
สวัสดีผู้อ่านเข้าสู่สกู๊ป อิ่มอรรถรส ครับ วันนี้ผมจาพาทุกท่านเข้าสู่โลกของ Mobius Final Fantasy กันนะครับ เรามาดูกันว่าเหตุการณ์ในตอนที่ 9 นี้จะเป็นอย่างไร มาติดตามกันได้เลยครับ
ความเดิมตอนที่ผ่านมา…เราคือบุคคลนิรนามที่ รู้แต่เพียงชื่อของตนเองเท่านั้น เข้ามายังพาลามีเซียโดยที่มีว็อกซ์เป็นผู้นำทางมา เมื่อเรามาถึงพาลามีเซียเราจะต้องมุ่งหน้าไปทางเหนือ ระหว่างทางเราได้ช่วยชีวิตม็อก และม็อกยินดีที่จะติดตามเราไปเพื่อตอบแทนบุญคุณพร้อมกับนำทางเราไปยังรูนิคเทมเพิล และมาถึงรูนิคเทมเพิล เราได้พบกับเจ้าหญิงซาร่า บุคคลที่มูเกิลเคยเรียกว่าดอกไม้แห่งความหวัง พร้อมกับได้รับพลังใหม่ที่เจ้าหญิงมอบให้
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ อิ่มอรรถรส : Mobius Final Fantasy ในตอนที่ 9 เอคโค่ เทพธิดาแห่งพาลามีเซีย
————————————————————————————————————–
หลังจากที่ได้พบกับเจ้าหญิงซาร่า (Sarah) และได้พลังใหม่มาแล้ว เราจึงใช้พลังใหม่นี้เทเลพอร์ตออกมาจากรูนิคเทมเพิล (Runic Temple) ระหว่างที่เรากำลังออกจากรูนิคเทมเพิลนั้น มีดวงไฟดวงน้อยๆ สีฟ้าอมเขียวลอยตามหลังเราออกมาจากวิหารอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข เสียง…เล็กๆ เหมือนกับเสียงผู้หญิง แสงนั้นจะลอยวนรอบตัวเรา

นั่นแสงอะไรน่ะ
Youryu : Who’s there?
นั่นใครน่ะ
Youryu : Probably just Vox keeping tabs on me again.
อาจจะเป็นว็อกส์แอบตามฉันมาอีกล่ะมั้ง
ม็อกจะหันกลับมาเพราะสงสัยว่าเราพูดถึงอะไร แต่ทันใดนั้นเองกลับเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น ม็อกกลับหยุดนิ่งเหมือนโดนหยุดเวลาค้างไว้ในอากาศ ดวงไฟดวงน้อยๆ สีฟ้าอมเขียว ลอยกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับน้ำเสียงผู้หญิงที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ในสิ่งที่เราพูดไป
??? : Don’t you dare insult me like that!
อย่ามาดูถูกชั้นแบบนั้นนะ
จากนั้นดวงไฟดวงน้อยๆ ดวงนั้นก็แสดงตนออกมา แท้จริงแล้วมันไม่ใช่ดวงไฟ แต่กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาด ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ทุกประการ เพียงแต่ตัวเล็กมาก และมีปีก 2 ข้างที่สยายอยู่ข้างหลังคล้ายปีกผีเสื้อ

Echo มาแล้วจ้า
Echo : Hello there, I’m Echo. Nice to meet you, and I suppose congratulations are in order!
สวัสดีจ๊ะ ชั้นชื่อเอคโค่ ยินดีที่ได้พบนายนะ และชั้นคิดว่าชั้นต้องแสดงความยินดีกับนายก่อนเป็นลำดับแรก
Youryu : Congratulations for what?
แสดงความยินดีสำหรับอะไร
Echo : For being chosen, silly.
สำหรับการได้ถูกเลือกไงจ๊ะ นายโง่
Echo : Lucky for you, I’m here to guide you.
โชคดีของนายแล้วล่ะ ชั้นมาที่นี่เพื่อนำทางนาย
Youryu : Thanks, but no thanks.
ขอบใจนะ แต่ไม่ดีกว่า
Youryu : I’ve had enough people offering to be my guide.
ฉันมีผู้คนเสนอตัวมาขอเป็นผู้นำทางเยอะแล้ว

