10 สิ่งที่ผู้เล่นอยากเห็นใน Elden Ring NIGHTREIGN
ระบบ Co-op ที่ดีขึ้น, บอสแจ่ม ๆ, ไม่ยึดของเก่ามากเกินไป และอีกเพียบ

หนึ่งในเซอร์ไพรส์ใหญ่จากงาน The Game Awards เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2024 คือการเปิดตัวตัวอย่างของ Elden Ring NIGHTREIGN ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับเหล่าเกมเมอร์เป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ Hidetaka Miyazaki ประธานของ FromSoftware เคยกล่าวไว้ว่าจะไม่มี DLC หรือภาคต่อของ Elden Ring อีกแล้วในระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่การเปิดตัว NIGHTREIGN ก็แสดงให้เห็นว่าเขามีการวางแผนอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ เพราะ NIGHTREIGN นั้นไม่ได้เป็นทั้ง DLC หรือภาคต่อ แต่เป็นเกมใหม่ที่เน้นการเล่นแบบ Co-op เป็นหลัก
ภายในเกมนี้ผู้เล่นจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อสร้างตัวละครให้แข็งแกร่งภายใน 3 วันในเกม เพื่อเอาชนะบอสที่ทรงพลัง ซึ่งรูปแบบการเล่นแบบนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับซีรีส์ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังคงมีความหวังว่า NIGHTREIGN จะเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จ และหากมีการเพิ่มฟีเจอร์สำคัญ ๆ เข้าไปอีกสักเล็กน้อย เกมนี้อาจจะกลายเป็นเกมโปรดของใครหลาย ๆ คนก็ได้ และในวันนี้เราก็ได้รวบรวมสิ่งที่ผู้เล่นอยากเห็นใน NIGHTREIGN มาให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ
10 สิ่งที่ผู้เล่นอยากเห็นใน Elden Ring NIGHTREIGN
1. ระบบ Co-op ที่ดีกว่าเดิม

ระบบ Co-op ในเกมของ FromSoftware เดิมทีนั้นค่อนข้างซับซ้อนและน่าเบื่อ โดยผู้เล่นจะต้องทำการเรียกหรือถูกเรียกเข้าไปในโลกของผู้เล่นอื่น เพื่อร่วมกันผ่านด่านและเอาชนะบอส ซึ่งหากต้องการเล่น Co-op ตลอดทั้งเกม ผู้เล่นจะต้องทำการเรียกผู้เล่นอื่นเข้ามาอยู่ตลอดเวลา แต่ใน NIGHTREIGN ซึ่งเป็นเกมที่เน้นการเล่น Co-op เป็นหลัก ทำให้มีความจำเป็นอย่างมากที่ระบบนี้จะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น
ทาง CBR ได้วิเคราะห์ว่า “ดูเหมือนว่าใน NIGHTREIGN ผู้เล่นจะเริ่มต้นการเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมตั้งแต่เริ่มเกม แต่รายละเอียดปลีกย่อยยังคงเป็นที่สงสัย ผู้เล่นหลายคนต้องการที่จะสามารถสร้างห้องเพื่อเชิญเพื่อนเข้ามาเล่นร่วมกันได้ แทนที่จะต้องจับคู่กับผู้เล่นคนอื่นแบบสุ่ม แม้ว่าระบบจับคู่แบบสุ่มจะเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่การมีอิสระในการเล่นกับเพื่อนก็เป็นสิ่งสำคัญที่เกม NIGHTREIGN ควรจะมี”
2. บอสสุดโหดใหม่ ๆ ที่รอให้คุณมาพิชิต

