Tesla เปิดตัว Robotaxi ด้าน Uber และ Lyft ปรับใช้ FSD สร้างความกังวลด้านความปลอดภัย
มีการใช้งานระหว่างให้บริการกว่า 40 เปอร์เซ็นต์
Tesla กำลังจะเปิดตัวบริการแท็กซี่ไร้คนขับ Robotaxi ในวันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งคาดว่าจะมาพร้อมกับแพลตฟอร์ม ride-share ของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ Tesla จะเปิดตัวบริการอย่างเป็นทางการ ผู้ขับขี่ Uber และ Lyft หลายรายได้นำรถ Tesla ของตนมาใช้เป็น Robotaxi ชั่วคราวแล้ว โดยปล่อยให้ระบบ Autopilot ขับเคลื่อนรถไปยังจุดหมายปลายทาง
การกระทำดังกล่าวส่งผลให้เกิดทั้งประโยชน์และความเสี่ยง ประโยชน์คือช่วยให้ผู้ขับขี่ลดความเมื่อยล้าและสามารถทำงานได้นานขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากระบบ Autopilot ยังไม่สมบูรณ์แบบ และการนำไปใช้งานในลักษณะนี้ขัดต่อข้อกำหนดของ Tesla และบริษัท ride-share
เหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการนำเทคโนโลยีที่ยังอยู่ในขั้นพัฒนาไปใช้งานในชีวิตจริงนั้นมีความเสี่ยงสูง และอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ
ทั้ง Uber และ Lyft ต่างปฏิเสธความรับผิดชอบ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยอ้างว่าความปลอดภัยเป็นหน้าที่ของผู้ขับขี่ แต่ในขณะเดียวกันก็พยายามอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ที่ต้องการใช้ระบบ Autopilot เช่น การอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้น
ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างทางกฎหมายและข้อบังคับ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไร้คนขับ เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และกฎหมายหลายฉบับยังไม่ทันต่อการพัฒนา
การเปิดตัว Robotaxi ของ Tesla ในวันที่ 10 ตุลาคม จะเป็นอีกก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการท้าทายต่อระบบกฎหมายและสังคมในการปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่นี้
เราต้องติดตามกันต่อไปว่า หน่วยงานกำกับดูแลจะออกมาตรการใดเพื่อควบคุมและกำกับดูแลการใช้งานรถยนต์ไร้คนขับ และอุตสาหกรรมยานยนต์จะพัฒนาเทคโนโลยีนี้ไปในทิศทางใด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการใช้งานรถยนต์ไร้คนขับมีความปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อสังคมในระยะยาว