ต่างกันทำให้มันเป็นเรื่องที่ยากพอตัว จึงอาจจะต้องเลือกเคสที่มีหน้าตาคล้ายกับคอนโซลอีกรุ่นอย่าง Xbox Series X มาแทนอย่าง Aero Cool Rift RGB ที่มีหน้าตาใกล้เคียงอยู่บ้าง

ค่าเสียหายทั้งหมด

CPU: AMD Ryzen 7 3800X   ราคา 13,520 บาท

MB: Asrock B450M Steel Legend   ราคา 2,880 บาท

RAM: HyperX Fury DDR4 16GB 3200   ราคา 2,580 บาท

GPU: GIGABYTE RTX 2080 SUPER GAMING OC 8G   ราคา 25,060 บาท

STORAGE: SAMSUNG 970 EVO 1TB M.2 NVMe   ราคา 6,490 บาท

PSU: Seasonic  M12II EVO 850W   ราคา 3,880 บาท

CASE: Aero Cool Rift RGB   ราคา 1,300 บาท

รวม: 55,710 บาท

จากราคาต้องบอกว่ามันเป็นราคาสำหรับการประกอบคอมสำหรับการเล่นเกมแบบจริง ๆ จัง ๆ เครื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งหากนำไปเทียบกับราคาของ PlayStation 5 ที่มีหลุดออกมาว่าอาจจะสูงสุดที่ 25,000 บาท ก็ยังคงต้องบอกว่าซื้อคอนโซลมายังประหยัดกว่า เกือบลืมไปสเปคที่เราจัดได้ทำการตัดช่องสำหรับการใส่แผ่นต่าง ๆ ออกไปเนื่องจากการเล่นบนคอมแทบจะไม่มีแผ่นให้เราได้เห็นกันอีกแล้วนั่นเอง แต่สำหรับใครที่อยากได้ทางเลือกที่ประหยัดลงมาเราก็มีตัวเลือกให้เช่นกัน

สเปคทางเลือก

CPU: AMD Ryzen 5 3600X   ราคา 7,990 บาท

MB: Asrock B450M Steel Legend   ราคา 2,880 บาท

RAM: HyperX Fury DDR4 16GB 3200   ราคา 2,580 บาท

GPU: Zotac RTX 2070 SUPER Mini 8GB   ราคา 16,900 บาท

STORAGE: SAMSUNG 970 EVO 1TB M.2 NVMe   ราคา 6,490 บาท

PSU: COUGAR STX750 750W   ราคา 2,190 บาท

CASE: Aero Cool Rift RGB   ราคา 1,300 บาท

รวม: 40,330 บาท

จัดสเปคคอมสำหรับเล่นเกมที่เทียบเท่ากับ PS5

สำหรับสเปคทางเลือกจะมีการลดในส่วนของซีพียู การ์ดจอ และ PSU ลงมาเล็กน้อย ซึ่งสเปคตัวนี้อาจจะไม่ได้สามารถเล่นเกมในระดับ 4K ที่ 60FPS ได้เท่ากับสเปคด้านบน แต่ก็เพียงพอต่อการเล่นเช่นเดียวกัน โดยทั้งสองสเปคที่จัดมาการ์ดจอรองรับการใช้งานฟีเจอร์ Ray Tracing ทั้งคู่ซึ่งเป็นสิ่งที่จะมีให้ใช้งานเช่นเดียวกันใน PlayStation 5 อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าการจะจัดสเปคอมให้สามารถเล่นได้เทียบเท่ากับ PlayStation 5 เป็นอะไรที่ต้องใช้งบจำนวนมาก แต่สิ่งที่ได้มานอกจากการเล่นเกมก็คงเป็นการใช้งานส่วนอื่น ๆ ได้ด้วยนั่นเอง ฉะนั้นใครที่สายเกมจริง ๆ เราคงต้องแนะนำให้ซื้อ PlayStation 5 จะใช้งบที่น้อยกว่า หรือไม่ก็ต้องรอให้ผ่านไปสัก 2 – 3 ปีรอให้ราคาของสิ่งที่มีในปัจจุบันลดลงมาเสียก่อน แล้วค่อยจัดสเปคให้เทียบเท่า ก็น่าจะได้ราคาที่ถูกลงมานั่นเอง

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button