สัมภาษณ์พิเศษผู้พัฒนา SYNDUALITY: Echo of Ada ในงาน ThGS 2023
เกม TPS หุ่นรบที่มาพร้อมระบบ AI ที่ล้ำลึกจนน่าตะลึง!
![สัมภาษณ์พิเศษผู้พัฒนา SYNDUALITY: Echo of Ada ในงาน ThGS 2023 1 04701520016978718393955 CoverM](https://i0.wp.com/thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2024/01/04701520016978718393955_CoverM.jpg?fit=1000%2C523&ssl=1)
SYNDUALITY: Echo of Ada จะเป็นเกม TPS ที่หลายคนอาจจะคุ้นตาจากการได้รับชมอนิเมะมาบ้าง โดยเกมนี้มีให้ทดลองเล่นในงาน Thailand Game Show 2023 ด้วย และในโอกาสนี้คุณ Yosuke Futami โปรดิวเซอร์เกมดังกล่าวก็ได้มาเข้าร่วมงานนี้ด้วย
และในโอกาสนี้ทางทีมงาน This is Game Thailand ได้รับโอกาสพิเศษในการเข้าสัมภาษณ์คุณ Yosuke Futami มาให้ทุกคนได้ติดตามกันด้วย ซึ่งผู้เขียนบอกได้เลยว่าหากใครเล่นเกมในงานแล้วยังรู้สึกไม่อิ่มเอม มันมีสาเหตุบางอย่างอยู่ที่จะทำให้คุณต้องเล่นเกมตัวเต็มให้ได้
![สัมภาษณ์พิเศษผู้พัฒนา SYNDUALITY: Echo of Ada ในงาน ThGS 2023 2 image 7187](https://i0.wp.com/thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2024/01/image-7187.jpeg?resize=708%2C531&ssl=1)
เริ่มต้นสำหรับคำถามที่หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยพอสมควรก็คือ “ถ้าจะเล่นเกม SYNDUALITY: Echo of Ada ให้รู้เรื่อง ต้องดูอนิเมะมาก่อนหรือไม่” ซึ่งคำตอบจากปากของทางผู้พัฒนาเกมก็คือ “ไม่จำเป็น” เพราะเรื่องราวของอนิเมะ กับเกมเป็นคนละช่วงเวลากันเลย อีกทั้งเนื้อเรื่องภายในเกมก็เป็นเนื้อเรื่องที่เริ่มและจบภายในตัวของมันเอง ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับสื่ออื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นอนิเมะ มังงะ หรือไลท์โนเวลก็ตาม ฉะนั้นสบายใจได้ครับ
แต่ถ้าใครสงสัยว่า “แล้วเนื้อเรื่องของสื่ออื่นที่ไม่ใช่เกมมันไม่สำคัญเหรอ?” ทางผู้พัฒนาก็บอกว่าสำคัญเหมือนกัน แต่แค่มันไม่ได้เชื่อมโยงกันมากขนาดนั้น แต่ถ้ารู้เรื่องมาก่อนก็อาจจะทำให้เข้าใจองค์ประกอบบางอย่างมากขึ้นบ้าง รวมไปถึงอาจจะเก็ตกับ Easter Egg บางอย่างที่มีในนี้ แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนว่าต้องไปศึกษามาทั้งหมดถึงจะเล่นเกมนี้ได้แต่อย่างใด
เมื่อพูดถึงจุดเด่นของเกมนี้ ทางคุณ Yosuke Futami ได้ระบุว่าจุดเด่นที่อยากให้ทุกคนได้สัมผัสก็คือ คอนเซปต์ที่ว่า “คนและ AI ร่วมมือกันทำอะไรหลาย ๆ อย่างด้วยกัน” ทำให้เกมนี้จะมุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นกับ Magus ในการออกผจญภัยเก็บทรัพยากร และติดตามเรื่องราวมากมายที่จะเกิดขึ้น
