ส่องความแตกต่างระหว่าง Monster Hunter ยุคเก่าและยุคใหม่
ซีรีส์นี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากอดีตจนถึงปัจจุบันบ้างนะ?

สวัสดีเกมเมอร์นักอ่านชาว This Is Game ครับผม เหล่าฮันเตอร์ที่เข้ามาสู่โลกของ Monster Hunter นั้น แต่ละคนคงจะเริ่มรู้จักกับซีรีส์นี้ในภาคที่แตกต่างกันใช่มั้ยล่ะครับ บางคนอาจจะเริ่มต้นมาตั้งแต่ภาคแรก บางคนอาจจะมารู้จักตอนภาค World หรือบางคนอาจจะได้รู้จักมาจากเกมมือถืออย่าง MonHunNow ส่วนผมนั้นได้รู้จักเกมนี้และเริ่มเล่นมาตั้งแต่ภาคแรกตอนเปิดตัวใหม่ ๆ เลยล่ะครับ (อายุตอนนี้ก็เรียกลุงได้แล้ว) เรียกได้ว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของตัวเกมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลย (แม้ว่าอาจจะไม่ได้เล่นทุกภาคก็ตาม) ในบทความนี้ผมจะมาเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของ MonHun และเปรียบเทียบว่าเกมยุคเก่าและยุคใหม่ของซีรีส์นี้ได้เปลี่ยนแปลงอะไรกันไปบ้าง ลองมาอ่านกันนะครับ!

1. ตัวละครของผู้เล่นระหว่างสมัยนี้กับสมัยก่อนต่างกันอย่างไร?

ก่อนอื่นก็ขอเล่าถึงเรื่องธรรมดา ๆ ที่เห็นได้ชัดที่สุดกันก่อนนะครับ สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดระหว่างสมัยนี้กับสมัยก่อนก็คือ “ตัวละครของผู้เล่น” ครับ อย่างในภาคแรก ๆ ฮันเตอร์จะต้องออกทำเควสแบบเดี่ยว ๆ ตัวคนเดียว ไม่มีผู้ช่วย (ไม่นับการเล่นแบบหลายคน) ต้องอาศัยความชำนาญในการโจมตี หลบหลีก วางกับดักต่าง ๆ ด้วยตัวเองทั้งหมด แต่ถ้าลองมาดูในภาคหลัง ๆ เราจะเห็นได้ว่าฮันเตอร์นั้นจะมีคู่หูเข้ามาช่วยเหลือแล้ว นั่นก็คือ Palico (แมว) นั่นเอง หรืออย่างในภาค Rise ก็จะมี Palamute (หมา) เข้ามาช่วยเราด้วย ทำให้การออกล่ามอนสเตอร์นั้นง่ายขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยโจมตี ช่วยหลอกล่อมอนสเตอร์ ฟื้นฟูพลังกาย หรือใช้ไอเทมช่วยเหลือต่าง ๆ ให้เราครับ ซึ่งในอนาคตหากมีภาคใหม่ ๆ ถูกสร้างขึ้น ก็น่าจะได้เห็นผู้ช่วยเหล่านี้อยู่คู่กับฮันเตอร์ไปเรื่อย ๆ ตลอดซีรีส์แน่นอนครับ
2. การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเนื้อเรื่องตามกาลเวลา

ถ้าเป็นเกมยุคแรก ๆ ของ Monster Hunter เนื้อเรื่องจะค่อนข้างดูเรียบง่ายมากครับ ยกตัวอย่างให้เข้าใจก็คือ เราเข้าไปคุยกับ NPC รับเควส ทำเควส เปลี่ยนระดับความยาก และพบเจอเนื้อเรื่องในบทสนทนาครับ โดยบทสนทนาจะถูกเปลี่ยนไปพร้อมกับ NPC ในหมู่บ้าน (หรือเมือง) ด้วย เช่น NPC ฮันเตอร์ธรรมดา ๆ เห็นเราไปเควสระดับยาก บทสนทนาก็จะเปลี่ยนไปแบบชื่นชม ต่างจากก่อนหน้านี้ที่เป็นรุ่นพี่ที่ให้คำแนะนำกับเรา เป็นต้น รวมถึงฉาก CG ก็จะเน้นไปที่การปรากฏตัวครั้งแรกของมอนสเตอร์อย่างเดียว แต่หากเป็นภาคใหม่ ๆ แล้วเนื้อเรื่องจะมีความอลังการงานสร้างมากขึ้น เช่น ภาค World ที่มีเนื้อเรื่องแบบจัดเต็ม มี NPC ร่วมทางออกสำรวจไปกับเรา ทำให้ผู้เล่นรู้สึกผูกพันธ์ (?) ไปกับ NPC เหล่านั้น แถม CG ก็มีตัวละครของผู้เล่นไปปรากฏในเนื้อเรื่องอีกด้วย ส่วนอย่างภาค Rise เหล่า NPC ในเกมก็จะมีชื่อเป็นตัวเป็นตน ซึ่งต่างจากภาคอื่น ๆ ที่ชื่อของ NPC จะถูกแทนด้วยตำแหน่งหน้าที่เท่านั้น
3. รู้หรือไม่ว่าสมัยก่อนชุดเกราะถูกแบ่งประเภท?

