ข่าวสกู๊ปพิเศษ

สื่อนอกเผย 8 จุดที่อยากให้ Final Fantasy VII Rebirth พัฒนาจากภาคก่อน

มีทั้งเรื่องของเควส, เนื้อหาที่ยืดเยื้อ ไปจนถึงรายละเอียดของเกมเพลย์

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจอย่างมากเมื่อมองว่าเกม Final Fantasy VII Rebirth ถูกเข็นออกมาให้เราได้เล่นกันหลัง Final Fantasy VII Remake เพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น โดยเกมดังกล่าวได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่จากภาคก่อน ทั้งระบบสำรวจ การต่อสู้ เนื้อหาเสริม และการมีส่วนร่วมของตัวละคร โดยในตอนนี้สื่อนอกอย่าง Gaming Bolt ก็ได้ออกมานำเสนอ 8 จุดที่อยากให้เกมภาคล่าสุดนี้อัปเกรดจากภาคก่อนหน้านี้

Final Fantasy VII Rebirth 8 Mistakes Players Hope to Avoid 1

1. เนื้อหาที่ยืดเยื้อไม่จำเป็น

เกม Final Fantasy VII Rebirth ถูกวางแผนให้มีเนื้อหาให้เล่นถึง 100 ชั่วโมง ด้วยภารกิจเสริมจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เนื้อเรื่องหลักใช้เวลานานประมาณ 40 ชั่วโมง เมื่อมองย้อนกลับไปผู้เล่นหลายคนก็บอกว่า Final Fantasy VII Remake นั้นบางช่วงก็ดำเนินเนื้อเรื่องช้าเกินไป (ออกแนวยืดยาด) แม้จะเริ่มต้นอย่างน่าตื่นเต้นก็ตาม ทำให้หลายคนกลัวว่าเกมภาคใหม่จะเจอปัญหาเดียวกัน ซึ่งเราก็ต้องมาลุ้นกันว่าภายในเกมนี้จะมีช่วงที่เนื้อเรื่องยืดเยื้อหรือไม่

2. บอสรีเกจสถานะ Stagger

ต้องยอมรับว่าการต่อสู้กับบอสภายในเกม Final Fantasy VII Remake เป็นสิ่งที่ท้าทายผู้เล่นเป็นอย่างมาก โดยผู้เล่นจะต้องทำการโจมตีพวกมันอย่างต่อเนื่อง จนพวกมันติดสถานะ Stagger เราถึงจะทำดาเมจได้มากอย่างที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้เล่นหลายคนส่ายหัวเลยก็คือ เมื่อบอสทำการเปลี่ยนเฟสหลังจากที่แถบ HP ลดไปถึงที่กำหนด โดยสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดก็คือการที่บอสเปลี่ยนเฟสในจังหวะที่เราเพิ่งทำให้มันติดสถานะ Stagger ซึ่งผู้เล่นหลายคนก็คาดหวังว่าภายในเกมล่าสุดศัตรูจะยังติดสถานะ Stagger อยู่แม้ว่าบอสจะเปลี่ยนเฟสแล้วก็ตาม

Final Fantasy VII Rebirth 8 Mistakes Players Hope to Avoid 2

3. ภารกิจที่แอบง่ายไปนิด

ระบบภารกิจภายในเกม Final Fantasy VII Remake นี้ก็ถือว่าได้รับคำชมไม่น้อย อย่างไรก็ตามหลาย ๆ ภารกิจนั้นกลับสร้างความวุ่นวายให้กับผู้เล่นด้วยความยาวเควสที่ค่อนข้างเยอะ แต่ที่ผู้เล่นรู้สึกเฟลล์เล็กน้อยก็คือเควสเหล่านั้นแอบง่ายจนเกินไปทำให้ขาดความท้าทาย ซึ่งก็น่าสนใจว่าถ้าเควสภายในเกมใหม่นี้ถูกทำออกมาให้สมดุลมากขึ้นก็น่าจะถูกใจแฟนเกมมากขึ้นตามไปด้วย

4. การปรับแต่งตัวละครที่แอบจำกัดไปนิด

การปรับแต่งตัวละครของ Final Fantasy VII Remake ครอบคลุมไปถึงการเพิ่มเลเวลและฝึกฝนอาวุธเพื่อปลดล็อคค่าโบนัสสถานะ รวมไปถึงความสามารถเฉพาะตัว รวมไปถึงผู้เล่นสามารถสวมใส่อาวุธ และ Materia ได้ แต่เอาตามตรงก็คือมันยังดูน้อยเกินไปเสียหน่อย มันจะดีกว่านี้ถ้าผู้เล่นสามารถปรับแต่งตัวละครได้มากขึ้น ซึ่งเราก็ต้องดูกันว่านอกเหนือจากระบบ Folios แล้ว Final Fantasy VII Rebirth จะยังมีระบบอื่น ๆ มาให้ได้ใช้งานอีกหรือไม่ครับ

