[รีวิว] HyperX Cloud Alpha S จัดเต็มด้วยฟีเจอร์ใหม่มากมาย

แบรนด์เกมมิ่งเกียร์ในปัจจุบันหากจะถามว่ามีแบรนด์ใดที่ได้รับความนิยมในตอนนี้คงต้องบอกว่า HyperX ต้องเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ถูกกล่าวถึงอย่างแน่นอน และในครั้งนี้พวกเขาได้ทำการเปิดตัวหูฟังสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะอย่าง HyperX Cloud Alpha S หูฟังจากตระกูล Cloud Alpha รุ่นสานต่อ ที่มาพร้อมกับการชูจุดเด่นในเรื่องของระบบจำลองเสียงแบบ 7.1 จะมีอะไรที่น่าสนใจจากรุ่นก่อนบ้างเรามาดูกันเลย

Specification

ไดร์เวอร์	50 มม. แบบไดนามิคพร้อมแม่เหล็กนีโอดีเนียม
ประเภท	แบบครอบเต็ม ปิดด้านหลัง
ความถี่	13Hz – 27kHz
ความต้านทาน	65 Ω
ระดับแรงดันเสียง	99dBSPL/mW ที่ 1kHz
T.H.D.	≤ 1%
น้ำหนัก	310 ก.
ความยาวสาย	1 ม.
ส่วนประกอบ	ไมโครโฟนอีเล็คเตรทคอนเดนเซอร์
รูปแบบขั้ว	สองทิศทาง พร้อมระบบตัดสัญญาณรบกวน
ความถี่	50Hz – 18kHz
ความไว	-38dBV (0dB=1V/Pa ที่ 1kHz)

Design

หนึ่งในสิ่งที่เราคุ้นตากับกล่องของหูฟังจากทาง HyperX ในตระกูล Cloud เป็นอะไรที่ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นอื่นมากนัก ด้านหน้าของกล่องจะมาพร้อมกับภาพหูฟังที่อยู่ภายใน พร้อมกับจุดเด่นที่อยู่บริเวณด้านล่าง

ที่ด้านหลังของกล่องหากใครที่ได้ผ่านการใช้งานหูฟังจากทาง HyperX มาแล้วน่าจะคุ้นชินกับภาพคำอธิบายฟีเจอร์ที่หูฟังมีมาให้และภายใน HyperX Cloud Alpha S ก็ถือว่ายังคงสิ่งนี้เอาไว้เช่นเดียวกัน

สำหรับหูฟังรุ่นนี้จะมีการบรรจหูฟังเอาไว้ภายในกล่องด้านในอีกชั้น

อุปกรณ์ที่มีมาให้ภายในกล่องจะประกอบไปด้วยตัวหูฟัง HyperX Cloud Alpha S ไมโครโฟนที่สามารถถอดได้ Earpad สำหรับเปลี่ยนจำนวน 2 อัน สายพร้อมตัวควบคุมการทำงานหูฟัง ถุงสำหรับการพกพาหูฟังไปใช้งานและคู่มือต่าง ๆ

ในส่วนของหูฟังด้านซ้ายและด้านขวาจะมาพร้อมกับรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ ที่มีการสลักโลโก้ HyperX เอาไว้ ขณะที่โครงด้านบนจะใช้งานเป็นตัวของอะลูมิเนียมที่ลงสีน้ำเงินเอาไว้

ด้านบนของตัวหูฟังจะใช้งานวัสดุเป็นแบบหนังที่มีการเล่นลวดลายพร้อมกับโลโก้ HyperX บริเวณรอยต่อมีการเก็บงานมาเป็นอย่างดีทำให้ดูดีไม่น้อย

ด้านในของตัวหูฟังบริเวณขอบทั้ง 2 ด้านจะมีการลงรายละเอียดว่าเราใช้งานถูกด้านหรือไม่

ในส่วนของ Headband ที่มีมาให้ถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร เพราะไม่ได้ทำออกมาให้ยุบลงไปแบบติดกับขอบด้านบนของหูฟัง ทำให้ใช้งานได้เป็นระยะเวลานาน

