เทคโนโลยี

[รีวิว] HONOR Magic5 Pro

สุดยอดสมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อป กล้องโหด เล่นเกมได้จัดเต็ม

ใครที่กำลังคิดถึงแบรนด์ HONOR และอยากจะได้รับประสบการณ์ความเป็นที่สุดอีกครั้งโดยไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไป ในตอนนี้ HONOR Magic5 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของแบรนด์ได้กลับมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเล่นใหญ่กว่าเดิมด้วยการการันตีความยอดเยี่ยมของหน้าจอแสดงผลที่ได้คะแนนเป็นอันดับ1 จาก DXOMARK พร้อมกับการพัฒนาในเรื่องของชิปเซ็ตและการถ่ายภาพที่ก้าวกระโดด จะมีอะไรที่น่าสนใจกันอีกบ้างเราไปหาคำตอบกันเลย

Design

image 7363
image 7364

HONOR Magic5 Pro ถือว่าเป็นเรือธงที่มาพร้อมกับตัวเครื่องขนาดกำลังเหมาะสมกับการใช้งาน มีน้ำหนักอยู่ที่ 219 กรัม ขณะที่หากลงไปที่ตัวเลขอัตราส่วนของตัวเครื่องมีอัตราส่วน 76.7 x 162.9 x 8.77 มิลลิเมตร มีหลายสิ่งที่คล้ายกับรุ่นก่อนที่มีการเปิดตัวออกมาในหลายแง่มุม แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปที่สำคัญคือการจัดเรียงกล้องหลังแบบใหม่

image 7365
image 7366

ในรุ่นก่อนจำนวของกล้องหลังมีมาให้ทั้งหมด 4 ตัว อย่างไรก็ตามการจัดเรียงที่เราเห็นได้จากรุ่นใหม่ที่ทางค่ายเรียกว่า Eye of Muse มาพร้อมกับจำนวนกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน เป็นการจัดเรียงใหม่ที่ลงตัวกว่าเดิมไม่ว่าจะมองจากมุมไหน สะท้อนให้เห็นแรงบันดาลใจที่ได้จากสถาปนิกชื่อดัง Antoni Gaudi

image 7367

ถือว่าเป็นการออกแบบกล้องหลังใหม่ซึ่งทำให้ผู้ที่ได้มองเข้ามาที่ตัวเครื่องโดยเฉพาะด้านหลัง เห็นความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก แต่ในการใช้งานจริงเราอาจจะพบกับปัญหากวนใจบางอย่าง …

image 7368
image 7369

สิ่งที่เราพบได้ทันทีหลังจากที่ลองถือตัวเครื่องเพื่อใช้งาน พบว่านิ้วมักจะไปโดนส่วนที่เป็นกล้องด้านล่างอยู่บ่อยครั้ง ปัญหานี้ค่อนข้างที่จะสร้างความเป็นกังวลได้หากเราไปจับหรือนิ้วมีคราบน้ำและไปแตะที่กล้อง แม้จะสามารถเช็ดออกได้แต่ก็คงทำให้เสียอารมณ์ได้บ่อยครั้ง อีกทั้งแม้จะใส่เคสที่ให้มากับตัวเครื่อง ก็ไม่ได้ช่วยให้นิ้วของเราไม่ไปโดนได้ จนกว่าจะใช้งานจนชินแล้วถึงจะสามารถปรับพฤติกรรมการจับได้นั่นเอง

image 7370
image 7371

แต่นั่นเป็นเพียงมุมมองหนึ่งเท่านั้น บางทีหากใครที่ได้ไปลองถือตัวเครื่องใช้งานจริงและไม่มีปัญหากับพื้นที่กล้องหลังขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ไปเกือบครึ่งหนึ่งก็น่าจะประทับใจการใช้งานของตัวเครื่องได้แน่ ทางที่ดีไปลองถือใช้งานดูก่อนและพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าเหมาะกับเราหรือไม่

image 7372
image 7373

ตัวเครื่องที่เราได้มาทดสอบในครั้งนี้มาในสีดำ (Black) แต่ที่ขายจริงมีอีกสีหนึ่งอย่างสีเขียว (Meadow Green) รองรับมาตรฐาน IP68 ทนต่อรอยขีดข่วนภายนอกได้ในการใช้งานจริง พื้นผิวด้านหลังของตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับความพรีเมียมที่จะสะท้อนทุกสิ่งเห็น ส่งผลให้ทิ้งรอยนิ้วมือเวลาถือใช้งานแบบไม่มีเคสอย่างเลี่ยงไม่ได้