FromSoftware เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการสร้างบอสสุดโหดที่ทั้งท้าทายและน่าจดจำ ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนเกมคาดหวังเสมอ ไม่ว่าเกมนั้นจะเป็นเกมแนวไหน ผู้เล่นมักจะคาดหวังการต่อสู้ที่ท้าทายและดีไซน์ของบอสที่แปลกใหม่ NIGHTREIGN ก็ต้องสืบทอดประเพณีนี้ต่อไป เพราะนี่คือสิ่งสำคัญที่สุดที่แฟนเกมต้องการ
ตัวอย่างเปิดตัวเกมได้เผยให้เห็นบอสใหม่ ๆ หลายตัวที่ผู้เล่นจะต้องเผชิญหน้า หนึ่งในนั้นคือบอสที่เป็นสุนัขเพลิงสามตัว ซึ่งทำให้แฟนเกมตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะดีไซน์ของบอสตัวนี้ดูน่าสนใจและเข้ากับรูปแบบการเล่นแบบ Co-op ของ NIGHTREIGN เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นเกม Co-op ผู้เล่นจึงมีโอกาสได้สู้กับบอสที่ออกแบบมาสำหรับ 3 คนโดยเฉพาะ นอกจากบอสใหม่ ๆ แล้ว ตัวอย่างยังเผยให้เห็นบอสหน้าเดิมบางตัวที่อาจจะสร้างความปวดหัวให้กับผู้เล่นด้วย
3. ความทรงจำที่ดี ไม่ได้แปลว่าเกมจะดีเสมอไป

แม้ว่าตัวอย่างแรกของ NIGHTREIGN จะสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ด้วยการเผยให้เห็นบอสจากเกม FromSoftware ภาคก่อน ๆ เช่น The Nameless King จาก Dark Souls 3, Centipede Demon จาก Dark Souls และ Duke’s Dear Freya จาก Dark Souls 2 แต่การนำบอสเก่า ๆ กลับมาใช้ใหม่ อาจทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเกมขาดความแปลกใหม่และมีเนื้อหาที่ซ้ำซ้อนได้ เนื่องจากโลกของ Elden Ring ถูกกล่าวว่าจะแยกออกจากเกม FromSoftware ภาคอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง การปรากฏตัวของบอสเหล่านี้จึงสร้างความสงสัยให้กับผู้เล่นหลายคน
จากตัวอย่างที่เผยแพร่มา บอสเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่มีลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกันเท่านั้น แต่ยังมีการโจมตีที่เหมือนกับในเกมภาคก่อน ๆ ด้วย ดังนั้น NIGHTREIGN จึงจำเป็นต้องมีเนื้อหาใหม่ ๆ ที่เพียงพอ เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นที่แปลกใหม่ให้กับผู้เล่น ไม่ใช่เพียงแค่การนำบอสเก่า ๆ กลับมาใช้ซ้ำ แม้ว่าจะมีบอสใหม่ ๆ ปรากฏตัว แต่ผู้เล่นก็ยังคงสงสัยถึงจำนวนบอสทั้งหมดในเกม รวมถึงสัดส่วนระหว่างบอสใหม่และบอสเก่า ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้
4. ประสบการณ์ใหม่ทุกครั้งที่เล่น NIGHTREIGN

หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของเกม NIGHTREIGN คือความสุ่มที่เกิดขึ้นในทุก ๆ ครั้งที่เล่นทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามจากแฟนเกมว่าความสุ่มนี้จะมีมากน้อยแค่ไหน ตัวอย่างเช่น ผู้พัฒนาเกมเคยกล่าวถึงการเลือกบอสตัวสุดท้ายในคืนที่สาม แต่รายละเอียดอื่น ๆ ก่อนหน้านั้นยังคงเป็นปริศนา อาจจะมีตัวแปรบางอย่างที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าสำหรับแต่ละบอสตัวสุดท้าย ทำให้ความสุ่มไม่ได้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ หากเกมสามารถสุ่มได้อย่างแท้จริงทุกองค์ประกอบในแต่ละครั้ง ผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่และตื่นเต้นทุกครั้งที่เข้าเล่นเกม ซึ่งเราก็ต้องมาลุ้นกันครับ
5. โลกที่สร้างสรรค์อย่างพิถีพิถัน สไตล์ FromSoftware

