สกู๊ปพิเศษ

8 เกมที่เปิดโอกาสให้เราได้เล่นเป็นวายร้าย

ลองเปลี่ยนบรรยากาศจากคนดี มาเป็นคนชั่วดูบ้าง

ในโลกของวิดีโอเกม การที่เราได้รับบทเป็นผู้กล้าออกเดินทางเพื่อกอบกู้โลก หรือจะเป็นฮีโร่ ที่พร้อมออกมากำจัดวายร้ายและผดุงความยุติธรรม ในบางครั้งมันก็อาจจะทำให้ผู้เล่นบางกลุ่มเกิดความคิดว่า จะมีเกมไหนบ้างรึเปล่าที่ให้เราสามารถรับบทเป็นตัวร้ายดูบ้าง เพราะบางทีการเป็นคนดี มันก็ดูน่าเบื่อและจำเจจนเกินไป ซึ่งตัวของผมเองก็มีความคิดแบบนี้เช่นกัน วันนี้จึงขอถือโอกาสรวบรวม 8 เกมที่เราได้รับบทเป็นตัวร้ายมาให้อ่านกัน จะมีเกมอะไรบ้างนั้นไปเริ่มกันเลย


1. Grand Theft Auto Series

8 เกมที่เปิดโอกาสให้เราได้เล่นเป็นวายร้าย


จะเริ่มทั้งทีก็ต้องเริ่มจากพี่ใหญ่แห่งวงการอย่างเกม GTA ที่ไม่ว่าจะออกมากี่ภาค ตัวเกมก็ยังนำเสนอโลกในมุมมืดตั้งแต่ การรับจ้างฆ่าคน, การค้ายา/มนุษย์ หรือการปล้นสะดมต่างๆ ที่นำเสนอออกมาในรูปแบบของภารกิจที่จะมีให้เราเล่นแทบจะทุกภาค และตัวละครที่เราได้สวมบทบาทนั้น ก็ล้วนแล้วมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำสีเทาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Niko Belic ตัวเอกจากเกมภาค 4 ที่ต้องการมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่กรุง Liberty City แต่ท้ายที่สุดก็ต้องเข้าไปพัวพันกับด้านมืดของสังคมอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือจะเป็นตัวเอกสามหน่อจาก GTA V ทั้ง Micheal, Trevor และ Flanklin ที่ต้องร่วมหัวจมท้ายทำเรื่องไม่ดีต่างๆ นานา เพื่อเอาตัวรอดในโลกของอาชญากร แต่ต่อให้ถ้าคุณเล่นแบบไม่แคร์เนื้อเรื่อง ตัวเกมมันก็เปิดโอกาสให้เราสามารถวิ่งไล่ยิงชาวบ้าน, ขับรถชนตำรวจ หรืออะไรก็ตามที่ผิดกฎหมายได้อย่างอิสระ เรียกได้ว่าถ้าคุณเบื่อที่จะเล่นเป็นคนดีแล้ว GTA ก็คงเป็นเกมอันดับต้นๆ ที่คุณคิดถึงแน่นอน


2. Overlord 2

8 เกมที่เปิดโอกาสให้เราได้เล่นเป็นวายร้าย


บางทีการเล่นเป็นผู้กล้าเพื่อขึ้นต่อกรกับจอมมารที่จะยึดครองโลก สำหรับเกมเมอร์บางคนก็คงจะรู้สึกว่าดูซ้ำๆ เดิมๆ ไปหน่อย เพราะนี่มันเป็นการวางพล็อตเรื่องเกมผจญภัยที่เห็นได้อยู่ทั่วไป แต่สำหรับเกม Overlord 2 นั้นผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็นจอมมารเสียเอง โดยตัวเกมเพลย์ของ Overlord 2 ก็จะให้อารมณ์เกมแนว Action-RPG ทั่วไป แต่ถึงอย่างนั้นตัวเกม ก็ได้มีการใส่กิมมิค อย่างการที่ตัวละครของเราจะมีลูกสมุนหรือ Minion ที่เราสามารถเรียกใช้มันได้ระหว่างการผจญภัยของเรา ตั้งแต่สั่งมันให้แก้ปริศนาให้เรา ไปจนถึงเป็นการกองทัพเพื่อเข้าต่อกรกับเผ่ามนุษย์ภายในเกม แถมเจ้าลูกสมุนของเราก็มีให้เลือกใช้หลายประเภทตามสไตล์การเล่นของเราอีกต่างหาก พูดได้เลยว่าถ้าคุณกำลังเบื่อกับการเล่นเป็นผู้กล้าช่วยโลก แล้วอยากมายึดครองโลกในฐานะจอมมาร Overlord 2 เป็นอีกหนึ่งเกมที่รอให้คุณมาสอยไปเล่นอยู่นะครับ