Display

image 7374

HONOR Magic5 Pro มาพร้อมกับจุดเด่นที่เหนือกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นอย่างหน้าจอแสดงผลที่ใช้งานเป็นแบบ LTPO OLED ขนาดใหญ่ 6.81 นิ้ว ความละเอียดที่เราคาดหวังได้จาก 2848 × 1312 พิกเซล สามารถที่จะแสดงอัตราการแสดงผลได้สูงสุด 120Hz มั่นใจได้เลยว่าเราจะไม่พบปัญหาการแสดงผลจากสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ได้เลย

image 7376
image 7377

สิ่งที่อาจจะทำให้เรากวนใจหรือตัดสินใจว่าจอของรุ่นนี้ไม่เหมาะสมกับเราคงหนีไม่พ้นการที่ตัวจอใช้งานเป็นแบบ Quad-Curved Floating Screen หรือก็คือจอที่ขอบทุกด้านเป็นแบบโค้งทั้งหมด หากใครที่กังวลว่าใช้งานไปสักพักแล้วอาจจะพลาดไปกระแทกอะไรก็อาจจะต้องมองในจุดนี้เพิ่มเติม แต่ตัวเครื่องถือว่าเก็บมุมมาแล้วประมาณหนึ่ง

image 7378

หนึ่งในการพัฒนาแบบก้าวกระโดดที่เราเห็นได้จากรุ่นนี้เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนคงหนีไม่พ้นความสว่างของหน้าจอที่เพิ่มขึ้นมาถึง 1800 nits จากเดิม 1000 nits พร้อมการแสดงผลแบบ HDR ด้วยตัวเลขดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของเรือธง และนั่นเป็นตัวเลขที่เราอาจไม่ได้ใช้จริงในทุกวัน แต่ในวันที่ต้องอยู่กลางแจ้งและมีเรื่องต้องให้หยิบเครื่องมาใช้งานก็วางใจได้เลยว่าหายห่วง

image 7379

อีกสิ่งที่ทำให้หน้าจอมีความโดดเด่นคือการเพิ่มสิ่งที่เรียกว่า PWM Dimming ที่มีค่า 2160Hz เข้ามาให้ใช้งาน ฟีเจอร์ดังกล่าวจะช่วยลดแสงของหน้าจอลงมาให้กับเราโดยที่จะแสดงผลของแสงออกมาให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ทำให้ลดอาการตาล้าเวลาที่ใช้งานเป็นเวลานานได้มาถึง 18 เปอร์เซ็นต์ กล่าวคือตัวเครื่องจะแสดงผลที่เหมาะสมที่สุดให้กับเราโดยที่ไม่ต้องไปยุ่งกับการตั้งค่าด้วยตัวเองได้แบบลงตัว

image 7380

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Circadian Night Display ที่ทาง HONOR ระบุว่าช่วยแก้ปัญหาแสงสีฟ้ามารบกวนการนอนหลับของเราได้ เมื่อใช้งานสมาร์ทโฟนก่อนนอน ด้วยการปรับความสว่าง อุณหภูมิของภาพ ที่ใช้งานอยู่ให้เหมาะกับการใช้งานมากยิ่งขึ้น นี่อาจเป็นสิ่งที่เราต้องทดสอบในระยะยาวว่าช่วยได้จริงหรือไม่ แต่ก็ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจของตัวเครื่อง

image 7381

แต่สิ่งที่เราสัมผัสได้จริงคือการที่เราสามารถใช้งานหน้าจอของตัวเครื่องได้โดยที่ไม่รู้สึกว่ามีอาการว่าปวดหรือรู้สึกว่ามันสว่างมากหรือน้อยจนเกินไป ที่สำคัญตัวจอยังได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งของ DXOMARK อีกด้วย ขณะที่กล้องหน้ามีการวางตำแหน่งอยู่ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอเวลาที่ใช้งานจริงก็ไม่พบว่ารบกวนมุมมองการใช้งานแต่อย่างใด

