5 องค์ประกอบที่ Black Myth: Wukong คล้ายคลึงกับ God of War Ragnarök

เกม Black Myth: Wukong จากค่าย Game Science ได้สร้างความฮือฮาอย่างมากในวงการเกม ด้วยยอดผู้เล่นพร้อมกันบนแพลตฟอร์ม Steam กว่า 2.2 ล้านคน นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่เกิดจากการรอคอยของเหล่าแฟนเกมมาอย่างยาวนานถึง 4 ปี และด้วยภาพกราฟิกที่สวยงามอลังการสมจริง พร้อมด้วยระบบการต่อสู้ที่ลื่นไหลและน่าตื่นเต้นเทียบเท่าเกมแอ็กชั่น RPG ระดับท็อป ทำให้ Black Myth: Wukong กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของเกมแนวนี้ไปโดยปริยาย

และเมื่อเปรียบเทียบกับเกมชื่อดังอย่าง God of War Ragnarök จากค่าย Sony Santa Monica จะพบว่าทั้งสองเกมมีความคล้ายคลึงกันในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาพกราฟิกที่สวยงามอลังการ การออกแบบฉากที่ตระการตา หรือระบบการต่อสู้ที่เน้นความรวดเร็วและหลากหลาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของทีมพัฒนาในการสร้างสรรค์เกมที่มีคุณภาพสูง และในวันนี้เราจะพาทุกคนมาพบกับองค์ประกอบที่ทั้ง 2 เกมมีความคล้ายคลึงกัน ส่วนจะมีอะไรบ้าง มาติดตามกันได้เลย

องค์ประกอบที่ 1 – ระบบต่อสู้ด้วยอาวุธ หรือพลังที่หลากหลาย

ทั้ง God of War Ragnarök และ Black Myth: Wukong ต่างนำเสนอระบบการต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับการต่อสู้ที่หลากหลายและท้าทาย ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่ดึงดูดให้ผู้เล่นหลงใหลในเกมทั้งสองภาคนี้ โดยใน God of War Ragnarök ตัวละคร Kratos ผู้ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับอาวุธคู่กายที่ทรงพลัง ได้แก่ Leviathan Axe, Blades of Chaos และ Draupnir Spear ซึ่งแต่ละอาวุธก็จะมีท่าไม้ตายและความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันออกไป ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ท่าไม้ตายเหล่านี้เพื่อโจมตีศัตรูได้อย่างรวดเร็วและทรงพลัง นอกจากนี้ ระบบการอัปเกรดทักษะยังช่วยให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งสไตล์การต่อสู้ให้เข้ากับตัวเองได้มากยิ่งขึ้น

ส่วนทางด้าน Black Myth: Wukong แม้ว่าตัวละครหลักจะใช้อาวุธเพียงอย่างเดียวคือไม้พลอง แต่ก็มีเวทมนตร์และท่าไม้ตายที่หลากหลายให้เลือกใช้ ผู้เล่นสามารถสลับเปลี่ยนระหว่างเวทมนตร์แต่ละชนิดได้ตามสถานการณ์ ซึ่งแต่ละเวทมนตร์ก็จะมีระยะเวลาคูลดาวน์ที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ ระบบการต่อสู้ของ Black Myth: Wukong ยังเน้นการผสมผสานระหว่างการโจมตีเบาและหนัก ซึ่งคล้ายคลึงกับระบบการต่อสู้ของ God of War Ragnarök อีกด้วย

องค์ประกอบที่ 2 – ระบบปรับแต่งชุดเกราะ

ทั้ง Black Myth: Wukong และ God of War Ragnarök ได้นำเสนอแนวทางใหม่ในการปรับแต่งชุดเกราะ ซึ่งแตกต่างจากเกมแอ็กชั่น RPG ทั่วไปที่มักจะให้ผู้เล่นค้นหาชุดเกราะจากการสำรวจโลกเปิด โดยทั้งสองเกมนี้ ชุดเกราะส่วนใหญ่จะได้มาจากการเอาชนะศัตรูตัวสำคัญหรือบอส ซึ่งสอดคล้องกับการออกแบบโลกเกมที่เป็นแบบกึ่งโลกเปิดนั่นเอง

ชุดเกราะในเกมทั้งสองภาคนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากศัตรูหลายตัวจะใช้การโจมตีธาตุ ซึ่งชุดเกราะแต่ละชุดก็จะมีความสามารถในการป้องกันธาตุที่แตกต่างกันออกไป ใน Black Myth: Wukong นั้น การเลือกใช้ชุดเกราะที่เหมาะสมจะส่งผลต่อผลลัพธ์ของการต่อสู้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ต้องหลบหลีกการโจมตีของศัตรูอย่างรวดเร็วหรือเผชิญหน้ากับบอสตัวฉกาจนั่นเอง

