คอนโซล / พีซีสกู๊ปพิเศษ

6 เหตุผลที่ทำให้คนญี่ปุ่นมองว่า “คนเปย์ Gacha” น่าคบน้อยกว่า “คนติดพนัน”

ผลสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้เงินที่ญี่ปุ่นสะท้อนมุมมองที่มีต่อชาวเกมเมอร์

ในยุคที่เกมมือถือและระบบกาชา (Gacha) กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการเล่นเกมยุคใหม่ หลายคนอาจคิดว่าการ “เปย์” เกมเป็นเพียงงานอดิเรกส่วนตัว ทว่าผลสำรวจล่าสุดจากบริษัท Biz Hits ประเทศญี่ปุ่น กลับสะท้อนมุมมองที่น่าตกใจ เมื่อผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 13% มองว่าการใช้เงินกับวิดีโอเกม โดยเฉพาะการเติมเงินระบบกาชา เป็นพฤติกรรมที่ “น่าคบน้อย” กว่าการเล่นการพนันเสียอีก ทั้งที่ในสังคมญี่ปุ่นเอง การพนันยังคงถูกจำกัดและมีภาพลักษณ์ด้านลบอย่างหนัก ทำไมการเปย์กาชาถึงถูกมองในแง่ลบขนาดนั้น? บทความนี้จะพาไปรู้จัก 6 เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังมุมมองดังกล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ ที่นี่

1. กาชาดูเป็นความหมกมุ่นส่วนบุคคลมากกว่าการพนัน

6 เหตุผลที่ทำให้คนญี่ปุ่นมองว่า "คนเปย์ Gacha" น่าคบน้อยกว่า "คนติดพนัน"


แม้ทั้งการเปย์กาชาและการเล่นพนันจะเป็นการใช้เงินกับความไม่แน่นอนเหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้ “กาชา” ถูกมองในแง่ลบยิ่งกว่าก็คือ บรรยากาศของมันที่ดูเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลมากกว่า ผู้เล่นมักนั่งกดมือถือเงียบ ๆ อยู่คนเดียวในโลกส่วนตัว ไม่ต่างจากการเก็บซ่อนตัวเองจากสังคม ในขณะที่การพนันแบบดั้งเดิม เช่น ปาจิงโกะ หรือแข่งม้า ยังมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างหรือมีพื้นที่สาธารณะรองรับ และมีความเข้าใจในสังคมญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานแล้ว กาชาจึงถูกตีความว่าเป็นการหมกมุ่นอยู่กับความสุขส่วนตัวโดยไม่แบ่งปัน อีกทั้งยังขาดความเข้าใจจากผู้อื่น ทำให้คนภายนอกมองว่าผู้เปย์กาชานั้น “หลุดจากโลกจริง” มากกว่าคนเล่นพนันเสียอีก

2. กาชาไม่มีความหวังที่จะได้เงินกลับคืนมาเหมือนการพนัน

6 เหตุผลที่ทำให้คนญี่ปุ่นมองว่า "คนเปย์ Gacha" น่าคบน้อยกว่า "คนติดพนัน"


สิ่งหนึ่งที่ทำให้การเปย์กาชาดู “ไร้สาระ” ในสายตาคนทั่วไปมากกว่าการพนัน ก็คือการที่มัน “ไม่มีโอกาสได้เงินคืน” เลยแม้แต่น้อย การพนันอย่างปาจิงโกะยังพอมีความหวังว่าจะได้เงินกลับมาบ้างในบางครั้ง แม้จะเสี่ยงแต่ก็ยังมีภาพลวงตาของการ “ลงทุน” อยู่บ้าง ต่างจากกาชาที่เมื่อกดไปแล้ว ไม่ว่าจะได้ตัวละครหรือไอเท็มแบบไหน เงินที่เสียไปก็ไม่มีวันย้อนคืนมาได้เลย แถมของที่ได้ก็ยังเป็นเพียงสิ่งสมมติในเกม ไม่อาจใช้จ่ายจริงได้ การเปย์กาชาจึงไม่ใช่แค่ความเสี่ยง แต่คือการใช้เงินจริงแลกกับของปลอมในโลกเสมือน ที่ไม่อาจสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจหรืออนาคตใด ๆ ได้เลย

3. สังคมญี่ปุ่นให้ค่าเรื่องการออมเงินสูง

6 เหตุผลที่ทำให้คนญี่ปุ่นมองว่า "คนเปย์ Gacha" น่าคบน้อยกว่า "คนติดพนัน"


ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่ประชาชนมีนิสัยรักการออมเงินมากที่สุดในโลก แนวคิดเรื่อง “ความมั่นคงทางการเงิน” ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก และถือเป็นคุณสมบัติสำคัญของคนที่พร้อมสร้างครอบครัว ดังนั้นเมื่อมีคนใช้เงินไปกับการเติมเกม หรือเปย์กาชาอย่างไม่ยั้งมือ จึงถูกมองว่า “ไม่รู้จักประมาณตน” และขาดความรับผิดชอบทางการเงิน โดยเฉพาะในความสัมพันธ์แบบคู่รัก การบริหารเงินเป็นเรื่องสำคัญ ผลสำรวจของ Biz Hits ยังชี้ว่า 95.6% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่านิสัยการใช้เงินของคนรักส่งผลต่อความสัมพันธ์โดยตรง ทำให้คนที่เปย์เกมบ่อย ๆ มีภาพลักษณ์ว่าไม่น่าไว้วางใจในเรื่องการเงินมากกว่าคนที่เล่นพนันครับ

