ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะมาเป็น Stardew Valley

ถ้าถามว่าเกมทำฟาร์มชื่อดังคือเกมอะไร ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้สัก 5 ปี หลาย ๆ คนคงจะตอบว่ามันคือเกม Story of Seasons (หรือ Harvest Moon ในชื่อเก่า) ทว่าทุกวันนี้แฟนจำนวนมากจากทั่วโลกโดยเฉพาะน้อง ๆ เกมเมอร์รุ่นใหม่ ต่างรู้จักเกม Stardew Valley เกมทำฟาร์มที่มีเรื่องราวที่สะท้อนโลกในชีวิตจริง และยังมีระบบต่าง ๆ ที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมชนิดเติมเต็มเกมทำฟาร์มดั้งเดิมที่ขาดไปได้ วันนี้เราจะพามาดูกันว่าก่อนตัวเกมจะออกมาเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จระดับนี้นั้น มันมีหนทางและต้องเผชิญอะไรบ้าง 

Stardew Valley กลายเป็นเกมอินดี้ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือการที่แฟน ๆ ได้รู้ว่า ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังผลงานอันยอดเยี่ยมชิ้นนี้นั้นกลับมาจากผู้สร้างเพียงคนเดียว! คุณ Eric Barone นั่นเอง แรกเริ่มเดิมทีเลยคุณ Eric มีความตั้งใจที่จะเป็นนักออกแบบวิดีโอเกม และเขาเริ่มโปรเจ็กต์นี้เพราะอยากฝึกฝนภาษา C# แต่ในระหว่างการฝึกฝนเขากลับตกหลุมรักผลงานชิ้นนี้ขนาดที่ว่าใช้เวลาถึง 4 ปีครึ่งในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาจนกลายเป็นเกมที่ชาวเกมเมอร์หลงรักไปทั่วโลกในปัจจุบัน ทั้งตัวเขาและและแฟนเกมไม่คาดคิดว่าหลังวางจำหน่ายเพียง 2 สัปดาห์แรกตัวเกมจะสามารถจำหน่ายไปได้มากถึง 500,000 ชุด และมียอดสูงเกินกว่า 10 ล้านชุดไปแล้วในปัจจุบัน! เมื่อนับรวมทุก Platforms

คุณ Eric มีแรงบันดาลใจหลัก ๆ มาจากเกมปลูกผักทำฟาร์มที่เกมเมอร์แทบทุกคนก็คงรู้จักเช่นกันอย่าง Story of Seasons (ชื่อเก่าคือ Harvest Moon) เขาต้องการนำสิ่งที่รักมาปรับเปลี่ยนพร้อมขยายเพิ่มเติมสิ่งที่ตัวเกมฉบับดั้งเดิมนั้นขาดไป ซึ่งหลักๆ ก็คือเรื่องการการคราฟต์สิ่งของ, การทำเควส และความลึกในแง่ของเส้นทางการใช้ชีวิตในเนื้อเรื่อง เขาต้องการให้ผู้เล่นมีตัวเลือกที่หลากหลายโดยแต่ละคนอาจไม่ได้เลือกเส้นทางหรือสิ่งเดียวกันเลยในการจะไปถึงเป้าหมาย สิ่งที่เขารักมากก็คือตัวเกม Story of Seasons นั้นเป็นเกมที่ปราศจากความรุนแรงและโฟกัสที่ด้านมิตรภาพและสัมพันธ์และเขาก็เน้นย้ำจุดแข็งที่สุดของเกมนี้ในเกมของตัวเอง แถมยังปรับเปลี่ยนให้ผู้เล่นรู้สึกเข้าถึงตัวเกมแบบที่ไม่ต่างอะไรจากโลกในชีวิตจริง โดยการถ่ายทอดเกี่ยวกับบริษัทใหญ่อย่าง Joja การที่ตัวเอกตัดสินใจลาออกมาอาศัยในเมืองเล็ก ๆ และตั้งต้นจะใช้ชีวิตอย่างอิสระในแบบฉบับที่พึ่งพาตัวเองได้ ในโลกความเป็นจริงของเรานั้นบริษัทห้างร้านใหญ่ ๆ มีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเราไม่มากก็น้อยในการดำรงชีวิต และหลายคนก็ฝันที่จะอยากทำในสิ่งที่รักและเป็นอิสระแต่อาจไม่สามารถทำได้ในชีวิตจริง

