รวมเกมต่อสู้ซูเปอร์ฮีโร่ปะทะนักสู้จากค่าย CAPCOM ยุค 90

พูดถึงเหล่าซูเปอร์ฮีโร่แล้วมั่นใจได้เลยว่าแฟนคลับต้องรู้จักค่าย Marvel Comics กันถ้วนทุกคนด้วยกองทัพยอดมนุษย์ที่มีพลังพิเศษมากมายทั้ง Spider-Man หรือไอ้แมงมุม, Captain America ฮีโร่สุดแกร่งในชุดสีฟ้า หรือจะเป็นกลุ่ม X-Men โดยในยุค 90 ที่แนวเกมต่อสู้กำลังรุ่งเรืองทางค่ายก็ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ CAPCOM ผู้พัฒนาเกมรายใหญ่จากญี่ปุ่นในการผลิตเกมมากมาย

ดีลครั้งนี้เริ่มต้นด้วยผลงานเกมแนว Beat ’em Up บนตู้อาร์เคดอย่าง The Punisher ที่ให้เรารับบทเป็นอดีตนาวิกโยธิน Frank Castle ที่สวมบทบาทเป็นชายชุดดำลายกระโหลกที่ออกเดินทางแก้แค้นกลุ่มมาเฟียในการ์ตูนชุดเดียวกัน ก่อนที่จะเริ่มพัฒนาเกมต่อสู้เกมแรกในปี 1994 โดยเป็นเกมจากการ์ตูนชุด X-Men ที่กำลังอนิเมชั่นฉายอยู่ทางโทรทัศน์ ซึ่ง CAPCOM ได้ดึงเหล่านักพากย์มาร่วมงานในโปรเจ็คนี้ด้วย แต่ก่อนจะไปถึงเกมครอสโอเวอร์จักรวาลฮีโร่และนักสู้ก็ขอเชิญทำความรู้จักกันตามไทม์ไลน์เลยดีกว่า

1. X-Men: Children of the Atom

ผลงานเกมไฟท์ติ้งเกมแรกสุดโดย CAPCOM ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเนื้อเรื่องช่วง Fatal Attractions ในการ์ตูนรูปเล่มระหว่างปี 1993 ผู้เล่นจะต้องต่อกรกับ Magneto บอสวายร้ายผู้ต้องการปล่อยคลื่นสนามแม่เหล็กเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับโลกไปใบนี้ ตัวละครในเกมมีทั้งสิ้น 12 คนให้เลือกใช้แบ่งเป็นฝ่ายธรรมะและอธรรมฝั่งละ 6 คนเท่าๆ กัน พร้อมกันนี้ในสัญญาร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ได้ระบุว่า CAPCOM สามารถใส่ตัวละครจากเกม Street Fighter มาได้ และหวยก็ลงที่ Akuma 

เกมเพลย์สำหรับภาคนี้จะอ้างอิงมาจาก Street Fighter II และ Darkstalkers ที่ให้เราต่อสู้กับศัตรูแบบตัวต่อตัว พร้อมเก็บสะสมเกจพลัง X-Power เพื่อนำมาปล่อยท่าไม้ตายที่เรียกว่า X-Ability หรือ Hyper X ที่เป็นท่าขั้นสุดยอด นอกจากนั้นแล้วยังมีเทคนิคการหลบหลีกที่แฟนซีมากกว่าเกมต่อสู้ทั่วไป และยังพุ่งตัวเพื่อเข้าไปทำคอมโบกับคู่ต่อสู้ต่อหลังจากโจมตีไปสักพักได้อีกด้วย

2. Marvel Super Heroes

สานต่อความสำเร็จของ X-Men ด้วยการอัปสเกลมาเป็นการรวมดาวฮีโร่จากทั้งค่าย Marvel กันไปเลย โดยคราวนี้จะมีตัวละครจาก X-Men มาทั้งสิ้น 4 ตัวที่จะมาร่วมผจญภัยและตามล่า Thanos เพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามครั้งใหม่ ซึ่งเนื้อหาจะเกี่ยวกับการตามหาอัญมณีและถุงมือ Infinity Gauntlet ที่เป็นกุญแจสำคัญในการครองโลกของ Thanos สำหรับตัวละครใหม่ๆ ก็จะเป็น Captain America, Spider-Man, Iron Man และ The Hulk รวมไปถึงตัวร้ายอย่าง Doctor Doom และ Shuma-Gorath

