สกู๊ปพิเศษ

5 เหตุผลที่ทำให้ Final Fantasy 12 เข้าถึงผู้เล่นได้ยาก

คนชอบก็ชอบ คนไม่ชอบก็จะไม่ชอบไปเลย เป็น Masterpiece ที่ถูกมองข้ามตลอดไป

หากว่าคุณเป็นแฟน Final Fantasy และลองเล่นมาแล้วทุกภาค คุณจะรู้สึกคล้าย ๆ กันว่าช่วงเวลาและภาพจำของภาค 12 นั้นค่อนข้างที่จะเป็นหลุมอยู่พอสมควร และยิ่งมองความนิยมในสังคมหรือแฟนเกมแล้ว เราจะได้ยินคนเชียร์ภาค 7 ภาค 8 หรือภาค 10 กันเป็นหลัก นาน ๆ ทีจะมีคนอวยภาค 6 หนัก ๆ โผล่มาบ้าง แต่ละภาคจะมีความยูนีคเฉพาะตัวแตกต่างกันไปตามสไตล์ แต่คนมักจะพูดถึงภาค 12 กันค่อนข้างน้อยกว่าภาคอื่น ๆ แม้ว่าภาคนี้หากได้คลุกคลีกับมันจริง ๆ มันก็คือผลงาน Masterpiece อย่างหนึ่งที่จะต้องมองให้ลึกลงไปหน่อย แต่น่าเสียดายที่ปัจจัยส่วนที่ผิวเผินนั้นค่อนข้างเด่นชัดกว่ามาก จนทำให้คนไม่มีแรงเล่นจนเข้าใจสิ่งที่ภาคนี้ทำได้ดีจริง ๆ เราไปชมกันครับว่ามีอะไรที่ทำให้ภาคนี้ไม่เข้าตาผู้เล่นบ้าง

1. ระบบเกมเพลย์ที่ไม่เหมือนกับภาคไหนเลยในแฟรนไชส์

image 2213

แม้ปัจจุบันนั้น Final Fantasy ทุกภาคจะมีแนวเกมเพลย์แยกย่อยออกไปหลายประเภท แต่คุณต้องมองกลับไปในยุคแรกเริ่มในช่วงที่ภาค 12 นี้วางจำหน่าย เรามีระบบเกมเพลย์ที่เคยโผล่มาในภาคก่อนหน้าแค่ 3 แนว ได้แก่ Traditional Turn-based, Active Time Battle และ Conditional Turn-Based เท่านั้น ซึ่งแม้ว่าเนื้อหาแต่ละแนวจะต่างกันยิบย่อยไปบ้าง แต่หลัก ๆ ยังคงอยู่ในแนว Turn-based ยืนกันคนละฝั่งแล้วสั่งตี ซึ่งพอมาเป็นภาค 12 นั้นกลับถูกใช้ระบบ Active Dimension Battle ไม่ใช่การแบ่งฝั่งตี แต่เป็นการเดินเข้าไปตี ผู้เล่นบังคับตัวละครได้ ถ้าจะตีต้องรอคำสั่งแล้วเดินเข้าไปใกล้ ๆ และตัดระบบการเดินสุ่มไปเจอศัตรูออก ทำให้ผู้เล่นเก่าในยุคนั้นที่ต้องเจอเกมเพลย์แบบใหม่นี้ปรับตัวไม่ทัน เพราะเล่น Turn-based มาตั้งแต่ต้น พอถึงจุดที่ต้องเดิน ต้องหลบ ต้องเข้า ๆ ออก ๆ มันจึงเกิดกำแพงในใจของผู้ที่ชอบ Turn-based ครับ