โดย NIGHTREIGN เกมใหม่ของ FromSoftware นำเสนอความท้าทายที่น่าสนใจ เพราะรูปแบบการเล่นที่สุ่มทำให้โลกในเกมแต่ละครั้งมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งอาจขัดแย้งกับการเล่าเรื่องที่เป็นเส้นตรงที่ผู้เล่นคุ้นเคยกับเกมของ FromSoftware อย่างไรก็ตาม ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจของ FromSoftware ที่แตกต่างไปจากเดิมนี้อาจกลายเป็นปริศนาที่กระตุ้นให้ผู้เล่นอยากค้นหาคำตอบมากยิ่งขึ้น
6. โลกกว้างใหญ่ ที่มีปริศนาให้ไขไม่รู้จบ

FromSoftware เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการออกแบบระดับที่ยอดเยี่ยมในเกมของพวกเขา ตั้งแต่เกม Dark Souls เป็นต้นมา ผู้เล่นต่างชื่นชมโลกในเกมของ FromSoftware ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังเชื่อมโยงกันอย่างลงตัวราวกับเล่าเรื่องราวผ่านการเดินทางของผู้เล่นเอง
หนึ่งในเสน่ห์ที่ดึงดูดใจของ Elden Ring คือการได้ออกสำรวจโลกกว้างและค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่ทั่วทุกมุม ซึ่งแน่นอนว่า NIGHTREIGN ในฐานะเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Elden Ring ก็ต้องมีองค์ประกอบนี้เช่นกัน แม้ว่าโลกใน NIGHTREIGN จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในทุก ๆ ครั้งที่เล่น เราก็พอที่จะลุ้นได้ว่าจะมีความลับและปริศนาต่าง ๆ ก็ยังคงมีอยู่ให้ผู้เล่นค้นหาอยู่เสมอ ซึ่งการได้สำรวจโลกใหม่ ๆ ในแต่ละครั้งจะทำให้ผู้เล่นได้พบกับเรื่องราวและความลับที่ไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจและกระตุ้นให้ผู้เล่นอยากค้นหาคำตอบมากยิ่งขึ้น
7. เรื่องราวใหม่ให้ผู้เล่นได้ติดตาม

FromSoftware ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยการสร้างโลกเกมที่มีความลึกลับซับซ้อนและน่าค้นหา ทำให้ผู้เล่นต้องใช้เวลาในการไขปริศนาและสร้างทฤษฎีต่าง ๆ ขึ้นมาเอง Elden Ring ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนของเกมที่ปล่อยให้ผู้เล่นได้ค้นพบเรื่องราวด้วยตัวเองอย่างเต็มที่
และในตอนนี้ NIGHTREIGN ภาคเสริมของ Elden Ring ก็น่าจะพร้อมที่จะสานต่อตำนานแห่งความลึกลับนี้ต่อไป แฟน ๆ ต่างตั้งตารอคอยที่จะได้เข้าไปสำรวจโลกใหม่ และค้นหาคำตอบของปริศนาที่ยังคงค้างคาใจจากภาคหลัก นอกจากนี้ NIGHTREIGN ยังมีแนวโน้มที่จะนำเสนอปริศนาใหม่ ๆ ที่จะจุดประกายให้เกิดการถกเถียงและวิเคราะห์กันอย่างยาวนานในหมู่ผู้เล่นอีกด้วย
8. อาวุธสุดเจ๋ง ที่รอให้คุณมาลองใช้