เช่นเดียวกับ X-Men: Children of the Atom เกมเพลย์ของภาคนี้ยังเป็นแบบหนึ่งต่อหนึ่ง แต่นอกเหนือจากเกจ Super Meter สำหรับการทำคอมโบแล้ว ยังมีองค์ประกอบใหม่ที่เพิ่มเข้ามานั่นก็คือ Infinity Gems หรืออัญมณีที่เก็บขึ้นมาสะสมได้ในระหว่างการต่อสู้ (ตบกันจนเพชรร่วง) โดยการใช้งานอัญมณีจะทำให้ตัวละครสามารถเพิ่มพลังตัวเอง และบัฟความสามารถได้ตามคุณสมบัติของมัน อีกทั้งตัวละครบางตัวที่ใช้อัญมณีตามที่กำหนดได้ถูกต้องจะได้รับทักษะพิเศษด้วยเหมือนกัน

3. X-Men vs. Street Fighter

ในระหว่างที่พัฒนาเกม Street Fighter Alpha อยู่ CAPCOM เกิดปิ๊งไอเดียเด็ดๆ ขึ้นมาหลังจากที่นำฟีเจอร์การต่อสู้แบบประสานมาใส่ในเกมดังกล่าว จึงตัดสินใจเริ่มต้นลุยโปรเจ็คต่อไปทันที โดยคราวนี้ได้นำสองจักรวาลฮีโร่และเกมต่อสู้ชื่อดังของตัวเองโคจรมาปะทะกันในศึกการต่อสู้แบบ 2v2 แท็กทีม รวมตัวละครทั้งสิ้น 17 ชีวิตให้เลือกสรร ซึ่ง X-Men ได้เพิ่มตัวละครใหม่มาสามคนคือ Rouge, Gambit และ Sabretooth ในขณะที่ฝั่ง Street Fighter ได้เลือกมาจากเกมภาค Alpha 2

อย่างที่ทราบกันดีว่าเกมนี้เป็นเกมแรกที่นำระบบ 2v2 มาใช้ ผู้เล่นจะสามารถเลือกตัวละครได้สองคนเพื่อจับกลุ่มเป็นทีมและเผชิญหน้ากัน โดยในสนามจะมีตัวละครเพียงคนเดียวแต่สามารถแท็กทีมออกมาสู้แทนหรือต่อคอมโบกันได้ตลอด ซึ่งระหว่างที่กำลังพักอยู่นอกเวทีจะสามารถฮีลตัวเองได้ สำหรับการวัดผลแพ้ชนะนั้นเกมจะจบลงเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต่อสู้จนพลังชีวิตหมดหลอดทั้งสองคน ส่วนเกมเพลย์ก่อนจะมีระบบกระโดดที่สูงขึ้นแบบแฟนตาซีกว่าเกม Street Fighter ทั่วไปเพราะอิงกับจักรวาล Marvel เป็นหลัก อย่างไรก็ตามฝั่ง PlayStation 1 ที่มี RAM น้อยกว่าจะไม่สามารถใช้ระบบแท็กทีมได้

4. Marvel Super Heroes vs. Street Fighter

เมื่อเอา X-Men มาปะทะกับ Street Fighter ได้แล้ว ทำไมก๊วนอื่นจากเครือ Marvel จะมาร่วมแจมบ้างไม่ได้จริงไหมครับ คราวนี้ผู้เล่นจะได้จับกลุ่มกับตัวละครฝั่ง Marvel กับเขาบ้างแล้วเหมือนกัน แต่ก็ต้องแลกกับตัวละคร X-Men ที่คัดออกมาเหลือแค่ Wolverine กับ Cyclops ในขณะที่ฝั่ง Street Fighter ทำการเปลี่ยนตัว Cammy กับ Nash เป็น Sakura และ Dan แทน กระนั้นแล้วนอกจากตัวละครจากสองจักรวาลนี้ยังเพิ่ม Norimaro ที่เป็นตัวละครพิเศษออกแบบโดยตลกชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นด้วย ทว่า Norimaro จะอยู่ในเกมเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น

