6 ความรู้สึกผิดหวังเมื่อคุณต้องมาเจอกับหนังสือบทสรุปเกมแบบนี้!

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว This Is Game กันอีกครั้งครับ วันนี้ผม Lengist ก็อยากมาเล่าประสบการณ์ชีวิตเกี่ยวกับการเล่นเกมสมัยก่อนกันบ้าง เพื่อน ๆ เคยซื้อหนังสือบทสรุปเกมมาอ่านกันบ้างมั้ยครับ? สมัยก่อนที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ตเป็นที่แพร่หลาย ความสะดวกสบายเกี่ยวกับข้อมูลไม่ได้เข้าถึงง่าย ๆ เหมือนกับสมัยนี้ ที่แค่สงสัยอะไรแล้วไปเปิด Google ก็แทบจะเจอทุกเรื่องแล้ว วันนี้ผมจะมาพูดถึงความรู้สึกเฟล ๆ ของบทสรุปเกมที่มีขายสมัยก่อนกันครับ ใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้กันบ้างมั้ยเอ่ย!?

1. หนังสือทั้งเล่มมีแต่ตัวหนังสือ!

เรื่องแรกนี้อาจจะเป็นเรื่องที่มีน้อยมากจนคุณไม่เคยพบมาก่อนเลยก็ได้ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมแล้วทำให้รู้ว่าบทสรุปเกมแบบไทย ๆ (ในสมัยก่อน) บางค่ายก็ไม่ได้ลงทุนอะไรมากนัก มีเพียงแต่การเขียนบรรยายเป็นภาษาไทยเหมือนเล่าประสบการณ์ในการเล่นเกม และไม่มีภาพประกอบเพื่อความเข้าใจเลยสักนิด ด้วยความเป็นเด็กบางทีเราก็อยากได้รูปภาพมาดูเพื่อเพิ่มความเข้าใจในเนื้อหาบางตอนของเกมด้วย แต่ดันมีแต่ตัวหนังสือให้อ่านเต็มไปหมด ไม่พอแค่นั้น ไม่ว่าจะช่องไฟ หรือระยะห่างของบรรทัดก็ชิดกันซะจนดูตาลายจริง ๆ

2. Action Replay ใช้งานไม่ได้จริง!

บทสรุปเกมของเครื่อง PlayStation สมัยก่อน ที่หน้าท้าย ๆ ของเล่ม มักจะมีสูตร Action Replay ไว้ให้ใช้สำหรับโกงเกมกัน ด้วยความที่เราเป็นเด็กแล้วอยากเอาชนะเกมด้วยวิธีง่าย ๆ ก็อยากจะลองสูตรเหล่านี้ดูบ้างแหละ แต่พอกรอกสูตรเข้าไปแล้วพบว่าบางสูตรมันใช้งานไม่ได้จริง แถมบางสูตรทำให้เกมเกิดบั๊กอีก ถึงแม้จะมีแค่บางสูตรที่ใช้ไม่ได้ แต่เราก็จะรู้สึกเฟล ๆ ว่า เฮ้ย! สูตรอันนี้มันน่าสนใจมากเลยนะ ไหงถึงใช้ไม่ติดล่ะ!? คิดว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะเจอกันมาบ้างนะครับ สุดท้ายแล้วก็คืออยากลองสูตร Action Replay เพื่อความสนุกช่วงหนึ่งแหละ แล้วก็กลับมาเล่นเกมตามปกติโดยไม่โกงนี่แหละสนุกที่สุด

3. บทสรุปเกมเดียวกัน จากค่ายหนังสือเดียวกัน แต่คุณภาพดีกว่า!?

เคยซื้อบทสรุปเกม RPG เล่มหนึ่งมา ซึ่งเนื้อหาในการเขียนถูกอ้างอิงมาจากเกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ซึ่งพอเอามาอ่านก็เข้าใจดี ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เป็นบทสรุปเกมที่ดีเล่มหนึ่งเลยครับ แต่พอผ่านพ้นช่วงหนึ่งไปเรากลับเห็นบทสรุปเกมเดียวกันนี้ถูกวางจำหน่ายอีกครั้งโดยอ้างอิงมาจากเกมเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ!? แถมเนื้อหาข้างในดันละเอียดกว่าเล่มที่เคยวางจำหน่ายไปแล้ว! ทำให้คิดว่าเราไม่น่าซื้อเล่มก่อนหน้านี้มาให้เปลืองเงินเลยนะ ถ้ารู้ว่าจะมีบทสรุปที่มีข้อมูลละเอียดกว่าตอนนั้นคงไม่รีบซื้อมาอ่านหรอก โธ่..!