Elden Ring ไม่ได้มีขนาดใหญ่แค่โลกกว้างใหญ่ แต่ยังมีอาวุธให้ผู้เล่นได้เลือกใช้มากมาย การทดลองสร้างรูปแบบการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองด้วยอาวุธหลากหลายชนิด คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกมนี้เล่นซ้ำได้หลายรอบ และผู้เล่นก็คาดหวังประสบการณ์แบบเดียวกันนี้ใน NIGHTREIGN ด้วยเช่นกัน โดยการเพิ่มระบบปรับแต่งท่าทางการใช้อาวุธเข้าไปยิ่งทำให้ระบบต่อสู้มีความลึกซึ้งมากขึ้นไปอีก
ใน NIGHTREIGN ผู้เล่นจะคาดหวังการเลือกใช้อาวุธที่หลากหลายเหมือนใน Elden Ring หรืออาจจะมีมากกว่านั้นด้วยซ้ำ จากตัวอย่างเกม เราจะเห็นอาวุธใหม่ ๆ หรือรูปแบบการต่อสู้ที่ทำให้ผู้เล่นนึกถึงเกมอื่น ๆ เช่น อาวุธแปลงร่างได้จาก Bloodborne หรือเครื่องมือประจำกายของ Shinobi จาก Sekiro
9. โอกาสสำหรับเนื้อหาเสริมที่น่าสนใจ

แฟนเกม FromSoftware คงคุ้นเคยกับความสนุกเร้าใจที่เนื้อหาเสริม (DLC) มอบให้ ไม่ว่าจะเป็น Artorias of the Abyss ใน Dark Souls หรือ Shadow of the Erdtree ใน Elden Ring ซึ่งมักจะมาพร้อมกับความท้าทายใหม่ ๆ และเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ทำให้เกมหลักมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และได้รับความนิยมจากเหล่าเกมเมอร์อย่างต่อเนื่อง
และด้วยความสำเร็จของ Elden Ring ทำให้หลายคนคาดหวังว่า NIGHTREIGN เกมใหม่จาก FromSoftware จะได้รับการพัฒนาเนื้อหาเสริมเพิ่มเติมในอนาคต แม้ว่าทางผู้พัฒนาจะยืนยันว่า NIGHTREIGN จะไม่ใช่เกมที่อัปเดตเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการปล่อย DLC ออกมาในภายหลัง เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและขยายจักรวาลของเกมให้กว้างขึ้น
10. ดนตรีประกอบที่ตราตรึงใจ

หนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้เกมจาก FromSoftware โด่งดังไปทั่วโลกคือ ดนตรีประกอบที่ทรงพลังและกินใจ ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศอันน่าจดจำและตราตรึงใจผู้เล่นมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบการต่อสู้กับบอสสุดโหด หรือเพลงประกอบฉากที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขื่นขม ดนตรีเหล่านี้ล้วนแต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเกมและถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง
NIGHTREIGN ในฐานะเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของ FromSoftware จึงจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับดนตรีประกอบเป็นอย่างมาก เราต้องการสร้างสรรค์เพลงที่ไม่เพียงแต่ไพเราะ แต่ยังต้องสื่อถึงอารมณ์และบรรยากาศของเกมได้อย่างลึกซึ้ง เพื่อให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจและจดจำไปอีกนาน
Elden Ring NIGHTREIGN เป็นเกมรูปแบบแอ็กชั่น Souls-like ในธีมดาร์กแฟนตาซีจากโลกฉากหลังของเกมภาคหลักที่ถูกถ่ายทอดใหม่เพื่อประสบการณ์แบบ Co-op Multiplayer โดยเฉพาะ ผู้เล่นจะได้จับกลุ่มกับสมาชิกในทีมรวมสามคน เดินทางไปในแดนมัชฌิมาที่ ณ ตอนนี้ถูกบดบังด้วยภัยคุกคามแห่งความมืดมิดของยามราตรีจนเกิดมอนสเตอร์เลวร้ายบุกรุกเข้ามา ซึ่งตัวละครต่าง ๆ จะมีรูปแบบการนำเสนอสไตล์เกมเพลย์ที่ต่างกันด้วยโดยเกมนี้เกมยังมีองค์ประกอบคล้ายกับ Roguelike ด้วยนั่นก็คือทุกครั้งที่ยามราตรีมาถึง สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ก็จะเปลี่ยนไป เช่นศัตรูหรือบอสที่จะมีความแตกต่าง ทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอันตรายข้างหน้านั้นจะเป็นอย่างไรกันแน่!