3. Evil Genius

8 เกมที่เปิดโอกาสให้เราได้เล่นเป็นวายร้าย


ถ้าการยึดครองโลกในดินแดนแฟนตาซีมันยังไม่ตอบโจทย์คุณแล้วล่ะก็ ผมขอแนะนำEvil Genius อีกหนึ่งเกมแนวสร้างฐานทัพที่มีความคล้ายคลึงกับเกมสร้างดันเจี้ยนอย่าง Dungeon Keeper แต่ตัวเกมจะเปลี่ยนจากการสร้างดันเจี้ยนมาเป็นฐานทัพวายร้ายแทน โดยนอกจากเราจะต้องทำการสร้างฐานทัพแล้วเนี่ย เราก็จำเป็นต้องทำการบริหารบุคลากรวายร้ายของเรา ไปจนถึงการตั้งกับดักต่างๆ ภายในฐาน เพื่อไม่ให้แผนการอันชั่วร้ายของเราถูกขัดขวางได้ หากใครกำลังมองหาเกมสายสร้างฐาน แต่ต้องการอะไรที่สดใหม่แล้วล่ะก็ Evil Genius ก็เป็นเกมที่น่าหยิบมาลองใช่ย่อยนะครับ (แถมตัวเกมยังจะมีการปล่อยตัว ภาค 2 ออกมาอีกด้วยนะครับ)

4. Postal

8 เกมที่เปิดโอกาสให้เราได้เล่นเป็นวายร้าย

ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์จากฝั่ง PC คุณอาจจะเคยได้ยินชื่อของเกมซี่รี่ส์นี้อยู่บ้างนะครับ โดยตัวเกมที่ผมหยิบยกขึ้นมาก็จะเป็น Postal ภาคแรกที่เป็นเกมเดินยิงมุมมองจากด้านบน (Isometric) ซึ่งประเด็นหลักของเกมมันอยู่ที่การผ่านภารกิจในแต่ละฉากและบังคับให้เราจำเป็นต้องฆ่าคนที่อยู่ในฉากให้ครบจำนวน ไม่งั้นก็ผ่านฉากไม่ได้ ทำให้ในช่วงที่เกมออกวางจำหน่าย Postalเรียกได้ว่าโดนเพ่งเล็งอยู่ไม่น้อย เนื่องจากตัวเกมมันนำเสนอในด้านความรุนแรงออกมาค่อนข้างชัดเจนและสุดโต่ง แต่ถึงกระนั้น Postal มันก็สามารถตอบโจทย์ผู้เล่นที่กำลังมองหาเกมที่เราสามารถรับบทเป็นตัวร้ายได้ดีเลยล่ะครับ (แต่ตอนเล่นโปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะครับ)

5. Infamous Series

8 เกมที่เปิดโอกาสให้เราได้เล่นเป็นวายร้าย


มาต่อกันที่ซี่รี่ส์เกมที่จะให้ตัวผู้เล่นมีพลังพิเศษได้คล้ายๆ กับซูเปอร์ฮีโร่ที่หลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนคอมมิคกับเกม Infamous โดยภายในตัวเกมมีจุดเด่นตรงที่ระบบค่า Karma หรือค่าความดีความชั่ว ที่จะเพิ่มหรือลดก็ขึ้นอยู่การกระทำของผู้เล่น ที่มันเป็นเรื่องละเอียดเล็กๆ ตั้งแต่การไม่ฆ่าศัตรู, การใช้พลังช่วยเหลือประชาชน ไปจนถึงการตัดสินใจใช้พลังในทางที่ดีหรือในทางที่ผิด ตัวเกมก็จะมีให้คุณได้เลือกเสมอ ทำให้เกมการเล่นมีตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณอยากจะเป็นฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมคุณก็สามารถเล่นได้ แต่ถ้าคุณอยากเป็นวายร้ายผู้ใช้พลังเพื่อตัวเองคุณก็ทำได้อีกเช่นกัน แถมพลังของสายดีและสายชั่วก็มีความโดดเด่นต่างกันอีก ทำให้เกมน่ากลับไปเล่นวนอีกหลายๆ รอบ เพื่อลองใช้พลังของทั้งสองฝ่ายให้ครบ หากใครกำลังมองหาเกมที่คุณเป็นผู้ใช้พลังและสามารถเล่นเป็นตัวร้ายได้ Infamous ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่เลวเลยครับ