มาดูในตัวของ Earpad เรียกได้ว่าทาง HyperX ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่าสามารถที่จะใช้งานและระบายอากาศได้ดีกว่ารุ่นแรกถึง 8 เท่าและจากการใช้งานต้องบอกว่ามันทำออกมาได้แบบนั้นจริง ๆ เนื่องจากมีความนุ่มและใส่ได้สบายอย่างมาก

ด้านหลังของตัวหูฟังจะมีแถบสำหรับเลื่อนได้ 3 ระดับใครที่เห็นครั้งแรกน่าจะต้องงงกันไปตาม ๆ กันว่าคืออะไร ก็ต้องบอกว่ามันเป็นพื้นที่สำหรับการปรับระดับความหนาของเสียงเบสโดยหากเลื่อนไปบนสุดจะได้เสียงที่แน่นที่สุด หากเลื่อนลงมาต่ำสุดจะทำให้เสียงเบสเบาบางลงไป

พื้นที่ด้านซ้ายของ Earpad ด้านหน้าจะมีช่องสำหรับเชื่อมต่อไมโครโฟนที่สามารถถอดออกได้

สำหรับไมโครโฟนที่ให้มาเป็นแบบมีระบบตัดเสียงรบกวนภายนอกในตัวทำให้สามารถใช้งานได้ดีกว่าแบบอื่น ๆ

มาดูกันที่จุดหลักที่ขาดไม่ได้คือตัวของแผงควบคุมหูฟังที่ด้านหน้าจะมาพร้อมกับปุ่มสำหรับเพิ่ม / ลดเสียง ปุ่มสำหรับเพิ่เสียงภายในเกม ปุ่มสำหรับการเพิ่มระดับเสียงในการพูดคุย และท้ายที่สุดตรงกลางเป็นปุ่มสำหรับเปิดใช้งานระบบจำลองเสียง 7.1 ที่บริเวณด้านซ้ายจะมีปุ่มสำหรับเปิด / ปิดไมโครโฟน ด้านหลังเป็นพื้นที่สำหรับการติดกับเสื้อหรือบริเวณที่หนีบต่าง ๆ ด้านบนเป็นพอร์ตสำหรับเสียบเข้ากับสายที่ติดอยู่ที่หูฟัง

การปรับระดับตัวหูฟังถือว่าทำได้อยู่ในระดับมาตรฐานไม่มากและน้อยจนเกินไป

Experience

หลังจากที่ได้ลองใช้งาน HyperX Cloud Alpha S ต้องบอกว่าเป็นหูฟังอีกหนึ่งรุ่นที่ทาง HyperX ทำออกมาได้น่าสนใจไม่น้อย เพราะหากเราจะมองหาหูฟังที่มาพร้อมกับระบบจำลองเสียง 7.1 จากทางตัวแบรนด์เองอาจจะต้องจ่ายในราคาที่สูงเพื่อที่จะได้มา แต่ด้วยการที่พวกเขาได้นำระบบตัวนี้มาใส่ให้กับหูฟังตระกูลยอดฮิตอย่าง Cloud ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเสียงที่เราได้จากหูฟังตัวนี้ในส่วนของการเล่นเกมถือว่าทำออกมาได้เป็นอย่างดี และเมื่อทำการเปิดใช้งานระบบจำลองเสียง 7.1 ยิ่งทำให้ได้รายละเอียดและความชัดของเสียงที่เกิดขึ้นภายในเกมได้อย่างแม่นยำอย่างมาก

สำหรับปุ่ม 7.1 ที่มีให้กดใช้งานที่แผงควบคุมถือว่าช่วยให้ชีวิตเราสะดวกอย่างมาก ทำให้เราสามารถที่จะเปิดใช้งานระบบเสียงตัวนี้ได้อย่างสะดวกไม่ต้องสลับหน้าจอไปมาเพื่อใช้งาน การใช้งานในด้านอื่น ๆ เช่นดูหนัง ฟังเพลงถือว่าอยู่ในระดับที่ดีน่าประทับใจ ไมโครโฟนที่ให้มาก็ถือว่าทำออกมาได้น่าพึงพอใจเช่นเดียวกัน สำหรับการใช้งานปุ่มเพิ่มเสียงภายในเกมกับปุ่มสำหรับเพิ่มเสียงการสนทนาหากใช้งานครั้งแรกอาจจะงงเล็กน้อย แต่ให้จำไว้ว่าหากต้องการให้เสียงที่ได้มาครบ 100 เปอร์เซ็นต์ให้ทำการกดปุ่มจอยเกมสุด ๆ ไปได้เลย  แต่ถ้าเกิดว่ามีการใช้งานที่ต้องพูดคุยกับเพื่อนภายในเกมและรู้สึกว่าเสียงพวกเขาเบา เราสามารถที่จะกดปุ่มรูปข้อความเพื่อที่จะทำให้เราได้รับเสียงพูดให้ดียิ่งขึ้น