การล่ามอนสเตอร์ หาวัตถุดิบ และนำมาทำอาวุธหรือชุดเกราะ เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของเกมนี้เลยล่ะครับ ปัจจุบันเราสามารถสร้างชุดเกราะและนำมาสวมใส่ พร้อมเลือกเล่นอาวุธอะไรก็ได้ตามใจอยาก แต่ในอดีตนั้นไม่ง่ายแบบในปัจจุบันเลยครับ อ้างอิงจากภาคแรกสุด ชุดเกราะจะถูกแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Blademaster และ Gunner หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “สายตีกับสายยิง” นั่นแหละครับ หากเราใส่อาวุธโจมตีระยะประชิดก็ต้องใส่ชุดประเภท Blademaster เท่านั้นครับ จะเอาชุดเกราะประเภท Gunner มาใส่ไม่ได้เด็ดขาด ในทางกลับกันอาวุธโจมตีระยะไกลก็เป็นเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีชุดเกราะที่สามารถใส่ได้ทั้ง Blademaster และ Gunner อยู่ แต่ทั้งเกมก็มีอยู่น้อยเซ็ตมากครับ หากจะเล่นอาวุธร่วมกันทั้งสองสายในตัวละครเดียว ก็ค่อนข้างต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสร้างเยอะหน่อยครับ
4. เหล่าแมว ๆ สมัยนี้กับสมัยก่อนต่างกันแค่ไหน?

ก่อนที่ MonHun ในปัจจุบันหลาย ๆ ภาค เราจะมีเหล่าแมวเหมียว Palicoes “เฟลีน” (หรือในเวอร์ชันญี่ปุ่นเรียกไอรู) เป็นคู่หูคอยผจญภัยและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ให้ ในสมัยก่อนทั้ง “เฟลีน” และ “เมลีน” (เมลารู) จะถูกจัดอยู่ในหมวดมอนสเตอร์แบบชัดเจนเลยครับ เฟลีนนั้นจะมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น แต่ไม่ใช่พวกที่จะโจมตีเราก่อนถ้าไม่ไปทำอะไรให้ ส่วนเมลีนนั้นจะมีนิสัยชอบลักขโมยสิ่งของของฮันเตอร์แล้วหนีไป แม้ว่าใน MonHun ภาคถัด ๆ มา จะเห็นเฟลีนคอยเข้ามาเรียนรู้ ช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ของมนุษย์ในหมู่บ้าน เช่น ทำอาหาร ทำการเกษตร ฯลฯ แต่ก็ยังไม่เหมือนกับเกม MonHun ในยุคหลัง ๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการผจญภัย ซึ่งหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงนี้ก็ยิ่งทำให้เสน่ห์ของการเล่นเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวเลยล่ะครับ
5. วิ่งตามมอนสเตอร์ในสมัยก่อนมันเหนื่อย!

ปัจจุบันในการตามล่ามอนสเตอร์นั้นค่อนข้างง่ายขึ้นมากครับ เราสามารถกดดูแผนที่ใหญ่ ๆ เพื่อมองหามอนสเตอร์เป้าหมายได้ ไหนจะมีระบบระบุตำแหน่ง แถมด้วยการนำทาง (อ้างอิงจากภาค World ทุกคนน่าจะนึกภาพออกนะครับ) แต่สมัยก่อนไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ ในเกมภาคแรกเราจะไม่มีระบบเปิดดูแผนที่ใหญ่ จะมีแค่แผนที่แบบภาพรวมเหมือนมินิแมพให้เท่านั้น ไม่มีระบบระบุตำแหน่งของมอนสเตอร์ในแผนที่ ถ้าอย่างนั้นแล้วสมัยก่อนจะรู้ได้ยังไงว่ามอนสเตอร์อยู่ในพื้นที่ไหน? ใช่แล้วล่ะครับ ไอเทม Paintball นั่นเอง! เราจะต้องปา Paintball ใส่มอนสเตอร์เป้าหมาย หลังจากนั้นจะสามารถเห็นตำแหน่งที่มอนสเตอร์หนีไปได้ครับ แต่ถึงจะระบุตำแหน่งได้แล้ว แต่ Paintball นั้นก็มีระยะเวลาจำกัดในการใช้งาน หากผ่านไปพักหนึ่งแล้วเรายังไม่สามารถจัดการกับเป้าหมายได้ ไอเทมก็จะหมดฤทธิ์ไป จึงทำให้ต้องใช้งานใหม่ครับ บางทีเควสจะหมดเวลาแล้วเราไม่รู้ว่ามอนสเตอร์บินหนีไปที่ไหน ก็เล่นทำเอากระวนกระวายใจเลยทีเดียว
6. การผสมไอเทมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป

เกม MonHun ภาคเก่า ๆ การผสมไอเทมจะไม่ง่ายเหมือนกับภาคใหม่ ๆ ครับ ยกตัวอย่างเช่น Potion สำหรับภาคเก่าเราต้องใช้ Herb + Blue Mushroom ผสมเข้าด้วยกัน แต่อย่างในภาค World เราแค่เด็ด Herb ตามทางแค่ชิ้นเดียวก็แปลงเป็น Potion ได้แล้วครับ (แถมสามารถตั้งค่าผสมไอเทมแบบออโต้ได้ด้วย) แถมภาคเก่า ๆ นั้น การผสมไอเทมมีเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จที่แตกต่างกันด้วยครับ แน่นอนว่ายิ่งเป็นไอเทมคุณภาพสูงก็ยิ่งมีโอกาสสำเร็จต่ำ และถ้าผสมผิดพลาดออกมาก็จะได้มาเป็นขยะแทน ซึ่งก็รกช่องเก็บของในกระเป๋าอีก เทียบกับปัจจุบันแล้วสบายขึ้นเยอะ ใช้วัตถุดิบก็น้อย แถมโอกาสสำเร็จยังแน่นอนอีกด้วย
7. ไอเทมประเภทเครื่องมือต่าง ๆ สามารถพังได้

อุปกรณ์ในภาคแรก ๆ นั้น จะมีไอเทมบางประเภทที่ใช้งานแล้วพังหายไปเลยครับ เช่น เสียม ตาข่ายจับแมลง เบ็ดตกปลา เป็นต้น ไอเทมจำพวกนี้มีไว้ใช้เพื่อหาวัตถุดิบโดยเฉพาะ และยังมีหลายระดับอีกด้วย พอใช้งานรวบรวมวัตถุดิบไปได้สักพักก็อาจจะพังแล้วหายไปจากกระเป๋าได้เลยทันที ซึ่งแตกต่างจากภาคใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนมาเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้ถาวร แถมไม่เอามารวมไว้ในช่องเก็บของเหมือนภาคเก่า ๆ (ซึ่งถ้าพังแล้วต้องซื้อใหม่เรื่อย ๆ ค่อนข้างเปลืองช่องเก็บของ) เป็นอีกจุดหนึ่งที่เปลี่ยนมาให้ใช้งานได้สะดวกสบายต่างจากสมัยก่อนครับ
8. ไอเทมที่ไม่จำเป็นแล้วก็หายไปตามกาลเวลา

เมื่อเกมมีการพัฒนามากขึ้น บางสิ่งที่ไม่จำเป็นก็ย่อมถูกคัดออกไป อย่างเช่นไอเทม Paintball ที่มีการกล่างถึงไปก่อนหน้านี้ครับ ในเมื่อระบบนำทางหรือการค้นหามอนสเตอร์พัฒนาไปแล้ว ไอเทมเก่า ๆ อย่าง Paintball ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เป็นได้แค่ส่วนหนึ่งในความทรงจำของผู้เล่นที่เคยใช้มา นอกจากนี้ก็ยังมีไอเทมอื่น ๆ ที่มีชะตากรรมเดียวกันอีกด้วย อย่างเช่น Felvine (มาทาทาบิ) หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “กัญชาแมว” ที่ใช้พกไว้เพื่อป้องกันการขโมยไอเทมมีค่าจากเมลีนหรือเมลารู หรือ Flute ที่มีไว้ใช้เป่าเรียกความสนใจจากมอนสเตอร์มาหาเรา เป็นต้น ก็เป็นไอเทมที่ถูกคัดออกเพราะภาคหลัง ๆ ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่ต้องใส่เข้ามาในเกมแล้วครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับกับเรื่องราวความแตกต่างระหว่างเกม Monster Hunter ภาคเก่าและภาคใหม่ หวังว่านักอ่านทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับบทความนี้กันนะครับ สำหรับเกมนี้ก็คงเป็นอีกหนึ่งเกมที่อยู่ในใจใครหลาย ๆ คน มีการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น และความท้าทายในการต่อสู้กับมอนสเตอร์ต่าง ๆ เป็นความสนุกที่ยากจะลืมจริง ๆ ในอนาคตถ้าหากผ่านไปอีกสัก 10 ปี เกมนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงและก้าวหน้าไปขนาดไหนอีกกันนะ? แค่คิดเล่น ๆ ก็น่าสนุกแล้วครับ