เกมเพลย์ของภาคนี้เป็นแบบ 2v2 เหมือนเดิมแต่ใส่ระบบแท็กทีมอีกแบบเข้ามาด้วยเรียกว่า Assist ที่เราสามารถเรียกตัวละครคู่หูออกมาช่วยโจมตีได้ในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อทำคอมโบหรือเปิดช่องโหว่ของคู่ต่อสู้ให้กับเรา และภายหลังระบบ Assist นี้ก็ได้เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของเกมซีรี่ส์ Marvel Vs. CAPCOM ไปโดยปริยาย และเช่นเดียวกับ X-Men vs. Street Fighter ตัวเกมเวอร์ชั่น PS1 ไม่มีระบบแท็กทีมมาให้ด้วยเหตุผลเรื่อง RAM เหมือนเดิม

5. Marvel vs. CAPCOM: Clash of Super Heroes

ปิดท้ายด้วยโปรเจ็คขนาดมหึมาที่สุดที่กลายเป็นรากฐานให้กับเกมครอสโอเวอร์ภาคหลังๆ ซึ่งจุดเด่นก็คือมีการนำตัวละครจากทั้งสองค่ายมาต่อสู้กันแบบ 2v2 ทั้ง Street Fighter, Darkstalker หรือแม้กระทั่ง Rockman ที่เอาเจ้าหนูหุ่นยนต์สีฟ้าพ่วงด้วยน้องสาวอย่าง Roll มาร่วมรบกับเขาเหมือนกัน นอกจากนั้นแล้วยังมีตัวละครอีกกว่า 20 ตัวที่สามารถเลือกไว้เป็นตัวละครพิเศษที่ใช้แท็กทีมแบบ Assist โดยเฉพาะ ทั้งนี้ระบบ Assist จากคู่หูที่สามารถเลือกเล่นได้ก็ถูกตัดทิ้งไปตามระเบียบ

โปรเจ็คนี้นับว่าเป็นการครอสโอเวอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพราะผู้เล่นไม่ได้ถูกจำกัดไว้เพียงแค่ซีรี่ส์ Street Fighter แล้ว แต่ตัวละครจากเกมแนวแอคชั่นผจญภัยก็ได้มาแจมกับเขาด้วย และถึงแม้ระบบ Assist แบบเดิมจะถูกแทนที่ด้วยตัวละครกลุ่มพิเศษแทน แต่กลับกันผู้เล่นสามารถซัมมอนคู่หูออกมาใช้ท่าต่ออัลติเมทแบบประสานอย่างอลังการงานสร้างกว่าที่เคย ซึ่งเกมเวอร์ชั่น PS1 ที่ปกติแล้วไม่มีการแท็กทีมก็จะสามารถใช้งานได้ผ่านโหมดที่เรียกว่า Cross Over เป็นครั้งแรกด้วย (แต่จำเป็นต้องต่อสู้กับตัวละครเซ็ตเดียวกัน)

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเกมซีรี่ส์ Marvel vs. CAPCOM ในยุค 90 นั่นเอง โดยเกมเหล่านี้ได้มีการวางจำหน่ายให้กับเครื่องเล่น PlayStation 1 กันครบทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าแฟนๆ หลายคนคงมีโอกาสได้เล่นกันไปแล้วใช่ไหมครับ สำหรับใครที่ชื่นชอบเกมภาคไหนเป็นพิเศษก็อย่าลืมมาแบ่งปันความประทับใจกับพวกเรา ThisIsGame Thailand กันด้วย และถ้าหากมีข่าวสารความคืบหน้าที่น่าสนใจเมื่อไหร่ก็จะไม่พลาดมาแบ่งปันที่นี่อีกเช่นเคยครับ