Performance

สเปคภายในของ HONOR Magic5 Pro มาพร้อมกับการใช้งานชิปเซ็ตที่แรงที่สุดของฝั่ง Android ในตอนนี้อย่าง Snapdragon 8 Gen 2 จับคู่กับแรม 12GB พร้อมความสามารถอย่าง HONOR RAM Turbo ที่จะดึงแรมของที่เก็บข้อมูลมาใช้งานเพิ่มเติมให้เราอีก 7GB ส่วนที่เก็บข้อมูลของตัวเครื่องมีความจุ 512GB รองรับการสร้างสรรค์และความบันเทิงได้จุใจ

image 7382

เรื่องของชิปกราฟิกได้เป็นของ Adreno 740 กล่าวโดยภาพรวมด้วยสเปคที่มีมาให้ในสมาร์ทโฟนเรือธงในตอนนี้มันสามารถที่จะใช้งานทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหา ในขณะที่การเล่นเกมไม่ใช่เรื่องที่เราต้องมากังวลกันว่าจะเล่นเกมนี้ได้ไหม จะเล่นเกมนู้นได้หรือเปล่า ไม่เลย ตัวเครื่องสามารถที่จะใช้งานได้ครบทุกด้าน

image 7384

ในทุกเกมไม่ว่าจะเป็น Genshin Impact, Honkai: Star Rail หรือ PUBG สามารถที่จะปรับภาพสูงสุดเท่าที่เกมจะมีให้เลือกได้และสามารถเล่นโดยที่ไม่มีอาการสะดุดได้ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาร่วมกันของสมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตที่มีความแรงขนาดนี้คือเรื่องของความร้อนสะสมของตัวเครื่องที่เราไม่สามารถถือเล่นได้ต่อเนื่อง

image 7385

การทรมานเครื่องแบบเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดคือการเปิด Genshin Impact ขึ้นมาและตั้งค่ากราฟิกสูงสุดพร้อมเปิดเฟรมเรท 60FPS (ยังจำกัดอยู่ที่ค่านี้) พบว่าเพียงแค่ 5 นาทีก็พบว่าความร้อนสะสมจนรู้สึกได้ อย่างไรก็ตามหากเราปรับกราฟิกลงมาอยู่ที่ระดับกลางตามคำแนะนำแรกในการเข้าเกม พบว่าความร้อนเป็นเพียงแค่ความอุ่นที่สัมผัสได้เท่านั้น แต่ไม่หนักเท่ากับตอนเปิดสุดจนเชื่อว่าไม่น่าจะถือเล่นกันได้

image 7386

เมื่อพูดถึงความร้อนที่พุ่งสูงหลายคนอาจกังวลว่ามันจะสะสมอยู่นานแค่ไหน ก็ต้องบอกว่าราว ๆ 1-2 นาทีหลังจากออกเกมหรือปรับกราฟิกให้ลดลงความร้อนที่ร้อนจัด จะลดลงมาจนสามารถถือใช้งานได้ตามปกติแล้ว

image 7387
image 7388
image 7389

ผลการทดสอบจากเครืองมือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น AnTuTu หรือ Geekbench ด้วยควาที่เราไม่ได้ทดสอบในส่วนของสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 มาก่อน ฉะนั้นเราเลยนำไปเทียบกับชิปเซ็ตรุ่นก่อนอย่าง Snapdragon 8+ Gen 1 และ Apple A16 แทน ถือว่ามีส่วนที่แตกต่างกันไปเล็กน้อยเท่านั้น

