เผยเบื้องหลังสุดฮาในการออกแบบแผนที่ของเกม Momotaro Dentetsu

เกมเมอร์สายญี่ปุ่นคงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักแฟรนไชส์ดังอย่าง Momotaro Dentetsu เกมเศรษฐีที่แม้จะไม่ได้มีการวางจำหน่ายในต่างประเทศ แต่แค่เพียงยอดจำหน่ายในประเทศก็ถือว่าถล่มทลายประสบความสำเร็จแล้วและนับตั้งแต่เกือบ 40 ปีที่ผ่านมา ก็มีเกมภาคใหม่ออกมาให้เล่นกันต่อเนื่องจนถึงยุคปัจจุบันเลยทีเดียว ล่าสุดก็มีการเปิดเผยถึงเรื่องราวเบื้องหลังการออกแบบแผนที่ในเกมที่ทำให้หลายคนอาจต้องฮาท้องคัดท้องแข็ง

มีไวรัลหนึ่งจากญี่ปุ่นที่มีผู้เข้าชมมากกว่า 10 ล้านครั้ง เมื่อผู้ใช้งานคนหนึ่งชื่อว่า Tayuru บนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม X ได้กล่าวว่าเขาเคยได้ยินมาก่อนว่าการออกแบบแผนที่ของเกมนี้นั้นไม่ได้เป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนอะไรเลย แต่มันเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ตรงของผู้สร้างแฟรนไชส์นี้อย่างคุณ Akira Sakuma ที่มีโอกาสนั่งรถไฟสายต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ทว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่โครงสร้างแผนที่ในเกมที่เป็นรูปทรงประเทศญี่ปุ่นอย่างเดียว

Tayuru กล่าวว่ามีข่าวลือว่าที่จริงแล้วคุณ Akira เลือกที่จะวาง ‘ช่องสีแดง’ หรือช่องที่ทำให้ผู้เล่นที่ทอยลูกเต๋าไปโดนแล้วเสียเงิน โดยพิจารณาจากการเดินทางของสถานีต่างๆ นั่นเอง และไม่นานเจ้าตัวก็ไปเจอหลักฐานพร้อมนำมาโพสต์ด้วยว่าเป็นเรื่องจริง เช่น ภายในเกมจะเห็นว่าช่องของนางาซากิเป็นช่องแดง นั่นก็เป็นเพราะตอนที่คุณ Akira นั่งรถไปเที่ยวนางาซากิ ดันเจอนกมากระพือปีกใส่ตลอดทางจนรู้สึกรำคาญนั่นเอง เรียกได้ว่าความแค้นส่วนตัวล้วนๆ

เห็นแบบนี้แล้วหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าบางทีหลายๆ จุดที่เป็นสีแดงอาจเป็นเพราะคุณ Akira อาจจะนั่งรถไฟไปแล้วเจอเรื่องไม่ดี เช่นกับข้าวแพง หรือรถกระตุกอะไรก็แล้วแต่ ทั้งนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าเป็นวิธีการออกแบบแผนที่ที่สร้างสรรค์มากจนเหนือจินตนาการเลยทีเดียว (ฮา) สำหรับใครที่เคยเล่นเกมนี้แล้วมีความทรงจำอะไรก็ลองมาแลกเปลี่ยนกันดูกับพวกเรา ThisIsGame Thailand นะครับ

เกี่ยวกับ Momotaro Dentetsu ภาคใหม่

ปัจจุบันเกมได้ดำเนินมาถึงภาคที่ 24 แล้วในชื่อ Momotaro Dentetsu World: Chikyuu wa Kibou de Mawatteru! โดยภาคนี้จะไม่ได้ใช้แผนที่แบบประเทศญี่ปุ่นอีกต่อไป และเปลี่ยนมาเป็นการนั่งเครื่องบินรอบโลกทีเดียวครับ ซึ่งผู้เล่นจะต้องรับบทเป็นตัวละครต่างๆ เพื่อถือครองกรรมสิทธิ์ในสถานที่ต่างๆ และเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งให้ได้ พร้อมรองรับระบบออนไลน์บน Nintendo Switch สูงสุดถึง 4 คน