สรุปเทรนด์การเปิดตัวที่น่าสนใจในปี 2025

ปี 2025 ผ่านไปไวเหมือนโกหก เผลอแป๊บเดียววงการไอทีก็พาเรากระโดดข้ามขั้นไปอีกระดับ ปีนี้ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เทคโนโลยีไม่ได้อยู่แค่ในหน้าจออีกต่อไป แต่ออกมาโลดแล่นในโลกความจริงมากขึ้น เราได้เห็นทั้งการกลับมาของราชันย์เกมคอนโซล และมือถือที่บางเฉียบจนต้องร้องว้าว วันนี้เลยขอรวบรวม 5 เทคโนโลยีเปิดตัวใหม่ที่เป็นกระแสไวรัลที่สุดในปีนี้มาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ ใครตกขบวนรถไฟขบวนไหนไป มาเช็กอินกันตรงนี้ได้เลย

เริ่มกันที่ไฮไลต์ที่คอเกมทั่วโลกรอคอยจนเกือบถอดใจ Nintendo Switch 2 ที่ในที่สุดก็เปิดตัวและวางขายอย่างเป็นทางการช่วงกลางปีที่ผ่านมา การกลับมาครั้งนี้ Nintendo ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการอัปเกรดสเปกให้เล่นเกมความละเอียด 4K ได้เมื่อต่อทีวี และหน้าจอพกพาที่ลื่นไหลแบบ 120Hz ที่สำคัญคือยังใจดีให้เล่นเกมจากเครื่องรุ่นเก่าได้ ทำให้ยอดขายพุ่งทะลุเปดานตั้งแต่วันแรก กลายเป็นไอเทมที่ต้องมีติดบ้านแห่งปีไปโดยปริยาย

ตามมาติด ๆ กับฝั่งสมาร์ตโฟนที่ปีนี้ Apple สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว iPhone 17 Air โมเดลใหม่ล่าสุดที่มาแทนรุ่น Plus โดยชูจุดเด่นเรื่องดีไซน์ที่บางเฉียบที่สุดเท่าที่เคยทำมา ด้วยความหนาเพียง 5 มิลลิเมตรนิด ๆ ตัวเครื่องทำจากไทเทเนียมน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง เรียกว่าฉีกกฎการออกแบบมือถือยุคหลังที่แข่งกันกล้องนูนหนาเตอะ กลายเป็นความเรียบหรูที่พกพาสะดวก จนหลายค่ายต้องหันมาทำตามเทรนด์ Slim Design กันเป็นแถว

ในฝั่งของซอฟต์แวร์ ปี 2025 คือปีแห่ง AI Agents หรือเอไอที่คิดและทำแทนเราได้จริง ๆ ไม่ใช่แค่แชตถามตอบเหมือนปีก่อน ๆ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการอัปเกรดใหญ่ของ OpenAI และ Google ที่ทำให้ AI สามารถวางแผนจองตั๋วเครื่องบิน สั่งของออนไลน์ หรือเขียนโค้ดโปรแกรมที่ซับซ้อนได้เองตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงแค่เราสั่งงานด้วยประโยคเดียว เทรนด์นี้เปลี่ยนวิธีการทำงานของคนทั่วโลก และเริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันแบบเนียน ๆ

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ก้าวข้ามจากหนังไซไฟสู่โลกความจริงคือ Humanoid Robots หรือหุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์ ปีนี้เราได้เห็นการวางขายเชิงพาณิชย์ของหุ่นยนต์พ่อบ้านและแรงงานราคาเข้าถึงง่ายขึ้น อย่างเช่นรุ่น G1 จากค่าย Unitree หรือความคืบหน้าของ Optimus จาก Tesla ที่เริ่มเข้าไปทำงานในโรงงานจริง ๆ ภาพของหุ่นยนต์เดินสองขาที่ช่วยยกของหรือทำงานบ้านเริ่มไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอีกต่อไป และเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดียถล่มทลาย

ปิดท้ายด้วยเทรนด์ Smart Glasses ที่กลับมาฆ่าสมาร์ตโฟน ปีนี้แว่นตาอัจฉริยะจากค่ายอย่าง Meta และผู้เล่นหน้าใหม่อื่น ๆ พัฒนาไปไกลมาก ทั้งน้ำหนักที่เบาเหมือนแว่นสายตาปกติ แต่แสดงผลภาพโฮโลแกรมและมี AI คอยกระซิบข้อมูลข้างหู หรือแปลภาษาให้แบบเรียลไทม์ ทำให้หลายคนเริ่มวางมือถือลงและหันมาใส่แว่นเดินถนนกันมากขึ้น เป็นสัญญาณว่ายุคหลังสมาร์ตโฟนอาจจะกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้วจริง ๆ