Final Fantasy VII Rebirth 8 Mistakes Players Hope to Avoid 3

5. หน้าจอการโหลดมากเกินไป

สิ่งหนึ่งที่ผู้เล่น Final Fantasy VII Remake แอบแซวมาตลอดก็คือการแอบโหลดหน้าจอที่ผู้เล่นจะต้องมุดผ่านช่องว่างเพื่อทำการโหลดแผนที่ ซึ่งภายในเกมดังกล่าวก็มีการแอบโหลดอยู่มากพอสมควร แต่ล่าสุดทางผู้พัฒนาเกมได้ออกมาบอกว่า Final Fantasy VII Rebirth จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สำรวจภูมิภาคต่าง ๆ ได้แบบไร้รอยต่อ ซึ่งเราก็ต้องมาดูกันว่าทางผู้พัฒนาจะทำได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่

6. เนื้อหาเป็นเส้นตรงมากเกินไป

แม้จะมีด่านอันเป็นเอกลักษณ์หลายแห่ง ตั้งแต่การเปิดเตาปฏิกรณ์ ไปจนถึงการปีนขึ้นไปถึงแผ่น Sector 7 หรือการแทรกซึมสำนักงานใหญ่ Shinra แต่ความเป็นเส้นตรงของบางส่วนใน Final Fantasy VII Remake ยังคงมีพื้นที่ให้ความสร้างสรรค์ที่มากกว่านี้ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือท่อระบายน้ำ ซึ่งถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าเบื่อหน่ายกับทางเดินที่วนซ้ำไปซ้ำมาซึ่งเราก็ต้องมาดูกันว่าความเป็น Open World ของเกมภาคล่าสุดนี้จะทำให้ความรู้สึกของผู้เล่นเปลี่ยนไปหรือไม่

Final Fantasy VII Rebirth 8 Mistakes Players Hope to Avoid 4

7. ดีไซน์ด่านต่าง ๆ ใน Final Fantasy VII Rebirth

ด้วยโลกที่กว้างขึ้นและเนื้อหาเสริมมากมายใน Rebirth ผู้เล่นคาดหวังถึงดีไซน์ด่านที่ยอดเยี่ยมขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เสริม ตัวอย่างเกมเพลย์ล่าสุดเผยให้เห็นด่านที่ผู้เล่นสามารถต่อสู้กับมนต์อสูรต่าง ๆ อย่าง Alexander และศัตรูที่แข็งแกร่งมากมาย ซึ่งหากด่านเหล่านี้มีปริศนาที่ท้าทายและกลไกที่ต้องคิดนอกกรอบ ก็จะถือเป็นการพัฒนาที่ดีกว่า Remake ซึ่งทาง Gaming Bolt ได้มองไว้ว่าด่านเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องจบด้วยการต่อสู้แบบอลังการเสมอไป รวมไปถึงด่านเสริมทั้งหมดก็ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนมากเกินไป แต่คาดหวังว่าจะไม่จำเจจนน่าเบื่อ

8. ปัญหาด้านกราฟิก

Final Fantasy VII Remake เวอร์ชั่น PS4 เคยโดนตำหนิเรื่องพื้นผิวดินน้ำมัน ซึ่งได้รับการแก้ไขใน Intergrade บน PS5 พร้อมกับฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น เอฟเฟกต์โวลูเมตริกที่สวยงามขึ้น และดูเหมือนว่าเกมภาคล่าสุดเองก็ดูเหมือนว่ากราฟิกจะถูกอัปเกรดขึ้นอย่างก้าวกระโดดไม่ว่าจะเป็นขนาดของฉาก จำนวนต้นไม้ หรือรายละเอียดต่าง ๆ อย่างไรก็ตามโหมด Performance ในเกม Demo ถูกติงเรื่องภาพเบลอเกินไป ซึ่งทีมพัฒนาได้ทำการแก้ไขในอัปเดตล่าสุดแล้ว อย่างไรก็ตามเราก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าในเกมเวอร์ชั่นเต็มเราจะเจอปัญหากราฟิกอีกหรือไม่

Final Fantasy VII Rebirth เกมภาคต่อของ Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่าย 29 ก.พ. 2024 บน PlayStation 5 ผู้เล่นจะได้ติดตามการผจญภัยของ Cloud และผองเพื่อนเพื่อตามล่า Sephiroth บนแผนที่ที่มีสเกลใหญ่ขึ้น พร้อมสำรวจประวัติเบื้องหลังของตัวละครต่าง ๆ เกมมีทั้งหมด 2 แผ่น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะว่าการผจญภัยในครั้งนี้จะยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน!

ที่มา
gamingbolt

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button