ม็อกยังคงลอยค้างอยู่กลางอากาศ
Echo : Let me guess. Everyone telling you what to do without bothering to ask what you want?
ถ้าให้ชั้นเดาล่ะนะ ทุกคนคอยบอกว่านายต้องทำอะไร โดยที่ไม่คิดจะถามนายว่าต้องการอะไรใช่ไหมล่ะ
Echo : That’s destiny for you. You’ll just have to get used to it.
มันคือโชคชะตาของนาย นายต้องทำใจให้ชินกับเรื่องแบบนี้
Echo : It was destiny that put you here. And me alongside you.
มันคือโชคชะตาที่ทำให้นายมาอยู่ตรงนี้ และมีชั้นอยู่ข้างๆ นายไงล่ะ

ดูไปดูมาก็น่ารักดีนะ
Youryu : You’re not making any sense, and you’re not helping.
มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยนะ และเธอเองจริงๆ แล้วคงไม่ได้ช่วยอะไรฉันได้
Youryu : And you need to put some clothes on.
และเธอก็ควรจะสวมเสื้อซะ
Echo : Don’t worry, no one can see me but you. Come on, let’s be off then.
ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ไม่มีใครเห็นชั้นนอกจากนาย มาเถอะ ออกเดินทางกันได้แล้ว

แหน่ะ…บอกให้ไปใส่เสื้อให้ดี ยังมาบอกอีกว่ามีแค่เราคนเดียวที่มองเห็น แถมยังมาส่งจุ๊บให้อีก
หลังจากที่ส่งจุ๊บเสร็จเอคโค่ (Echo) ก็บินหายไป เราก็ได้แต่ถอนหายใจกับผู้ร่วมเดินทางใหม่อีกหนึ่งตน จากนั้นทุกสิ่งก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ม็อกค่อยๆ บินเข้ามาหาเราด้วยความสงสัย
————————————————————————————————————–
สำหรับในตอนที่ 9 – เอคโค่ เทพธิดาแห่งพาลามีเซีย จะมีสำนวนสำคัญๆ ดังต่อไปนี้ครับ keep tabs on, get used to, not make sense, no one … but …
————————————————————————————————————–
คำแรกของวันนี้ครับคือคำว่า keep tabs on จะแปลว่า ติดตาม, เฝ้าดู ครับ
ตัวอย่างการใช้นะครับ
My mother always keeps tabs on me, even on Facebook!
แม่ฉันคอยเฝ้าดูฉันตลอดเวลาเลย บนเฟสบุ๊คก็เหมือนกัน
————————————–
คำต่อมาคือคำว่า get used to เป็นการบอกให้ใครคนใดคนหนึ่ง เคยชิน กับบางสิ่งบางอย่าง
ตัวอย่างประโยคในการใช้สำนวนนี้ครับ
If you live in Bangkok, you must get used to the traffic jam.
ถ้าคุณอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ คุณต้องทำตัวให้ชินกับรถติดแล้วล่ะ
————————————–
คำต่อมาที่ผมจะนำเสนอก็คือคำว่า not make sense ครับ ความหมายจะออกไปในทางที่ว่าบางสิ่งบางอย่างที่อีกคนทำ หรืออีกคนพูดนั้นมัน ไม่สมเหตุผลสมผล เลย
ตัวอย่างประโยคในการใช้สำนวนนี้ครับ
What you’ve told me, it doesn’t make sense at all.
สิ่งที่คุณบอกฉันมา มันไม่สมเหตุสมผลอะไรเลย
————————————–
และคำสุดท้ายในวันนี้ เป็นคำที่หลายคนคุ้นหูจากเพลง Nobody ที่ร้องว่า Nobody Nobody but you! โดยคำที่ผมจะเสนอก็คือ no one … but … ซึ่งจะแปลว่า ไม่มีใคร…ยกเว้น… ซึ่งจะมีความหมายเหมือนกับ nobody … but … ครับ
ตัวอย่างการใช้นะครับ
It’s strange, no one want to do this job but you.
มันแปลกมากนะ ไม่มีใครอยากทำงานนี้หรอกยกเว้นนาย
————————————–
จบกันไปแล้วนะครับสำหรับตอนที่ 9 – เอคโค่ เทพธิดาแห่งพาลามีเซีย ในตอนนี้เราได้ผู้ร่วมเดินทางเพิ่มอีกตน แต่เอ๊ะ…ในเมื่อเอคโค่บอกว่าไม่มีใครเห็นเธอ แล้วจะเดินทางร่วมกันได้อย่างไร แล้วม็อกจะเห็นเธอไหม แล้วจริงๆ แล้วเธอเป็นใคร ไว้เรามาหาคำตอบกันในตอนหน้านะครับ แล้วมาพบกันใหม่ใน อิ่มอรรถรส สวัสดีครับ