4. บทสรุปเล่มเดิม เพิ่มเติมเนื้อหานิดหน่อย!?

ข้อนี้ก็จะคล้าย ๆ ข้อข้างบนหน่อยครับ คือไปเจอหนังสือบทสรุปเกม Action RPG เล่มหนึ่งที่เราเคยซื้อไปแล้ว ถูกวางขายและมีคำโฆษณาอยู่ที่หน้าปกว่า “เพิ่มเติมเนื้อหาละเอียดยิ่งขึ้น” ด้วยความอยากรู้อยากเห็นในฐานะนักอ่านกับคนเล่นเกม มีหรือว่าคุณจะไม่สนใจ? แต่พอซื้อมาแล้วเราก็พบว่าเนื้อหาจริง ๆ มันไม่ได้เพิ่มอะไรมากเท่าไหร่เลย!? มีแค่แบ่งภาพของฝั่งญี่ปุ่นกับฝั่งอเมริกาเข้ามาให้ดูเหมือนเปรียบเทียบเพิ่มเติม (แต่ภาพมันก็เหมือนกันซะจนนึกว่า Copy > Paste) ให้ความรู้สึกเหมือนกับโดนหลอกขายของเก่ามาอีกที คิดแล้วก็เจ็บใจเลยครับเนี่ย!

5. บทสรุปที่มีแค่สอนพื้นฐานการเล่นของเกม

เรื่องนี้คิดว่าน่าจะเป็นความรู้สึกน่าผิดหวังแบบสุด ๆ เลยครับ กับเกมที่เราเล่นแทบไม่รู้เรื่องและต้องการไกด์นำทางอย่างชัดเจน แต่ซื้อหนังสือมาแล้วดันพบว่ามีแค่สอนพื้นฐานการเล่นของเกม กับรูปประกอบสวยงาม ๆ เท่านั้น ไม่มีทั้งเทคนิค ไม่มีสอนการเดินเรื่อง ราวกับเปิดหนังสือมาเพื่อพบกับความว่างเปล่าเท่านั้น ก็ว่าแล้วทำไมหนังสือมันบางจัง!

6. “พอเข้าห้องบอสแล้ว พยายามเอาชนะมันให้ได้”

คิดว่าทุกคนคงเจอวลีเด็ดอันนี้มากันเยอะมากเลยใช่มั้ยครับ? เวลาถึงจุดสำคัญในการต่อสู้กับบอสใหญ่ของเกม หรือในเนื้อเรื่องช่วงใดช่วงหนึ่ง แต่หนังสือบทสรุปเกมในมือของเราเขียนไว้แค่เพียงว่า “พอเข้าห้องบอสแล้ว พยายามเอาชนะมันให้ได้” เฮ้ย!? แบบนี้ก็ได้เหรอ!? ไม่มีบอกจุดอ่อนของบอส ไม่บอกเทคนิคการต่อสู้ หรือวิธีใช้ไอเทมอะไรที่จะเป็นประโยชน์กับการเล่นเลยเหรอ!? แล้วเราก็ต้องมานั่งงมหาวิธีเอาชนะด้วยคำว่า “พยายามเอาชนะมันให้ได้!” เพื่อให้สามารถเคลียร์เกมได้ด้วยตัวเอง

ก็เป็นประสบการณ์เฟล ๆ ขำ ๆ ที่ได้เจอกันมาสำหรับคนเล่มเกมเครื่อง Console ในสมัยก่อนแหละครับ ว่าหนังสือบทสรุปเกมมันก็ไม่ได้ละเอียดยิบขนาดจะมีทุกสิ่งที่เราอยากรู้ แถมบางทีก็พิมพ์มาแล้วรู้สึกไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปเลย แต่บางค่ายที่ทำหนังสือบทสรุปเกมดี ๆ และข้อมูลแน่นก็มีเช่นกันครับ ทำให้รู้สึกว่าคุ้มค่าที่ซื้อมาอ่านจริง ๆ ถึงแม้จะไม่ได้เล่นเกมเก่า ๆ แล้ว บางทีหยิบขึ้นมาอ่านมาดูภาพประกอบก็รู้สึกดีไปกับมัน ทำให้คิดถึงความหลังในการเล่นเกมขึ้นมาเลยครับ แต่กับหนังสือที่ให้ความรู้สึกผิดหวังไปบ้างอย่างที่เอ่ยมาผมก็แทบจะทิ้งไปหมดแล้วล่ะ (ฮา) ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