Software

ตัวเครื่องมาพร้อมกับการใช้งานระบบ MagicOS 7.1 ที่เบื้องหลังคือ Android 13 ถามว่าหน้าตาการใช้งานยากที่จะทำความเข้าใจสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่เคยลองระบบนี้มาก่อนหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าไม่ เนื่องจากการออกแบบหลายอย่างมีหลายส่วนที่เหมือนกับสิ่งที่เราใช้งานกันในสมาร์ทโฟน Android เช่นโฟลเดอร์ที่สามารถย่อหรือขยายใหญ่ได้เพื่อเลือกเปิดแอปได้โดยตรง

image 7390

ขณะที่แอปพลิเคชันซึ่งติดตั้งมาให้ก่อนแล้วมีค่อนข้างที่จะเยอะ แต่ทาง HONOR ถือว่าเปิดกว้างในการลบแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้ง่ายและไม่ต้องหาท่ายากในการนำออกไปให้วุ่นวาย แต่อาจจะเสียเวลาเล็กน้อยในการมองหาว่าแอปใดบ้างที่ไม่ต้องการใช้จริง

image 7391

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สำหรับการควบคุมอุปกรณ์อื่นอย่าง MagicRing ที่ช่วยในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น หรือจะเป็น MagicText สำหรับการเลือกส่วนที่เป็นตัวอักษรในการดึงข้อมูลจากภาพ และยังมี Sound Energy Spatial Control Technology ที่จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวเวลาที่เราโทรสนทนากับคนอื่น

image 7392

ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวกับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอถือว่าเป็นจุดที่เราต้องมาพูดถึงกัน เนื่องจากมีทั้งช่วงที่ทำงานได้ดีแบบครั้งเดียวติดและช่วงที่ต้องกดกันหลายครั้งถึงจะสามารถเข้าถึงตัวเครื่องได้ แต่ปัญหาดังกล่าวสมารถแก้ไขได้จากความปลอดภัยอีกด้านอย่างการสแกนด้วยใบหน้าของเราแทนที่ทำงานได้ดีและรวดเร็ว

image 7393

เผื่อใครยังเข้าใจผิดว่า HONOR ยังเป็นส่วนหนึ่งของ HUAWEI ที่น่าจะทำให้เราไม่สามารถใช้งานบริการของ Google ได้ ก็ต้องบอกว่าตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เราสามารถเข้าถึงบริการของ Google ได้ทั้งหมดแบบไม่มีข้อจำกัดใด ๆ อีกต่อไป

Camera

HONOR Magic5 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพอย่างแท้จริง ด้วยการจัดเรียงของกล้องหลังที่มาพร้อมกับเลนส์จำนวน 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยสเปค 50MP f/1.6 แบบ wide 50MP f/2.0 แบบ ultrawide และ 50MP f/3.0 แบบ Periscope Telephoto รองรับการซูมแบบ optical 3.5 เท่า

image 7394

เลนส์หลักของตัวเครื่องมีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นพอสมควรทำให้ในแง่ของตัวเลขและสิ่งที่ควรจะเป็น จะได้เปรียบในเรื่องของการรับแสงที่ทำได้ดีกว่า เช่นเดียวกันกับการมาพร้อมกับการใช้เทคโนโลยีการถ่ายหลายช็อตเข้ามาจัดเรียงเพื่อเพิ่มรายละเอียดของภาพเมื่อเราขยายภาพมาดูจะพบว่ามีรายละเอียดที่เห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

image 7395

ในแง่ของการใช้งานจริงการหยิบเครื่องขึ้นมาถ่ายโดยไม่ต้องเปิดโหมดใด ๆ เลยก็เพียงพอสำหรับการใช้งานเกือบจะทั้งหมดในชีวิตประจำวันของคนทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดหรือปิด AI เพื่อช่วยในการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดก็เพียงพอทั้งสองแบบ โทนสีที่เราได้และความคมชัดของภาพมันถูกประมวลผลออกมาอย่างลงตัว และสำหรับผู้ที่อยากถ่ายภาพคนตัวระบบก็มีการประมวลผลในเรื่องของการเบลอฉากหลังเล็กน้อยโดยที่ไม่ต้องเปิดโหมดช่วย

การถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือจะบอกว่าการถ่ายภาพในตอนกลางคืนตัวเครื่องถือว่าเก็บรายละเอียดออกมาได้ครบถ้วน สามารถที่จะหยิบขึ้นมาและถ่ายพร้อมใช้งานในทันที อย่างไรก็ตามในบางครั้งการประมวลผลก็มีการเติมเต็มส่วนที่มองเห็นได้ยากให้เห็นได้ชัดราวกับว่าถ่ายในตอนที่มีแสงเพียงพอ ซึ่งบางทีเราอาจไม่ได้ต้องการโทนภาพในลักษณะนี้ก็เป็นได้

image 7396
image 7397
image 7398
image 7399

ในเรื่องของการซูมถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับที่น่าพึงพอใจการซูมในระยะที่กำหนดด้วยตัวเลข 10 เท่าถือว่าเห็นรายละเอียดที่คมชัด แต่หากมีการใช้การซูมที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ 10 เท่าเป็นต้นไป รายละเอียดของภาพจะเริ่มแตกออกชัดเจน และในระดับสูงสุด 100 เท่า หากนำไปส่องตัวอักษรก็อาจจะพอคาดเดาได้ถ้าเป็นคำที่คุ้นเคย แต่หากไม่ใช่ก็อาจจะต้องลองคาดเดากันอีกต่อ

image 7400
image 7401

นอกจากนี้ยังมีโหมด Motion Sensing Capture ที่จะช่วยให้เราสามารถเก็บภาพที่มีการเคลื่อนไหวได้ในทันที โดยที่จะมี AI เป็นตัวช่วยเลือกให้เราไม่ต้องพบกับปัญหาภาพเบลออีกต่อไปแม้จะมีการเคลื่อนไหวของวัตถุ ส่วนการถ่ายวิดีโอสามารถทำได้สูงสุด 4K ที่ 60fps ทั้งแบบ 16:9 และ 21:9

image 7403

กล้องหน้าความละเอียด 12MP ให้คำจำกัดความได้ว่าทำออกมาได้เหมาะสมกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธง แต่ไม่ได้ดีจนต้องนำมาเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาเพื่อเลือกซื้อสมาร์ทโฟนในกลุ่มนี้

Battery

image 7404

ตัวเครื่องมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5100mAh สามารถที่จะใช้งานได้ตลอดทั้งวันหรือจะข้ามไปในวันรุ่งขึ้นได้ในการใช้งานปกติหรือค่อนไปทางหนัก แต่ถ้าเป็นสายเล่นเกมและมีการหยิบขึ้นมาเล่นต่อเนื่องคงหนีไม่พ้นการชาร์จแบบวันต่อวัน ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะตัวเครื่องมาพร้อมกับการชาร์จไว 66W และ 50W แบบไร้สาย ใช้เวลาไม่ถึงชม.ก็สามารถเต็มได้

Conclusion

image 7405

สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่มาพร้อมกับการออกแบบที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร รวมไปถึงต้องการหน้าจอการแสดงผลที่มั่นใจได้ว่าจะไม่สร้างปัญหาให้กับผู้ใช้งานในทุกมุมมอง พร้อมสเปคแรงรองรับการใช้งานทุกด้าน HONOR Magic5 Pro เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ควรพิจารณาเมื่อนึกถึงความเป็นที่สุด ด้วยราคา 29,990 บาท ถือว่าเหมาะสมกับสิ่งที่เราจะได้รับ

ข้อดี

– การออกแบบที่ใส่ความเฉพาะตัวที่แสดงออกให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น

– ใช้งานชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 สุดแรงของปีนี้

– หน้าจอแสดงผลที่เหนือกว่ารุ่นอื่นในหลายปัจจัย

– กล้องหลังที่จัดเรียงแบบใหม่พร้อมตัวช่วยในการถ่ายภาพชั้นดี

– แบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้ต่อเนื่อง

– เทคโนโลยีชาร์จไวเสริมแกร่งการใช้งานแบบไม่มีสะดุด

– รองรับการใช้งานบริการทั้งหมดของ Google แล้วในตอนนี้

ข้อสังเกต

– พื้นผิวด้านหลังของเครื่องที่เก็บรอยนิ้วมือได้ง่าย

– การออกแบบพาเนลกล้องหลังที่ใหญ่จนในบางครั้งนิ้วมือไปโดนเวลาถือใช้งาน

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง HONOR แห่งประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง HONOR Magic5 Pro มาให้เราได้ทำการทดสอบใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป

 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ [คลิก]

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button