4. การเติมเงินเกมถูกมองเป็นการ “ซื้ออารมณ์” มากกว่าลงทุนเพื่ออนาคต

6 เหตุผลที่ทำให้คนญี่ปุ่นมองว่า "คนเปย์ Gacha" น่าคบน้อยกว่า "คนติดพนัน"


ในสายตาคนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เล่นเกม การเติมเงินเพื่อเปย์กาชา มักถูกมองว่าเป็นการ “ซื้ออารมณ์” หรือซื้อความพึงพอใจชั่วคราว มากกว่าจะเป็นการใช้เงินที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงสร้างสรรค์หรือยั่งยืน ตัวละครสุดแรร์ ไอเท็มพิเศษ หรือสกินหายากในเกม ล้วนแต่เป็นของที่ไร้ตัวตนและหมดคุณค่าทันทีเมื่อผู้เล่นเลิกเล่นเกมนั้น ต่างจากการใช้เงินเพื่อพัฒนาตัวเอง เช่น ลงคอร์สเรียน หรือแม้แต่การลงทุนที่มีความเสี่ยงอย่างการพนัน ก็ยังพออ้างถึงผลตอบแทนในอนาคตได้บ้าง กาชาจึงถูกตีความว่าเป็นการจ่ายเงินเพื่อความฟินเฉพาะหน้า ที่ไม่เหลืออะไรไว้เลยนอกจากความรู้สึกชนะเพียงวูบครับ

5. รู้สึกถึงความไม่ซื่อสัตย์ทางการเงิน

6 เหตุผลที่ทำให้คนญี่ปุ่นมองว่า "คนเปย์ Gacha" น่าคบน้อยกว่า "คนติดพนัน"


สิ่งที่ทำให้การเปย์กาชาดูแย่ยิ่งกว่าการเล่นพนันในสายตาของบางคน คือ “ความลับ” ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังพฤติกรรมนั้น ผู้ตอบแบบสอบถามรายหนึ่งเล่าว่าให้แฟนยืมเงินเพราะเชื่อว่าอีกฝ่ายมีปัญหาทางการเงิน แต่สุดท้ายกลับพบว่าเงินนั้นถูกใช้ไปกับการเติมเกม ความรู้สึกถูกหลอกและความผิดหวังจึงรุนแรงยิ่งกว่าการรู้ว่าอีกฝ่ายไปเล่นพนันเสียอีก เพราะอย่างน้อยนักพนันยังมักเปิดเผยและยอมรับความเสี่ยงของตัวเอง ขณะที่คนที่เปย์เกมมักไม่ยอมรับกับผู้อื่นว่าตัวเองใช้เงินไปกับอะไร ความไม่ซื่อสัตย์ทางการเงินแบบนี้จึงทำลายความเชื่อใจในความสัมพันธ์ และกลายเป็นจุดแตกหักที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยตัดสินใจเดินออกมาครับ

6. คนไม่เล่นเกมมักจะไม่เข้าใจและเข้าไม่ถึง

6 เหตุผลที่ทำให้คนญี่ปุ่นมองว่า "คนเปย์ Gacha" น่าคบน้อยกว่า "คนติดพนัน"


อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้การเปย์กาชาถูกมองในแง่ลบก็คือ “ช่องว่างของความเข้าใจ” ระหว่างคนเล่นกับคนไม่เล่นเกม สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในโลกของเกม การใช้เงินจริงแลกกับตัวละคร หรือของในเกมที่จับต้องไม่ได้ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก และมักถูกตีความว่าเป็นพฤติกรรมไร้สาระหรือหลงตัวเอง ความหลงใหลในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่เข้าถึง จึงกลายเป็นกำแพงในการสื่อสารและใช้ชีวิตร่วมกัน ยิ่งหากอีกฝ่ายเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางการเงินและอนาคต ก็ยิ่งรู้สึกว่าโลกของเกมเป็นพื้นที่ที่ไม่มีทางเข้าไปยืนด้วยได้เลย นำไปสู่ความห่างเหิน และสุดท้ายคือความรู้สึกว่า “คนแบบนี้ไม่น่าคบ” นั่นเอง

แม้การเปย์กาชาจะเป็นความชอบส่วนบุคคล แต่ในบริบทของความสัมพันธ์ การใช้เงินอย่างไม่ระวัง หรือไม่เข้าใจผลกระทบที่มีต่อคู่รัก ก็อาจทำให้ความไว้ใจและความเข้าใจถูกสั่นคลอนได้อย่างรุนแรง ผลสำรวจจากญี่ปุ่นจึงไม่ใช่แค่การตำหนิคนเล่นเกม แต่สะท้อนถึงความสำคัญของการบริหารเงิน ความโปร่งใส และการมีจุดร่วมที่สื่อสารกันได้ในชีวิตคู่ เพราะความรักที่ยั่งยืน ไม่ได้สร้างจากความฟินชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากความเข้าใจและความมั่นคงในระยะยาวครับ 🙂

ที่มา
blogjapantimesbusinesstodayredditdannychooistockphoto

Jou Thunder

Content Creator สายเกมที่อยากทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ โปรดติดตามช่อง youtube.com/@JouThunder
Back to top button