และถ้าหากผู้อ่านคนใดเคยได้เล่นเกม หรือเทรลเลอร์มาแล้ว ก็จะพบว่าเกมนี้มีการใช้กราฟิกผสมผสานทั้งแบบ 2D และ 3D ซึ่งค่อนข้างสร้างความประหลาดใจให้ใครหลายคนพอสมควร โดยทางผู้พัฒนาได้ระบุว่าเขาตั้งใจให้เป็นแบบนั้น โดยเขาได้ระบุว่าเราจะได้ใช้ตัวละคร Ada รวบรวมข้อมูลไปเรื่อย ๆ (ตามเรื่องราวภายในเกม) โดยเราจะได้รวบรวมข้อมูล Log ที่มีเมืองที่พังทลายไปแล้ว ซึ่งจะมีทั้งข้อมูลที่เสียหายและสมบูรณ์แบบ ซึ่งข้อมูลที่ยังคงเก็บไว้อย่างดีจะถูกนำเสนอออกมาเป็น 3D ในขณะที่ข้อมูลที่พังไปบ้างแล้ว AI กู้ข้อมูลคืนมา เลยกลายเป็นกราฟิกแบบ 2D แต่ยังไม่จบแค่นั้น! เพราะภายในเกมนี้จะมีข้อมูล Log ที่มีเพียงเสียงอย่างเดียวด้วย และเมื่อนำข้อมูลทั้ง 3 แบบนี้มารวมเข้าด้วยกันจะกลายเป็นข้อมูลที่มีความหมายที่น่าติดตามให้เราได้เรียนรู้ และด้วยสาเหตุนี้เองทำให้ทางผู้พัฒนาเกมเลือกที่จะใช้อาร์ตสไตล์หลาย ๆ แบบให้สัมผัสความหลากหลายของข้อมูลนั่นเอง
![สัมภาษณ์พิเศษผู้พัฒนา SYNDUALITY: Echo of Ada ในงาน ThGS 2023 3 image 7186](https://i0.wp.com/thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2024/01/image-7186.jpeg?resize=708%2C398&ssl=1)
ในส่วนของเกมเพลย์การปรับแต่งหุ่นนั้นก็น่าสนใจไม่น้อยครับ เพราะในการปรับแต่งหุ่นภายในเกมนี้จะไม่เหมือนกับการปรับแต่งหุ่นจากเกมอื่น ๆ เท่าไหร่นัก นั่นก็คือภายในเกมนี้สามารถปรับแต่งหุ่นได้ทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่บอดี้, แขน และขา รวมไปถึงอาวุธที่ใช้งานได้ โดยผู้เล่นสามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนสีของชิ้นส่วนได้!
สำหรับสาเหตุที่ทางผู้พัฒนาเกมไม่เปิดให้ผู้เล่นได้ปรับสีของชิ้นส่วนก็เพราะว่าสีของชิ้นส่วนแต่ละชิ้น รวมไปถึงรูปลักษณ์ของมันจะบ่งบอกถึงคุณสมบัติ และระดับของพาร์ทนั้น ๆ นั่นแปลว่าสีมีส่วนเชื่อมโยงกับความสามารถกับสมรรถนะของหุ่นโดยตรง ทำให้การปรับแต่งสีนั้นจะทำให้เกิดความสับสนได้ อีกทั้งทางผู้พัฒนาเกมต้องการป้องกันไม่ให้เวลาที่เล่น PvP มีการหลอกผู้เล่นคนอื่น ๆ ด้วยการใช้สีที่แสดงให้เห็นว่าหุ่นนั้นอ่อนแอ แต่จริง ๆ คือหุ่นสุดโหด ทำให้ทางผู้พัฒนาตัดสินใจไม่ให้ปรับสีหุ่นได้นั่นเอง
นอกจากนี้ชิ้นส่วนของหุ่นยังสามารถเสียหายได้ด้วยเมื่อใช้ไประยะเวลาหนึ่ง นั่นแปลว่าผู้เล่นจะต้องทำการเปลี่ยนพาร์ทไปเรื่อย ๆ นั่นเอง อ้อ! แต่ถ้าใครรู้สึกถูกชะตากับชิ้นส่วนใดเป็นพิเศษ หรือใช้แล้วรู้สึกว่าเข้ามือ อยากใช้ชิ้นนี้ไปตลอดก็สามารถทำได้เช่นกันโดยผ่านระบบการสร้างชิ้นส่วน แต่ชิ้นส่วนที่สร้างก็พังได้ตลอดเช่นกัน นั่นแปลว่าเราก็ต้องขยันสร้างกันหน่อยครับ
สำหรับโหมดการเล่นเกมนี้จะมีทั้งหมด Story และโหมด Raid Mode ที่เปรียบเสมือนโลกกลางที่ผู้เล่นจะได้เข้าผจญภัยในโลกอันกว้างใหญ่กับผู้เล่นคนอื่น ๆ ทั่วโลก ซึ่งในตอนนี้ทางผู้พัฒนายังไม่สามารถระบุได้ว่า 1 ห้องนั้นจะมีผู้เล่นเข้าเล่นได้ทั้งหมดกี่คนในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามภายในโหมดนี้ผู้เล่นสามารถเข้าไปร่วมมือ ตั้งปาร์ตี้กับคนในห้องในการเก็บทรัพยากร หรือทำภารกิจ PvE ได้ อย่างไรก็ตามก็ต้องระวังด้วยเพราะจะมีผู้เล่นประเภทลอบโจมตีคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
