สกู๊ปพิเศษ

สื่อนอกจัดอันดับฟาร์มใน Stardew Valley

ใครชอบแบบไหน มาดูกัน!

การเริ่มต้นผจญภัยในโลกของ Stardew Valley นั้น การเลือกแผนที่ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อประสบการณ์การเล่นโดยรวม เพราะแผนที่แต่ละแบบมาพร้อมกับลักษณะภูมิประเทศ และทรัพยากรที่แตกต่างกัน ซึ่งจะส่งผลต่อความยากง่ายในการทำฟาร์มและการดำเนินชีวิตในหมู่บ้านอย่างมาก และเมื่อเลือกแผนที่ไปแล้ว การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นเรื่องยาก จึงควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ และในวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลจากสื่อนอกที่ได้ออกมาจัดอันดับฟาร์มใน Stardew Valley มาให้ทุกคนได้ติดตามกัน ส่วนจะเป็นอย่างไร มาติดตามกันได้ที่ด้านล่างนี้เลย!

อันกับ 8 – Riverland Farm

Stardew Valley Farms Ranked

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกปลา แผนที่เกาะอาจดูเหมือนเป็นสวรรค์ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่สำหรับทำฟาร์มอย่างเต็มที่แล้ว แผนที่นี้อาจไม่ตอบโจทย์เท่าไรนัก เพราะพื้นที่สำหรับทำการเกษตรค่อนข้างจำกัด แม้จะมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์และเตารมควันปลา แต่การออกแบบแผนที่ยังไม่ค่อยเอื้ออำนวยต่อการทำฟาร์มเท่าที่ควร เพราะการทำฟาร์มคือหัวใจหลักของ Stardew Valley และหากไม่มีพื้นที่เพาะปลูก ก็จะขาดผลผลิตทางการเกษตรไป

หากคุณเลือกแผนที่นี้ คุณจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการตกปลา แต่หากคุณสามารถผสมผสานการตกปลาและการทำฟาร์มไปพร้อมกันได้ ก็จะช่วยให้คุณพัฒนาฟาร์มได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม แผนที่เกาะเน้นไปที่การตกปลาเป็นหลัก ทำให้การทำฟาร์มค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกกระจัดกระจายและการจัดการที่ยุ่งยากพอสมควร

อันดับ 7 – Standard Farm

Stardew Valley Farms Ranked

แผนที่แบบมาตรฐานนี้เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบการทำฟาร์มเป็นหลัก ด้วยพื้นที่กว้างขวางสำหรับปลูกพืชผลและเลี้ยงสัตว์ พร้อมบ่อน้ำเล็ก ๆ สำหรับตกปลา ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการใช้ชีวิตเรียบง่ายในฟาร์มได้อย่างเต็มที่ โดยข้อดีก็คือเหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่ต้องการทำความเข้าใจระบบการทำฟาร์มพื้นฐาน และยังสามารถใช้ม็อดเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำฟาร์มได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามแผนที่ค่อนข้างเรียบง่าย ขาดความหลากหลาย และไม่มีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ทำให้การเล่นเกมอาจรู้สึกน่าเบื่อและซ้ำซากได้ในระยะยาว หากมีการเพิ่มลูกเล่นหรือความท้าทายใหม่ๆ เข้าไปในแผนที่ ก็จะทำให้เกมน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

อันดับ 6 – Beach Farm

Stardew Valley Farms Ranked

แผนที่ฟาร์มชายหาดใน Stardew Valley นั้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้เล่นที่ต้องการความท้าทายใหม่ ๆ ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่เหมาะสำหรับการสร้างสรรค์ฟาร์มในฝัน พร้อมกับชายหาดอันกว้างไกลที่เต็มไปด้วยทรัพยากรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตกปลา เก็บของตามชายหาด หรือสร้างโรงนาและคอกสัตว์ก็สามารถทำได้อย่างจุใจ นอกจากนี้ยังมีกล่องลอยมาเกยตื้นอยู่เป็นระยะ ซึ่งภายในอาจมีของมีค่าซ่อนอยู่ก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม การที่เกาะส่วนใหญ่เป็นพื้นทรายก็ทำให้การทำฟาร์มเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น เพราะเราไม่สามารถใช้สปริงเกอร์รดน้ำพืชได้ ทำให้การปลูกพืชผลเป็นไปได้ยากและต้องใช้เวลามากกว่าปกติ แต่สำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบความท้าทายและต้องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ฟาร์มชายหาดก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะมันเปิดโอกาสให้เราได้ออกแบบฟาร์มในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม และยังสามารถสร้างบ้านและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ

อันดับ 5 – Wilderness Farm

Stardew Valley Farms Ranked

สำหรับผู้เล่น Stardew Valley ที่ต้องการเพิ่มความตื่นเต้นให้กับการทำฟาร์ม แผนที่นี้คือคำตอบ! ด้วยโอกาสในการพบเจอกับ Golems Iridium มอนสเตอร์หายากที่มีโอกาสดรอปเศษอิริเดียมสูงถึง 50% เมื่อเลเวลการต่อสู้ถึง 10 ทำให้แผนที่นี้เป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างไอเทมหายากและอัปเกรดฟาร์มให้เร็วขึ้น

นอกเหนือจากเรื่องมอนสเตอร์แล้ว แผนที่นี้ก็คล้าย ๆ กับแผนที่เริ่มต้นทั่วไป มีพื้นที่สำหรับทำฟาร์มพอสมควร แต่การตกปลาในบ่อน้ำนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะมีโอกาสได้ขยะถึง 65% เลยทีเดียว แม้ว่าจะตกปลาภูเขาได้ก็ตาม ผู้เล่นจึงควรเลือกแผนที่นี้ก็ต่อเมื่ออยากได้ความตื่นเต้นจากการต่อสู้กับมอนสเตอร์ และอยากได้เศษอิริเดียมไปสร้างของหายากเป็นหลัก

อันดับ 4 – Hill-Top Farm

Stardew Valley Farms Ranked

สำหรับผู้เล่น Minecraft ที่หลงใหลในการขุดหาแร่แล้วล่ะก็ ฟาร์มนี้ถือเป็นสวรรค์เลยทีเดียว เพราะตั้งอยู่บนเหมือง ทำให้เข้าถึงแหล่งแร่ได้สะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปขุดที่ไกล ๆ อีกต่อไป แถมยังมีแร่ธาตุเกิดใหม่ให้ขุดได้เรื่อย ๆ ทุก 4 วันอีกด้วย แร่เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะใช้สร้างเครื่องมือต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังสามารถนำไปใช้ประดิษฐ์สปริงเกอร์สำหรับรดน้ำพืชในฟาร์มได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อดีที่มากับฟาร์มบนเนินเขาก็มาพร้อมกับข้อจำกัดเช่นกัน เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นเหมืองและแหล่งน้ำ ทำให้มีพื้นที่สำหรับทำการเกษตรค่อนข้างจำกัด ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ เพราะการทำฟาร์มเป็นแหล่งรายได้หลักของผู้เล่น และการตกปลาก็มีโอกาสได้ขยะสูงถึง 50% ทำให้การหาอาหารและวัตถุดิบอื่น ๆ กลายเป็นเรื่องที่ท้าทายยิ่งขึ้น แผนที่นี้จึงเหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการเน้นการขุดเจาะและสำรวจเหมืองเป็นหลัก มากกว่าการทำฟาร์มแบบครบวงจร

อันดับ 3 – Forest Farm

แผนที่ป่าลึกลับคืออีกหนึ่งสถานที่ที่น่าค้นหาในเกมนี้ด้วยบรรยากาศของป่าที่เขียวขจี เต็มไปด้วยต้นไม้ พุ่มไม้ผล และของป่าให้เก็บเกี่ยวมากมาย เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลเหมือนกับส่วนอื่น ๆ ของเมืองเปลิกันทาวน์ แต่สิ่งที่พิเศษคือแผนที่แห่งนี้มีวัชพืชที่ให้เมล็ดพันธุ์ปลูกได้ทุกฤดูกาล ซึ่งหาได้เฉพาะในมุมทั้งสี่ของแผนที่เท่านั้น!

นอกจากความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติแล้ว แผนที่ป่าลึกลับยังเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำฟาร์มอีกด้วย เพราะมีพื้นที่ให้ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และมีบ่อปลาที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลาหลากหลายชนิด โดยเฉพาะปลาบ่อและปลาแม่น้ำที่มีโอกาสจับได้สูงถึง 45% และยังมีโอกาสเจอปลาหายากอย่าง Woodskip ถึง 5% ด้วย

อันดับ 2 – Meadowlands Farm

Stardew Valley Farms Ranked

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำฟาร์มเป็นชีวิตจิตใจ แผนที่นี้ถือว่าตอบโจทย์สุด ๆ เพราะมาพร้อมกับไก่ฟรี ๆ ถึง 2 ตัว ซึ่งปกติแล้วต้องใช้เงินถึง 5,600 ทองในการซื้อ และยังมีหญ้าฟรี ๆ อีก 15 กำ ให้เราได้นำไปเลี้ยงไก่ทันที ทำให้เราสามารถเริ่มต้นทำฟาร์มได้อย่างรวดเร็ว และไม่ต้องเสียเวลาไปกับการขุดเหมืองเพื่อหาเงินมาซื้อไก่

นอกจากนี้ แผนที่ยังมีจุดเด่นอีกมากมาย เช่น หญ้าสีฟ้าที่สัตว์เลี้ยงชอบ ทำให้สัตว์ของเราอารมณ์ดีอยู่เสมอ และยังมีพื้นที่สำหรับปลูกพืชถึง 1,938 ช่อง ซึ่งถือว่ากว้างขวางมากพอที่จะปลูกพืชได้หลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีแม่น้ำที่สามารถตกปลาได้ และมีโอกาสได้ปลาบ่อสูงถึง 40% ทำให้เราสามารถทำทั้งฟาร์มและตกปลาไปพร้อมกันได้อย่างลงตัว

อันดับ 1 – Four Corners

Stardew Valley Farms Ranked

แผนที่สี่มุมนี้คือสวรรค์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำฟาร์มใน Stardew Valley เลยก็ว่าได้ เพราะรวบรวมจุดเด่นของแผนที่อื่น ๆ มาไว้ในแผนที่เดียว โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นสี่ส่วน แต่ละส่วนจะมีความพิเศษแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเหมืองสำหรับขุดแร่ ทะเลสาบสำหรับตกปลา ฟาร์มสำหรับปลูกพืช หรือป่าสำหรับเก็บของป่า ทำให้คุณสามารถทำกิจกรรมได้หลากหลายภายในแผนที่เดียว

นอกจากนี้แผนที่นี้มีพื้นที่สำหรับปลูกพืชถึง 2952 ช่อง เล่นคนเดียวก็สนุก เล่นหลายคนก็ดี เพราะเราสามารถแบ่งพื้นที่ให้แต่ละคนทำหน้าที่ที่แตกต่างกัน หรือจะสร้างกระท่อมเพิ่มเพื่อให้เพื่อน ๆ มาเล่นด้วยกันก็ได้ ทำให้แผนที่นี้เหมาะสำหรับการเล่นเกม Stardew Valley ทุกโอกาส

Stardew Valley วางจำหน่ายแล้วบน PlayStation 4, Xbox ONE, Nintendo Switch, PC และสมาร์ทโฟน โดยจะเป็นเกมแนวทำฟาร์มกราฟิก 16-bit ที่ให้เรารับบทเป็นชาวสวนมือใหม่ที่หนีความวุ่นวายจากในเมืองมาเริ่มต้นชีวิตในหุบเขาแสนสงบร่วมกับเพื่อนบ้านมากหน้าหลายตา ตัวเกมมาพร้อมกับฟีเจอร์การแต่งงาน ต่อสู้กับมอนสเตอร์ รวมไปถึงระบบ Multiplayer ให้ผู้เล่นร่วมกันสานฝันเกษตรกรผ่านระบบออนไลน์

ที่มา
screenrant

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button