2. คาแรคเตอร์ดีไซน์สร้างการจดจำได้ยาก

image 2211

หากเรากำลังพูดถึง Final Fantasy XII แล้วให้นึกถึงตัวละครในภาคนี้ให้ออกแบบเร็ว ๆ ทันที ไม่ต้องคิดอะไร บอกตรง ๆ ว่าผมเองก็คิดออกแค่ Fran ที่เป็นสาวบันนี่เกิร์ล และ Judges เหล่าตัวร้ายที่สวมชุดเกราะสุดเท่ นอกนั้นตัวละครเด่น ๆ ในแง่ของภาพพจน์ก็แทบจะไม่มีอะไรให้เราจดจำได้แล้ว แน่นอนว่าถ้าใครชอบภาคนี้ก็คงจะจำกันได้ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจมากนักแล้วถูกถามถึง เป็นเรื่องยากที่จะนึกออก อย่างเก่งก็อาจจะจำได้ว่าพระเอกชื่อ Vaan แต่นึกหน้าตาไม่ออก หรืออาจจะสับสนด้วยซ้ำว่า Penelo หรือ Ashe กันแน่ที่เป็นนางเอกของภาคนี้ ในขณะที่ตัวละครอื่น ๆ อย่าง Balthier หรือ Basch นั้นยิ่งดูจืดเข้าไปใหญ่ พอจำตัวละครสำคัญไม่ได้ว่าพวกเขาชื่ออะไร หน้าตาเป็นอะไร ทำอะไรในเรื่องบ้าง ก็ทำให้ Final Fantasy XII นั้นเลือนลางในความทรงจำของผู้เล่นครับ ทั้งที่แต่ละตัวมีคาแรคเตอร์ที่ดีมากแท้ ๆ

3. เนื้อเรื่องเชิงการเมืองและสงครามที่เข้มเป็นพิเศษ

image 2210

Final Fantasy เป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องบนโลกแฟนตาซีเป็นทุนเดิมทุกภาค การที่โลกแฟนตาซีจะมีการเมืองและสงครามก็ไม่เห็นจะดูมีอะไรแปลก แต่ที่มันแปลกคือภาค 12 นี้มันเน้นแบบจริงจังครับ ในภาคอื่นมีการเมืองก็จริงแต่เราสามารถอินกับตัวละครได้ สนุกกับการผจญภัย สิ่งที่ตัวละครหลักทำ และอื่น ๆ แต่พอคาแรคเตอร์ดีไซน์ของภาคนี้ไม่อาจทำให้ผู้เล่นชอบตัวละครนั้น ๆ ได้ ก็กลายเป็นว่าผู้เล่นต้องหันมาโฟกัสกับเนื้อเรื่องแทน ซึ่งมันค่อนข้างที่จะซีเรียสพอสมควรครับ เนื้อหาของภาค 12 เป็นการเมือง สงคราม ราชวงศ์ การทรยศหักหลัง การชิงอำนาจ การปฏิวัติ มีแนวคิดทางการเมืองที่อัดแน่น มีความเชื่อที่ฝังรากลึก และมันเข้มมาก ๆ ถ้าคุณคิดว่าคุณจะเล่นเกมนี้เพื่อผ่อนคลาย อาจจะเป็นไปได้ยากหน่อย พอเกมมันเครียดก็ไม่มีคนอยากเล่นเท่าไหร่ เช่นเดียวกับ FF2 ที่เน้นการเมืองมาก ๆ แต่ยอดขายก็ต่ำที่สุดในแฟรนไชส์นั่นแหละครับ มันเป็นสิ่งที่ถ้ามีคนชอบก็จะชอบไปเลย แต่มันไม่แมสสำหรับทุกคนแน่ ๆ

4. ธีมสี Monotone ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกห่อเหี่ยวและแห้งแล้ง