หากใครที่มีหูฟัง HyperX Cloud Alpha รุ่นแรกอยู่ก่อนแล้วและรอการมาของรุ่นใหม่อย่าง Cloud Alpha S ก็ต้องบอกว่าคุ้มค่าแก่การเปลี่ยนมาใช้งานไม่น้อย เพราะมีการยกเครื่องสิ่งต่าง ๆ ไปพอสมควร เริ่มจากระบบจำลองเสียง 7.1 ที่มีการนำมาใส่ให้กับรุ่นใหม่นี้ รวมไปถึงแผงควบคุมแบบใหม่ที่ทำออกมาให้ใช้งานได้ง่าย และทันยุคสมัยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม / ลดเสียงภายในเกมเสียงคุย รวมไปถึงการเปิดใช้งานระบบจำลองเสียง 7.1 ทำให้เหมาะแก่การอัปเกรดมาขึ้นมาใช้งาน แน่นอนว่าการที่มีระบบจำลองเสียง 7.1 ทำให้ได้รายละเอียดของเสียงภายในเกมที่มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

Conclusion

ต้องบอกว่าใครที่กำลังมองหาหูฟังที่มาพร้อมกับระบบจำลองเสียง 7.1 ไม่ควรพลาดจริง ๆ สำหรับ HyperX Cloud Alpha S รุ่นสานต่อจากตัวเก่าทำออกมาได้เป็นอย่างดีสมกับการรอคอยของใครหลาย ๆ คน มีการเพิ่มฟีเจอร์และสิ่งต่าง ๆ มากมายทำให้กลายมาเป็นรุ่นที่น่าสนใจ วัสดุที่นำมาใช้งานผ่านการปรับปรุงมาเป็นอย่างดีให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นอย่างมาก ใครที่เป็นเกมเมอร์สาย FPS ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ด้วยระบบเสียงที่มีให้ทำให้แยกเสียงต่าง ๆ ภายในเกมออกมาได้ชัดเจน อีกทั้งยังมีระบบในการเพิ่ม / ลดเสียงภายในเกมและเสียงพูดคุยทำให้เหมาะอย่างมากกับการนำไปใช้เป็นหูฟังในระดับการแข่งขัน ด้วยราคา 3,990 บาท ถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจไม่น้อย

ข้อดี

– การออกแบบที่น่าสนใจตามรูปแบบของตระกูล Cloud

– ใส่สบายใช้งานได้ติดต่อกันยาวนาน

– ปุ่มเพิ่ม / ลดเสียงเกมและเสียงพูดคุยที่สะดวกในการใช้งาน

– ป้องกันรอยนิ้วมือในทุก ๆ พื้นผิว

– ระบบเสียงจำลองแบบ 7.1 ที่ทำออกมาได้ดีเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน

– Earpad ที่มีความนุ่มและใช้งานได้นาน

– ไมโครโฟนที่ให้เสียงเป็นอย่างดีและสามารถถอดออกได้

ข้อสังเกต

– ปุ่มสำหรับเพิ่ม / ลดเสียงเบสที่อาจจะไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างมากนัก

– ระบบจำลองเสียง 7.1 ที่ให้มาอาจจะไม่เหมาะกับการฟังเพลงมากนัก

ท้ายที่สุดนี้ต้องขอขอบคุณทาง HyperX ประเทศไทย สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบในครั้งนี้ถือว่าเป็นหูฟังที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับ HyperX Cloud Alpha S โดยใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามร้านค้าไอทีชั้นนำหรือจะเป็นการสั่งผ่านช่องทางออนไลน์ก็มีจำหน่ายแล้วเช่นกัน