5 เหตุผลที่ทำให้ Black Myth: Wukong ยังขายดีถึงแม้จะถูกโจมตีเรื่องความหลากหลาย

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกท่านนะครับ หลายคนก็น่าจะได้ยินข่าวการมาเยือนของเกม AAA ฟอร์มยักษ์จากทางฝั่งจีนกันมาแล้ว โดยชื่อเกมที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้คือ Black Myth: Wukong เกมที่ให้เราเล่นเป็นลิงหรือหงอคงตามที่เราเข้าใจในตำนานไซอิ๋ว และเกมนี้ก็ได้ถูกออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในด้านของการขาดความหลากหลายในตัวเกม ไม่มีตัวละครผู้หญิง ไม่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ จนมีสื่อออกมากล่าวโจมตีอยู่ให้เห็นกันทั่ว แต่ถึงอย่างนั้นยอดขายก็ยังถล่มทลาย ขายได้ 10 ล้านก๊อบปี้ภายใน 3 วัน เรียกได้ว่าสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการเกมขึ้นอีกครั้ง ทำไมยอดขายถึงสวนทางกับคำวิจารณ์ เรามาดูกันครับ

1. เนื้อเรื่องอ้างอิงไซอิ๋วที่มีโครงเรื่องชัดเจนอยู่ก่อนแล้ว

เนื้อเรื่องภายในเกม Black Myth: Wukong ไม่ใช่เนื้อเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมาจากศูนย์ และไม่ใช่การจินตนาการขึ้นมาลอย ๆ แต่มันถูกอ้างอิงมาจากเทพนิยายจีนอย่างเรื่องไซอิ๋ว ซึ่งแม้แต่คนไทยอย่างเรา ๆ ก็ยังรู้จักมาตั้งแต่ยังเด็กอยู่หลายคน เราจะรู้ว่าเป็นเรื่องราวการเดินทางของเห้งเจีย ที่มีผู้ติดตามอยู่ 3 คนคือหงอคง ซัวเจ๋งและตือโป้ยก่าย อีกทั้งยังมีความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ที่เป็นประเด็นละเอียดอ่อนต่อฝั่งจีน การจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเนื้อเรื่องหรือใส่ตัวละครแปลก ๆ เข้าไปที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องนั้นคงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ยิ่งผู้พัฒนาเองก็เป็นทีมจากฝั่งจีนก็จะเข้าใจตรงจุดนี้ดี และภายในเนื้อเรื่องเองก็มีความเฉพาะทาง มีมอนสเตอร์ ปีศาจ และตัวละครในตำนานอย่างที่เนื้อเรื่องไซอิ๋วมันควรจะเป็น คนที่ซื้อเกมมาเล่นนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าอยากเล่นเป็นหงอคงและอยากรู้จักตำนานไซอิ๋วมากยิ่งขึ้นด้วย

2. ตัวละครส่วนใหญ่เป็นสัตว์ประหลาด การมีเพศหรือเชื้อชาตินั้นไม่ส่งผลต่อผู้เล่น

จากโครงเรื่องในนวนิยายไซอิ๋วนั้น ตัวละครส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นตัวเอกหรือตัวร้ายในเรื่อง ต่างก็มีแต่พวกภูติผีปีศาจหรือไม่ก็เทพ ที่หาตัวละครที่เป็นมนุษย์จริง ๆ ยากมาก และ Black Myth: Wukong นั้นตัวละครมันเป็นอมนุษย์อยู่แล้ว การจะมีเพศหญิงหรือชาย หรือมีความหลากหลายทางเชื้อชาติก็ยิ่งไม่เหมาะสมเข้าไปใหญ่ แต่จะเปลี่ยนตัวละครหลักก็ไม่ได้ด้วยเพราะคนจีนเขาถือ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงเพศของสัตว์ประหลาดก็อาจไม่ได้ส่งผลต่อการเล่นของผู้เล่นมากนัก การต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างบิดเบี้ยวหรือผิดเพี้ยนไปจากการเป็นมนุษย์ แถมยังมีความดุร้าย อันตราย น่ากลัว ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง หรือผิวสีอะไร เชื้อชาติอะไร ในมุมมองของเกม Action ผู้เล่นเราก็จะเดินเข้าไปต่อสู้กับมันอยู่ดี

3. เกมเพลย์เป็นแนว Action กึ่ง Souls-like ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก

ต้องยอมรับว่าเทรนด์เกม AAA ใหม่ ๆ ในยุคนี้ เกมแนว Souls-like กำลังมาแรงอย่างที่สุด ตั้งแต่ Dark Souls, Elden Ring, Lies of P และอื่น ๆ อีกหลายเกมที่ยังไม่ได้เอ่ยชื่อ มักได้รับกระแสคำชมและมีผู้เล่นให้ความสนใจจำนวนมาก เรียกได้ว่าเกมตระกูล Souls-like นั้นเป็นที่นิยมจากทั่วโลกอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้ว่า Black Myth: Wukong จะไม่ใช่เกมที่มีความยากเป็นหัวใจหลักที่เกมอยากจะนำเสนอและมีความเข้าถึงง่ายอยู่บ้าง แต่วิธีการเล่น การควบคุม แพลตฟอร์ม และแนวเกมภาพรวมนั้นค่อนข้างคล้ายคลึงกับเกมแนว Souls-like อย่างมาก และแฟนเกมแนว Souls-like ที่มีอยู่ทั่วโลกนั้นก็พร้อมที่จะสนับสนุนเกมนี้ไปด้วย จึงทำให้เกมนี้ได้ฐานผู้เล่นจากสาย Souls-like ไปเยอะพอสมควร

4. ผู้พัฒนารู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเขาที่จะมาซื้อเกมคือใคร

“ทำเกมให้ใครเล่น” คือคำถามที่ผู้บริโภคชาวเกมเมอร์อย่างเรา ๆ นั้นมักจะตั้งคำถามกับผู้พัฒนาเกมเสมอเวลาที่เจอเกมแปลก ๆ ออกมา หรือเกมที่เน้นนำเสนอในเรื่องของความหลากหลายทางเพศและความสมจริง ซึ่งอย่างที่เรารู้กันว่าเกมเมอร์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้อยากจะให้เกมมันออกมาสมจริงอะไรขนาดนั้น การเล่นเกมสำหรับหลาย ๆ คนคือการผ่อนคลายจากความเครียดที่ในชีวิตประจำวันก็เจอมาหนักอยู่แล้ว การอยู่ในเกมก็เหมือนกับการใช้ชีวิตในจินตนาการ แฟนตาซี แล้วปล่อยตัวตนไปกับบทบาทสมมุตที่เกมมอบให้ การที่เกมสมจริงเกินไปมันทำให้ผู้เล่นขาดอรรถรสในการเล่นตรงนั้น และ Black Myth: Wukong รู้ดีว่าผู้เล่นของเขานั้นเป็นใครและต้องการอะไร มันเลยทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าไม่ได้ถูกเกมทรยศ และรู้สึกว่าซื้อเกมมาแพง ๆ แต่ก็ไม่ผิดหวัง

5. ยอดขายส่วนใหญ่มาจากจีน ซึ่งเป็นประเทศที่การ Woke ไม่มีผลต่อพวกเขา

ถึงแม้ว่าจะมีกระแสโจมตีอย่างหนักจากสื่อต่างประเทศ แต่ถึงอย่างนั้น Black Myth: Wukong ก็ยังขายดิบขายดีอยู่เหมือนเดิม เนื่องจากว่าผู้พัฒนามั่นใจว่าผู้เล่นส่วนใหญ่จะมาจากประเทศจีนด้วยกันเอง อารมณ์เหมือนกับเวลาที่เกมคนไทยดี ๆ วางจำหน่าย คนไทยด้วยกันอย่างเรา ๆ ก็อยากจะซื้อและอุดหนุนเกมคนไทยด้วยกันเอง และประเทศจีนเองก็เป็นอย่างนั้น ถึงจะถูกโจมตีเรื่องความหลากหลายแต่สุดท้ายคนทำเกมก็คือคนจีนที่ทำเกมให้คนจีนเล่น ก็เลยไม่จำเป็นต้องฟังความเห็นของสื่อนอกและโฟกัสไปกับการทำให้เกมออกมาดีและตรงใจกลุ่มเป้าหมายจะดีกว่า และผลลัพธ์มันก็ออกมาอย่างที่พวกเขาต้องการครับ

เป็นยังไงบ้างครับกับ “5 เหตุผลที่ทำให้ Black Myth: Wukong ยังขายดีถึงแม้จะถูกโจมตีเรื่องความหลากหลาย” ตรงกับสิ่งที่เพื่อน ๆ คิดเอาไว้หรือเปล่าเอ่ย จริง ๆ ช่วงนี้ก็มีเกมหลายเกมเลยนะครับที่ถูกสื่อวิจารณ์เกี่ยวกับความหลากหลายเยอะมาก แต่เกมที่มีความหลากหลายอย่างสุดโต่งนั้นกลับทำให้ยอดขายตกแถมยังเสียงชื่อเสียงต่อผู้เล่นอีกด้วย แล้วเพื่อน ๆ มีความเห็นยังไงก็ลองคอมเมนต์คุยกันได้นะครับ