สกู๊ปพิเศษ

10 เกม Castlevania ที่คุณไม่ควรพลาด

อีกหนึ่งเกมอมตะที่มีมากกว่า 30 ภาค

Castlevania ของ Konami เปิดตัวครั้งแรกในปี 1986 บน NES และเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ดำเนินมายาวนานและโด่งดังที่สุดของเกม ซีรีส์ Castlevania ประกอบไปด้วยภูตผีปีศาจและสัตว์ประหลาดที่นำโดย Count Dracula ที่ชั่วร้าย โดมเกมซีรีส์นี้ได้รับการเผยแพร่บนคอนโซลต่าง ๆ มากมายตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยแต่ละเกมจะมีเกมเฉพาะของตัวเองให้แฟน ๆ ได้เพลิดเพลินกัน

ซีรีส์ Castlevania มีชื่อมากกว่า 30 รายการ แม้ว่าหลายเกมจะเป็นเกมแพลตฟอร์ม Action Side-Scrolling แบบคลาสสิค แต่อีกหลายเกมได้รวมองค์ประกอบ RPG และกลไกการเล่นเกมที่แตกต่างไปจากเดิมเพื่อให้ซีรีส์นี้สดใหม่และน่าตื่นเต้นอยู่เสมอ เนื่องจากมีเกมให้เล่นมากมาย ในวันนี้เราจึงได้รวบรวม 10 เกม Castlevania ที่คุณไม่ควรพลาด มาให้ได้ติดตามกันครับ

1. Castlevania II: Belmont’s Revenge

image 8145

Castlevania II: Belmont’s Revenge เป็นเกม Action Side-Scrolling วางจำหน่ายในปี 1991 สำหรับเครื่อง Game Boy โดยเป็นเกมที่สองในระบบพกพา และเป็นภาคต่อโดยตรงกับ The Castlevania Adventure โดยเรื่องราวภายในเกมนี้จะเกิดขึ้นในปี 1989 ที่ Christopher Belmont ออกช่วยเหลือ Soleil ลูกชายของเขาจากเงื้อมมือของ Count Dracula ก่อนที่เขาจะหายไปตลอดกาล

Belmont’s Revenge เป็นเกมที่นำเสนอองค์ประกอบ Castlevania แบบคลาสสิคที่ช่วยให้ผู้เล่นเลือกลำดับของด่านที่ต้องการผจญภัยได้ แถมยังมีอาวุธและไอเทมคลาสสิคมากมาย แถมเกมนี้ยังมีเพลงประกอบยอดเยี่ยม และประสิทธิภาพในการเล่นที่ดีกว่าภาคก่อน ๆ มาก

2. Castlevania: Lament of Innocence

image 8144

Castlevania: Lament of Innocence เป็นเกมแอ็กชั่นผจญภัย 3 มิติในปี 2003 สำหรับ PlayStation 2 เป็นเกม Castlevania แบบ 3 มิติเกมแรกในคอนโซลวิดีโอเกมเจน 6 โดยเกมนี้เปิดตัวในฐานะเกมภาคแรกของซีรีส์พร้อมแนะนำนักล่าแวมไพร์คนแรกที่มีชื่อว่า Leon Belmont

Castlevania: Lament of Innocence นำเสนอตัวเลือกการเล่นเกมที่หลากหลายให้กับผู้เล่น ช่วยให้ผู้เล่นได้สำรวจสภาพแวดล้อมที่สวยงามมากมาย ทดลองใช้ลูกแก้วซึ่งเป็นอาวุธรองและโบราณวัตถุอันทรงพลัง และมีส่วนร่วมในการต่อสู้ที่มาพร้อมคอมโบอันดุเดือด พร้อมกราฟิกแบบ 3 มิติ ทำให้เกมนี้เป็นการเดินทางที่ยอดเยี่ยมไปสู่ต้นกำเนิดของซีรีส์นี้

3. Castlevania: Aria of Sorrow

image 8143

Castlevania: Aria of Sorrow เป็นเกม Action Side-Scrolling ที่มาให้เล่นกันในบน Game Boy Advance ในปี 2003 ถือเป็นเกม Castlevania ที่ดีที่สุดสำหรับ GBA และภายในเกมนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้กับซีรีส์ เช่น เป็นเกมแรกที่มีฉากตั้งอยู่ในญี่ปุ่นสมัยใหม่ และนำเสนอตัวละครเอกใหม่คือ Soma Cruz

Soma Cruz ตัวละครเอกของ Castlevania: Aria of Sorrow ซึ่งเป็นร่างจุติของ Dracula ที่มีความสามารถในการดูดซับวิญญาณของมอนสเตอร์และใช้เป็นอาวุธและทักษะพิเศษได้ เกมภาคนี้นำเสนอประสบการณ์เกม RPG แนว Metroidvania RPG ที่กว้างขวางกว่าเดิม แถมมาพร้อมเสียงเพลงและกราฟิกที่น่าทึ่ง ทำให้กลายเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมสำหรับคอนโซลพกพา

4. Castlevania: Portrait of Ruin

image 8142

Castlevania: Portrait of Ruin เป็นเกม Action Side-Scrolling เปิดตัวในปี 2006 สำหรับ Nintendo DS เป็นเกม DS ภาคที่ 2 ของซีรีส์และเป็นภาคต่อโดยตรงของ Castlevania: Bloodlines ซึ่งเกมนี้จะพาเราไปติดตามฮีโร่อย่าง Jonathan Morris และ Charlotte Aulin ขณะเดินทางไปยังปราสาท Dracula เพื่อหยุด Brauner ลอร์ดแวมไพร์

ภายในเกม Castlevania: Portrait of Ruin ผู้เล่นสามารถสลับระหว่าง Jonathan Morris และ Charlotte Aulin ได้ทันที ซึ่งฟีเจอร์นี้ทำให้เกมนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประกอบกับกลไกอาวุธย่อยที่หลากหลาย ทำให้ Portrait of Ruin เป็นหนึ่งในเกม Castlevania ที่มอบประสบการณ์เล่นเกมที่แข็งแกร่งที่สุดเกมหนึ่งในซีรีส์นี้

5. Castlevania: Bloodlines

image 8141

Castlevania: Bloodlines เป็นเกม Action Side-Scrolling เปิดตัวในปี 1994 สำหรับ Sega Genesis เป็นเกม 16 บิตที่สำคัญสำหรับซีรีส์นี้ อีกทั้งเกมนี้ยังเป็นเกมแรกที่มีตัวละครเอกที่ไม่ใช่สมาชิกของตระกูล Belmont ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกระหว่าง John Morris ซึ่งเป็นทายาทของตระกูล Morris หรือ Eric Lecarde นักล่าแวมไพร์ที่สืบเชื้อสายมาจากครอบครัวของ John เกมนี้ตั้งอยู่ในต้นศตวรรษที่ 20 และติดตามวีรบุรุษในการต่อสู้กับ Elizabeth Bartley แวมไพร์ที่ทรงพลัง

Castlevania: Bloodlines มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่มากกว่าเกมบน Nintendo เช่นเลือดสีแดงและร่างที่เต็มไปด้วยเลือด ศพที่น่าขยะแขยง นอกจากนี้ยังเป็นเกม Castlevania ภาคแรกที่มีการอ้างอิงโดยตรงถึงนวนิยายเรื่อง Dracula ของ Bram Stoker โดยระบุว่า John Morris เป็นทายาทของ Quincey Morris

6. Castlevania III: Dracula’s Curse

image 8140

Castlevania III: Dracula’s Curse เปิดตัวในปี 1990 สำหรับ NES โดยเกมนี้ก็ยังเป็นเกม Action Side-Scrolling ซึ่งหลายคนยกย่องว่าเกมนี้ถือได้ว่าเป็นเกมที่ดีที่สุดในไตรภาค NES ดั้งเดิม โดยเกมนี้จะพาเราไปพบกับตัวละครใหม่อย่าง Trevor Belmont รวมทั้งกลไกการเล่นเกมใหม่ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถสลับระหว่าง Trevor และตัวละครอีกสามตัวได้ อีกทั้ง Dracula’s Curse ยังมีโลกที่ใหญ่ขึ้นและซับซ้อนกว่าเกมก่อนหน้าในซีรีส์

Castlevania III: Dracula’s Curse ให้ผู้เล่นสามารถสลับระหว่างตัวละครได้ 4 ตัว ได้แก่ Trevor Belmont, Grant Danasty, Sypha Belnades และ Alucard ซึ่งตัวละครแต่ละตัวก็จะมีความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปเพื่อใช้ในการสำรวจโลกได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แถมเกมนี้ยังมีเส้นทางแยกหลายเส้นทาง ซึ่งเพิ่มคคุณค่าในการเล่นซ้ำของเกมนี้อีกด้วย

7. Akumajo Dracula/Castlevania Chronicles

image 8139

Akumajo Dracula/Castlevania Chronicles เปิดตัวครั้งแรกในปี 1993 สำหรับ PC และต่อมาถูกพอร์ตมาลง PS1 ในปี 2001 ซึ่งเกมนี้เป็นการนำเกม Castlevania ดั้งเดิมกลับมาสร้างใหม่ แม้ว่าจะมีเลเวล ศัตรู และดนตรีที่คล้ายคลึงกัน แต่ Akumajo Dracula ก็เป็นเวอร์ชั่นคลาสสิคที่มีเอกลักษณ์และยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก

Akumajo Dracula เป็นเกมรีเมคของ Castlevania ภาคดั้งเดิมที่มีการอีปเกรดกราฟิกให้ดียิ่งขึ้น และด่านใหม่ ๆ เช่น Caverns และ Tower of Dolls นอกจากนี้เกมดังกล่าวยังมาพร้อมกับดนตรีที่น่าทึ่ง ทำให้ Akumajo Dracula คือเกม Castlevania สุดคลาสสิค เป็นเกมที่มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่น่าประทับใจแม้แต่ผู้เล่นที่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนแล้วก็ตาม

8. Castlevania: Rondo of Blood

image 8138

Castlevania: Rondo of Blood เป็นเกม Action Side-Scrolling เปิดตัวในปี 1993 สำหรับ PC ของญี่ปุ่น ถือเป็นเกม Castlevania แบบอาร์เคดสุดคลาสสิคที่สมบูรณ์แบบ เกมดังกล่าวติดตาม Richter Belmont สมาชิกใหม่ของตระกูล Belmont ในการต่อสู้กับ Dracula เพื่อช่วยเหลือ Maria Renard และ Annette Bird เด็กหญิงสองคนที่ถูกลักพาตัวไปจากหมู่บ้านที่ถูกทำลาย

พลังของ PC ทำให้ Rondo of Blood มีกราฟิกที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในฐานะเกม 16 บิต รรวมไปถึงเสียงประกอบและดนตรีที่ไพเราะ อีกทั้งเกมนี้ยังเต็มไปด้วยคอนเทนต์ลับมากมาย เช่นเส้นทางที่ซ่อนอยู่ เส้นทางทางเลือก การต่อสู้กับบอสลับ และตอนจบที่หลากหลาย ทำให้เป็นจุดสุดยอดของยุค Action Side-Scrolling สำหรับซีรีส์ Castlevania

9. Castlevania: Symphony of the Night

image 8137

Castlevania: Symphony of the Night เป็นเกมแอ็กชั่นผจญภัยเปิดตัวในปี 1997 สำหรับ PlayStation มักถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และได้รับการยกย่องจากแฟนเกมว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่ปฏิวัติเกมประเภท Metroidvania ไปอย่างสิ้นเชิง โดยเกมดังกล่าวเป็นภาคต่อโดยตรงของ Rondo of Blood และมีตัวละครหลักอย่าง Alucard ที่กำลังสำรวจปราสาท Dracula เพื่อค้นหาพ่อของเขา

Castlevania: Symphony of the Night ถือเป็นต้นกำเนิดของประเภท Metroidvania เกมดังกล่าวได้รวมองค์ประกอบของ RPG เข้ามาในเกมด้วย เช่นการอัปเลเวล การเลือกไอเทมและอุปกรณ์ที่หลากหลาย และแผนที่โรมมิ่งแบบไม่เชิงเส้นที่สามารถสำรวจได้อย่างอิสระเพื่อสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่ยาวนานและน่าดึงดูดยิ่งขึ้น การตัดสินใจนี้ทำขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นทุกระดับทักษะสามารถเล่นเกมจนจบได้ ทำให้เป็นเกมที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดในซีรีส์นี้

10. Super Castlevania IV

image 8136

Super Castlevania IV เป็นเกม Action Side-Scrolling เปิดตัวในปี 1991 สำหรับ Super Nintendo Entertainment System เป็นเกมรีเมคของ Castlevania ภาคดั้งเดิมสำหรับ Nintendo Entertainment System โดยเกมนี้นำเสนอกราฟิกที่อัปเกรดแล้ว รวมไปถึงเพลงประกอบ และรูปแบบการเล่น โดยเกมนี้จะพาเราไปติดตาม Simon Belmont ฮีโร่คนแรกของซีรีส์ ที่ต้องเดินทางลึกเข้าไปในดินแดนต้องคำสาปแห่ง Transylvania เพื่อเอาชนะ Count Dracula

Super Castlevania IV เป็นประสบการณ์ Castlevania แบบคลาสสิคที่สมบูรณ์แบบและครบถ้วน โดยเกมดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก ด้วยกราฟิกที่มีรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน ดนตรีที่ยอดเยี่ยม การต่อสู้และการควบคุมที่ลื่นไหลและได้รับการปรับปรุงใหม่ พร้อมด้วยภารกิจที่ยาวเป็นสองเท่าของต้นฉบับ ทำให้ Super Castlevania IV ได้รับการยกย่องว่าเป็นอีกหหนึ่งเกม Castlevania ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นเกมที่ต้องมีสำหรับแฟน ๆ ของซีรีส์

ทั้งหมดนี้ก็คือ 10 เกม Castlevania ที่คุณไม่ควรพลาด หากผู้อ่านคนใดมีเกมภาคใดแนะนำ หรืออยากจะพูดคุยกันเพิ่มเติมในรายละเอียดก็สามารถคอมเมนต์กันได้เลยนะครับ

ที่มา cbr

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button