6. Undertale

8 เกมที่เปิดโอกาสให้เราได้เล่นเป็นวายร้าย

สำหรับเกม Undertale จะมีความคล้ายคลึงกับเกมก่อนหน้าอย่าง Infamous อยู่เล็กน้อยครับ ก็คือการเป็นตัวร้ายในเกมนั้นจะเป็น “ ทางเลือก “ ที่เกมมีให้ และมันก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าจะเดินทางสายสว่าง หรือเดินสายตัวร้ายที่แสนจะมืดหม่น แต่ความเจ๋งของ Undertale นั้นก็คือมันไม่ได้มีการบอกเราว่า ตอนนี้ค่าความดี/ความชั่วเราสูงหรือต่ำขนาดไหน แต่ตัวเกมจะใช้จำนวนการฆ่าศัตรูในเกมเป็นมาตรวัดความชั่วของเรา ซึ่งทุกตัวละครที่มีอยู่ในเกม Undertale จะสามารถโดนเราฆ่าได้หมดทุกตัว และถ้าเราเลือกที่จะเล่นทางนี้ นอกจากเราจะต้องเจอฉากจบที่เศร้าเอามากๆ แล้ว แถมยังมีฉากหลอนๆ ออกมาให้เราเห็นอีกต่างหาก ซึ่งถ้าใครสนใจว่าเนื้อเรื่องเกมมันเป็นอย่างไร ผมขอแนะนำให้คุณไปลองเล่นด้วยตัวเองครับ เพราะเกมเขาดีจริงๆ ไม่ได้โม้นะเออ


7. Manhunt Series

8 เกมที่เปิดโอกาสให้เราได้เล่นเป็นวายร้าย


เกมซี่รี่ส์ Manhunt น่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมจากทาง Rockstar Games ที่มีความเถื่อนและโหดดิบมากที่สุดเกมหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งจุดเด่นของเกมตระกูลนี้ นอกจากเนื้อเรื่องที่มืดหม่นชวนให้เราจิตตกแล้วเนี่ย ตัวเกมยังนำเสนอความรุนแรงจากการเปิดโอกาสให้เราสามารถฆ่าศัตรูด้วยวิธีต่างๆ นานาที่แต่ละอันทั้งโหด, ดิบ และชวนแหวะเอามากๆ

ถึงแม้ภาพกราฟิกของเกมไม่ได้มีความสมจริงมากเท่ากับเกมในปัจจุบัน แต่ก็ยังคงมีการแสดงภาพและเนื้อหาที่มันรุนแรงเอามากๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ Manhunt ไม่ได้รับการสานต่อหลังจากตัวเกมภาค 2 ออกวางจำหน่าย แต่อย่างไรก็ดีเกมตระกูล Manhunt ก็สามารถนำเสนอมุมมองของตัวละครที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับความดีได้อย่างชัดเจนอีกหนึ่งเกม

8. Destroy All Humans! Series

8 เกมที่เปิดโอกาสให้เราได้เล่นเป็นวายร้าย

ถ้า Manhunt มันเครียดเกินไป ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศกับเกม Destryo All Humans! กันดู โดยเกมนี้จะให้เราได้สวมบทบาทเป็นเจ้าเอเลี่ยนตัวเปี๊ยกนามว่า Crypto ที่ต้องเดินทางมารุกรานดาวโลก เพื่อเก็บเกี่ยวสมองของมนุษย์มายืดอายุให้กับเผ่าพันธุ์ของตัวเอง และแอบเข้ามาแทรกแซงเหตุการณ์ต่างๆ ในโลกมนุษย์อย่างเงียบๆ ถึงแม้เนื้อเรื่องจะฟังดูน่ากลัว แต่ตัวเกมก็สามารถนำเสนอออกมาได้อย่างดีเยี่ยม และไม่มีความดาร์กเลยแม้แต่นิด (ออกจะตลกๆ ด้วยซ้ำ) ด้วยภาพกราฟิกที่มีความน่ารัก, บทพูดที่ตลกขบขัน, เกมเพลย์ที่สนุกและเบาสมองทำให้เกมซี่รี่ส์ Destryo All Humans! จึงได้กลายเป็นเกมที่เกมเมอร์หลายคนต่างหลงรักในเสน่ห์ของมัน และด้วยความยอดเยี่ยมของมันนี้เอง ตัวเกมก็ได้รับการทำภาค Remake ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย


บางทีการเล่นเป็นฮีโร่, ผู้กล้าหรือตัวละครฝ่ายดีมันก็ดูน่าเบื่อจำเจเกินไป ผมเชื่อว่ามีผู้เล่นไม่น้อยอยากจะลองสลับฝั่งเป็นตัวร้ายดูบ้าง เพราะเอาเข้าจริงตอนเราได้เล่นเป็นตัวร้าย มันก็ดูน่าจะสนุกกว่าการเล่นเป็นตัวดีในเกมบางเกมอีก จริงไหมล่ะครับ

Back to top button