image 2209

สิ่งหนึ่งที่ Final Fantasy XII ทำได้ดีกว่าภาคอื่นก็คือการคุมโทนของภาพและสีภายในเกมได้อย่างเสมอต้นเสมอปลายครับ แต่ข้อเสียมันอยู่ที่ว่า ความ Monotone ของเกมภาคนี้ มันดันเป็นโทนเหลืองทราย รวมถึงวัฒนธรรมในเมือง สิ่งก่อสร้าง ธรรมชาติรอบ ๆ เมือง รวมไปถึงการแต่งตัว เราจะรู้สึกถึงทะเลทรายอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้เล่นรู้สึกห่อเหี่ยวและแห้งแล้ง เวลาเล่นแล้วมันไม่ปลอดโปร่ง ไม่รู้สึกว่าการเล่นเกมมันจรรโลงใจ แม้ว่าท้องฟ้าจะดูมีสีสันอยู่บ้าง หรืออาจจะมีต้นไม้สีเขียวบ้างบางพื้นที่ แต่โดยรวมของเกมแล้วส่วนใหญ่มันมีแต่ความแห้งแล้งจริง ๆ ครับ สำหรับคนที่เล่นเกมแฟนตาซีแล้วเน้นบรรยากาศของเกม จะโดนความ Monotone นี้เล่นงานจนรู้สึกเล่นต่อไม่ไหวและเบื่อเกมนี้ไปได้ง่าย ๆ

5. มีภาพสะท้อนของ Star War มากเกินไป

image 2208

ดูก็รู้ว่า Final Fantasy XII ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Star War ในปี 1977 ซึ่งกล่าวถึงเนื้อหาของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ต่อสู้เพื่อต่อต้านอำนาจของจักรวรรดิที่มีนายพลทรงพลังเป็นขุมอำนาจหลัก ตัวเอกเป็นโจรน้อยฐานะบ้าน ๆ ไปพบเจอกับเจ้าหญิงสูงศักดิ์ มีเพื่อนร่วมทีมเป็นโจรสลัดอากาศ เป็นนักแม่นปืนที่สามารถขับขี่ยานพาหนะได้อย่างคล่องแคล่ว และมีพรรคพวกเป็นมนุษย์ครึ่งสัตว์อีกคน ฝ่ายจักรวรรดิเองก็มียานรบทรงอำนาจเหนืออาณาจักรอื่น ๆ แถมผู้นำยังใส่ชุดเกราะปิดหน้าปิดตา พร้อมเสียงพากย์ที่เหมือนจะผ่านการกรองเสียงอีกชั้นนึง เห็นได้ชัดว่ามีความคล้ายคลึงกับกลุ่มของ Luke Skywalker ที่กำลังเข้าต่อต้าน Darth Vader ของ Empire ความคล้ายคลึงนี้มันเหมือนเกินไปจนหลายคนรู้สึกเลี่ยน และหลายคนก็มองว่านี่คือการเลียนแบบ แม้เนื้อเรื่องจะไม่ได้เหมือนกันเท่าไหร่ แต่มันก็คล้ายซะจนหลายคนเอาใจออกห่างครับ

และนี่ก็คือ “5 เหตุผลที่ทำให้ Final Fantasy 12 เข้าถึงผู้เล่นได้ยาก” ตรงกับสิ่งที่เพื่อน ๆ คิดไหมครับ โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบเกม RPG ที่มีเนื้อเรื่องแนวสงครามและการเมือง ผมไม่ติดอะไรกับภาคนี้และค่อนข้างที่จะชอบมันมากพอสมควร แต่ก็อย่างที่ได้กล่าวไป สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่มองเห็นได้ชัด ไม่จำเป็นต้องถลำลึกก็สามารถเกิดกำแพงและแรงต้านต่อภาคนี้ได้ง่าย ๆ กว่าจะอินกับเนื้อเรื่องก็ต้องใช้เวลาคลุกคลีประมาณหนึ่ง แต่ถ้าทนไม่ไหวก็คงต้องตัดใจไปก่อนครับ แล้วคุณล่ะครับมีความเห็นยังไงบ้าง คอมเมนต์บอกให้เราได้อ่านด้วยนะครับ

ที่มา
rpgsite.netblogofgames.comnocookie.netgamerantimages.comsadakokimono..combaltimorepostexaminer.com

Jou Thunder

เร็ว แรง ติดคริ คือคติของผม โปรดติดตามช่อง youtube.com/@JouThunder
Back to top button