องค์ประกอบที่ 3 – การต่อสู้กับบอสสุดอลังการ

ทั้ง God of War Ragnarök และ Black Myth: Wukong ต่างสร้างความประทับใจให้กับผู้เล่นด้วยฉากต่อสู้กับบอสที่อลังการตระการตา ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่ดึงดูดให้ผู้เล่นหลงใหลในเกมทั้งสองภาคนี้ โดยในฉากเปิดเกมของ God of War Ragnarök นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่น่าประทับใจอย่างมากด้วยการต่อสู้กับ Freya ที่ต่อเนื่องมาจากภาคก่อนหน้า และตามมาด้วยการต่อสู้กับ Thor ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ฉากต่อสู้กับบอสในเกมภาคนี้ล้วนแต่มีความอลังการและน่าตื่นเต้น ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบฉากที่สวยงามและการใช้เอฟเฟกต์พิเศษที่ยอดเยี่ยม

Black Myth: Wukong ก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน โดยเฉพาะฉากเปิดเกมที่ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็น Wukong และต่อสู้กับบอสตัวแรกซึ่งเป็นการเปิดตัวเกมที่น่าประทับใจอย่างมาก นอกจากนี้ ฉากต่อสู้กับบอสตลอดทั้งเกมยังมีความหลากหลายและน่าตื่นเต้น โดยอาศัยพลังของ Unreal Engine 5 ที่ช่วยสร้างภาพกราฟิกที่สวยงามและสมจริงขึ้นไปอีกขั้น

องค์ประกอบที่ 4 – คู่หูออกผจญภัย

เกมแอ็กชั่น RPG ยุคใหม่มักจะมีตัวละครคู่หูเข้ามาช่วยเหลือในการต่อสู้ ซึ่งเป็นการเพิ่มมิติใหม่ให้กับเกม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร หรือการช่วยเหลือในการต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง โดย God of War Ragnarök ผู้เล่นจะได้ร่วมผจญภัยไปกับ Kratos และ Atreus บุตรชายผู้เป็นทั้งคู่หูและเพื่อนสนิท การมี Atreus มาช่วยสู้ทำให้การต่อสู้มีความหลากหลายมากขึ้น โดย Atreus จะใช้ธนูโจมตีศัตรูจากระยะไกล และยังสามารถใช้เวทมนตร์ในการสนับสนุน Kratos ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ในภาค Ragnarök ยังมี Freya เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง ซึ่งเพิ่มมิติใหม่ให้กับเรื่องราวและการต่อสู้

ในขณะที่ Black Myth: Wukong ก็มีระบบคู่หูที่น่าสนใจเช่นกัน โดยตัวละครหลักอย่าง Wukong จะมี Zhu Bajie เป็นคู่หู ซึ่งเจ้า Zhu Bajie นี้จะช่วยโจมตีศัตรูและยังสามารถรักษาบาดแผลให้กับ Wukong ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นระบบที่คล้ายคลึงกับระบบของ Atreus ใน God of War Ragnarök

องค์ประกอบที่ 5 – ระบบทรัพยากรคือกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ

ทั้ง God of War Ragnarok และ Black Myth: Wukong ต่างนำเสนอระบบการหาและใช้ทรัพยากรเพื่อสร้างอาวุธและชุดเกราะที่ทรงพลัง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้เกมทั้งสองภาคนี้มีความน่าสนใจและท้าทาย โดยทั้งสองเกม ผู้เล่นจะไม่พบอาวุธและชุดเกราะสำเร็จรูปอยู่ในหีบสมบัติ แต่จะพบวัสดุที่ใช้ในการสร้างอาวุธและชุดเกราะแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ผู้เล่นออกสำรวจโลกเกมเพื่อหาทรัพยากรที่ต้องการ การออกสำรวจโลกเกมไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้เล่นได้พบกับสถานที่ใหม่ ๆ และศัตรูตัวใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้เล่นได้สะสมวัสดุเพื่อสร้างอาวุธและชุดเกราะที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น

Black Myth: Wukong เกมแอ็กชั่น RPG ที่ดัดแปลงจากไซอิ๋วซึ่งเป็นวรรณกรรมอมตะของจีน ภายในเกมนี้ผู้เล่นจะรับบทเป็นซุนหงอคงออกผจญภัยสุดท้าทายเผชิญหน้ากับศัตรูมากมาย ค้นหาความลับเบื้องหลังตำนาน พร้อมระบบอัปเกรดตัวละครที่หลากหลาย ใช้เวทมนตร์ อาวุธ และการแปลงร่างต่อสู้ในโลกอันมืดมิด โดยเกมนี้มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 20 สิงหาคม 2024 บน PlayStation 5, Xbox Series X|S และ PC ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวผ่านหน้าร้านค้าบน Steam ได้เลย