อ้อ! และก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนแสดงความกังวลว่า “หากเราตาย เราจะสูญเสีย Magus” ไปจริงไหม คำตอบคือทั้งจริงและไม่จริงครับ เพราะเวลาที่เราตายนั้นเราสามารถกด Emergency Escape เพื่อป้องกันไม่ให้ Magus ของเราถูกช่วงชิงไปได้ แต่ถ้าเกิดสมมติว่าเรากดไม่ทัน เราก็สามารถจ่ายเงินขอไถ่ตัวกลับมาได้เช่นกัน
![สัมภาษณ์พิเศษผู้พัฒนา SYNDUALITY: Echo of Ada ในงาน ThGS 2023 4 image 7185](https://i0.wp.com/thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2024/01/image-7185.jpeg?resize=708%2C398&ssl=1)
และเมื่อถูกถามถึง ระบบใดที่พัฒนายากที่สุดภายในเกมนี้ ทางคุณ Yosuke Futami ก็ได้บอกว่า “ระบบ Magus” นั่นเอง เพราะว่าเขาต้องการให้ Magus สามารถช่วยเหลือผู้เล่นให้ได้ในระดับที่พอดี ไม่มากจนทำให้เกมหมดความท้าทายหรือโกงจนเกินไป หรือน้อยจนดูเหมือนไร้ประโยชน์ ทำให้เขาใช้เวลาดัดแปลงระบบของ Magus นานมาก ๆ ซึ่งเขาได้บอกว่า Magus จะเหมือน AI ที่คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำผู้เล่น และจะมีการเรียนรู้สไตล์ของผู้เล่นเพื่อช่วยเหลือผู้เล่นให้เหมาะสมที่สุด
และด้วยความยากนี้เองทำให้เขาบอกว่าระบบ Magus ถือได้ว่าเป็นระบบที่โดดเด่นที่สุดภายในเกมนี้ เขาได้ระบุว่า Magus ภายในเกมนี้มีทั้งหมด 4 แบบ โดยแต่ละแบบจะโดดเด่นไม่เหมือนกัน โดย AI เหล่านี้จะเรียนรู้ข้อมูลผู้เล่นอย่างละเอียด และจะคอยให้คำแนะนำ ซึ่งทางผู้พัฒนาเกมได้บอกว่าเกมอื่น ๆ ที่เขาเคยพัฒนามาตัวละครประเภทนี้จะมีบทพูดประมาณ 250 บทพูด แต่เกมนี้ Magus แต่ละตัวจะมีบทพูดมากกว่า 2,000 บทพูด โดย Magus จะเลือกบทพูดผ่านการประมวลผลที่ละเอียดยิบเพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกได้ว่า Magus เหล่านี้มีชีวิตจริง ๆ
องค์ประกอบที่ผู้พัฒนาเกมได้ระบุไว้ว่าจะใช้ในการประมวลผลเพื่อให้ AI ได้พูดคุยกับเราก็จะมีทั้งความสามารถของผู้เล่น, ค่าสถิติของโลกและสภาพแวดล้อม รวมไปถึงสถานการณ์ ณ เวลานั้น ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น เพราะทางผู้พัฒนาเกมย้ำว่าข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผลเพื่อให้ Magus ดูแลผู้เล่นนั้นมีเยอะ และละเอียดกว่านี้มาก ๆ เลยทีเดียว
ปิดท้ายด้วยการที่ผู้พัฒนาเกมย้ำกับผู้เล่นว่าผู้เล่นทุกคนสามารถปรับแต่ง Magus ได้เต็มที่ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และความสามารถ รวมไปถึงสบายใจได้ว่า Magus ทุกตัวภายในเกมนี้จะไม่ได้แบ่งความหายาก ทำให้ Magus มีความสามารถใกล้เคียงกัน แต่จะแตกต่างไปตามรูปแบบที่ผู้เล่นเลือก และการปรับแต่งของผู้เล่น… อ้อ! ผู้พัฒนายังแอบแง้มมาว่า Magus จะมีบุคลิกที่ต่างกันด้วย เช่น Magus บางตัวอาจจะชอบปลอบประโลมผู้เล่น, บางตัวอาจจะคอยให้กำลังใจ หรือถ้าใครชอบซาดิสม์หน่อย ๆ ก็จะมี Magus ที่คอยดุเราด้วยเช่นกันครับ!
เป็นอีกหนึ่งบทสัมภาษณ์ที่บอกได้เลยว่าเกมเวอร์ชั่นเต็มนั้นจะต้องสนุก และน่าสนใจมากอย่างแน่นอน ซึ่งทีมงาน This is Game Thailand ต้องขอขอบพระคุณทาง Bandai Namco และคุณ Yosuke Futami โปรดิวเซอร์เกม SYNDUALITY: Echo of Ada ที่มอบโอกาสที่สำคัญนี้ให้กับเราครับ