เทคโนโลยี

YouTube นำระบบข้อความส่วนตัวกลับมาอีกครั้ง

ทดสอบแชร์วิดีโอและคุยกันในแอปโดยตรง

YouTube กำลังทดสอบฟีเจอร์ข้อความส่วนตัวที่ผู้ใช้เรียกร้องมานาน โดยนำระบบแชร์วิดีโอและสนทนากลับมาภายในแอปมือถือ หลังจากเคยเปิดตัวในปี 2017 แล้วถอดออกในปี 2019 เนื่องจากใช้งานน้อยและปัญหาการจัดการเนื้อหา ล่าสุด บริษัทประกาศทดสอบเวอร์ชันใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้แชร์คลิปยาว ชอร์ตส์ หรือไลฟ์สตรีมได้ พร้อมพูดคุยต่อเนื่อง โดยเริ่มปล่อยให้ผู้ใช้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปในไอร์แลนด์และโปแลนด์ เพื่อเก็บข้อมูล feedback ก่อนขยายสู่ตลาดอื่น

ฟีเจอร์นี้ตอบโจทย์คำขออันดับต้น ๆ จากผู้ใช้ทั่วโลก โดย ระบุYouTube ในหน้าสนับสนุนว่าการทดสอบมุ่งเน้นการแบ่งปันวิดีโอที่ชื่นชอบและสนทนาโดยตรงในแอป เพื่อลดการสลับไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ ผู้ใช้ที่ถูกเลือกสามารถแชร์วิดีโอผ่านแอปภายนอกได้ตามปกติ แต่หากต้องการคุยใน YouTube ต้องส่งคำเชิญก่อนเริ่มแชต ซึ่งผู้รับสามารถปฏิเสธได้ทันที เพื่อป้องกันการรบกวนที่ไม่ต้องการ

YouTube ติดตั้งเครื่องมือควบคุมความปลอดภัยครบครัน โดยผู้ใช้สามารถบล็อกหรือรายงานบทสนทนาได้ง่าย ๆ เพียงกดค้างที่ข้อความ นอกจากนี้ ระบบยังรองรับการลบหรือยกเลิกส่งข้อความ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการเนื้อหาส่วนตัว ฟีเจอร์นี้ทำงานบนทั้ง iOS และ Android โดยผสานกับระบบของกูเกิล เช่น Firebase สำหรับการส่งข้อความเรียลไทม์ ทำให้การใช้งานลื่นไหลกว่าตัวเก่า

youtube-direct-message-comeback

การสนทนาทุกช่องจะอยู่ภายใต้กฎชุมชนของ YouTube เช่นเดียวกับวิดีโอและคอมเมนต์ โดยระบบ AI จะสแกนหาเนื้อหาที่อาจก่ออันตรายในโลกจริง เช่น การกลั่นแกล้งหรือข้อมูลเท็จ หากถูกตั้งธง ทีมงานจะรีวิวและดำเนินการตามนโยบาย เพื่อรักษาความปลอดภัยในระดับเดียวกับส่วนอื่นของแพลตฟอร์ม แม้จะไม่ใช่การเข้ารหัสแบบ end-to-end แต่ YouTube ย้ำว่าข้อความอาจถูกตรวจสอบเพื่อป้องกันการละเมิด

แม้ยังไม่มีกำหนดการเปิดตัวทั่วโลก แต่การทดสอบอย่างเป็นทางการในสองประเทศนี้แสดงถึงความจริงจังของ YouTube ในการดึงการสนทนากลับสู่แอป โดยเฉพาะในยุคที่ผู้ใช้มักสลับแอปหลังแชร์ลิงก์วิดีโอ ฟีเจอร์นี้อาจช่วยเพิ่ม engagement โดยเฉพาะกับกลุ่มที่ชอบเนื้อหาลึก ๆ โดยไม่เสี่ยงสปอยล์ในคอมเมนต์สาธารณะ ผู้เชี่ยวชาญมองว่านี่เป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ TikTok และ Instagram ที่มีระบบแชตในตัวอยู่แล้ว

สำหรับผู้ใช้ที่เคยใช้ฟีเจอร์เก่า ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสลองเวอร์ชันอัปเกรดที่เน้นความเป็นส่วนตัวและการควบคุมมากขึ้น โดย YouTube เชิญชวนให้ผู้ทดสอบส่ง feedback เพื่อปรับปรุง หากประสบความสำเร็จ ระบบนี้อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของแอปหลัก ช่วยผสานการดูวิดีโอเข้ากับการสื่อสารส่วนตัว สร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นบนแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่แห่งนี้

ที่มา
9to5google

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button