การสร้างเกม Stardew Valley นั้นไม่ใช่เรื่องงายเลย คุณ Eric ต้องเผชิญช่วงเวลายากลำบากหลายครั้งที่ทำให้เขาต้องทบทวนถึงสิ่งที่เขาพัฒนาอยู่ว่ามันควรจะดำเนินต่อไปหรือไม่? เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ Game Informer และ GQ ว่าเขาใช้เวลา 10-12 ชั่วโมง โดยทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดในการพัฒนาเกมนี้ บางช่วงเขารู้สึกเกลียดผลงานของตัวเองแต่ด้วยเวลาอย่างยาวนานที่เขาทุ่มเทเขาต้องการที่จะทำมันให้สำเร็จให้ได้ เขาต้องให้กำลังใจตัวเองว่าทุกอย่างจะออกมาดี และมันจะคุ้มค่ากับความพยายาม และเชื่อมั่นในตัวเอง แต่แม้ว่าตัวเกมจะออกมาแล้วขายไม่ได้เขาก็อยากทำมันให้สำเร็จดีกว่ากลายเป็นคนล้มเหลวที่ไม่ลงมือทำอะไร เหนือสิ่งอื่นใดคือเพื่อน, ครอบครัวรวมไปจนคุณ Amber แฟนสาวของเขานั้นต่างสนับสนุนเขามาโดยตลอด และให้เวลามากเท่าที่เขาต้องการ

คุณ Eric ไม่สามารถที่จะการันตีได้เลยว่า Stardew Valley จะต้องใช้เวลานานแค่ไหน ปกติเขามักจะคิดว่ามันคงจะใช้เวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนก่อนจะเสร็จ แต่ในความเป็นจริงคือมันกินเวลาหลายปี ที่น่าทึ่งคือเขามีเครดิตในทุกส่วนและทุกกระบวนการสร้าง ตั้งแต่การเขียนโปรแกรม, การดีไซน์งานศิลป์และแม้กระทั่งเพลงประกอบ หลายครั้งเขาพบว่าตัวเองมักจะกลับไปแก้งานเก่า ๆ ที่เคยเสร็จสิ้นไปแล้วเสมอ เอาง่าย ๆ ก็อย่างภาพตัวละครที่ปรากฏในหน้าต่างสนทนานั้นได้รับการแก้ไขใหม่ประมาณ 10 ครั้ง แถมบทสนทนาก็ถูกปรับแก้ซ้ำแล้วซ้ำอีก มีบางอย่างที่เขายอมทิ้งไปแม้จะใช้เวลาสร้างอยู่นานแต่เพราะคิดว่ามันไม่เหมาะสมในตอนท้ายอย่างเช่นความสามารถในการขุดกำแพงในเหมือง แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าที่เขาต้องแก้ไขบ่อยครั้งคือปัญหาด้านเทคนิค ซึ่งเขาแทบไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใครเลย เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ค้นหาวิธีแก้บอร์ดออนไลน์เก่า ๆ ผ่านบล็อกมากกว่าจะไหว้วานใคร

และด้วยความที่เขาสร้างและทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวจึงหมายถึงต่อให้เกมจะถูกสร้างอย่างเสร็จสิ้นแล้ว แต่หลังจากนั้นเขาก็ยังคงเป็นผู้รับผิดชอบต่อตัวเกมทั้งหมด เขาแก้ปัญหาบั๊กทั้งหลายและยังรับฟัง Feedback ผลตอบรับจากแฟน ๆ โดยตรง และเขาก็ทำการอัปเดตแก้ไขปรับปรุงตัวเกมตลอดเวลา แม้ว่าเขาจะได้รับการติดต่อจากค่าย Chucklefish แต่ค่ายเกี่ยวข้องแค่ในเรื่องของการจัดจำหน่ายและช่วยเหลือในด้านระบบ Multiplayer เท่านั้น ปัจจุบัน Chucklefish จะช่วยเหลือในด้านแปลเป็นภาษาอื่นที่ไม่ใช่อังกฤษและการ Port ไปยัง Platform อื่น เช่นบนคอนโซล แต่การอัปเดตตัวเกมนั้นทำโดยคุณ Eric ทั้งหมด และในตอนนี้เขายังพัฒนาเกมอื่นเพิ่มอีก 2 เกม ซึ่งหนึ่งในนั้นจะใช้จักรวาลเดียวกับ Stardew Valley แต่ไม่ใช่เกมทำฟาร์ม ส่วนอีกเกมยังไม่ได้กำหนดโลกภายในเกมแต่จะมีความเกี่ยวข้องกับ Stardew Valley ไม่มากก็น้อย