13 สิ่งควรรู้ก่อนเริ่มเล่นเกม God of War Ragnarok
เล่นอย่างไรให้คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

God of War Ragnarok เป็นเกมภาคต่อของ God of War เวอร์ชั่น 2018 ที่หลายคนรอคอย โดยเกมนี้ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วบน PS4 และ PS5 และถึงแม้ว่าเกมนี้จะเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากเกมปี 2018 แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมเสมอไป และในวันนี้ผู้เขียนจะพาทุกคนมาเตรียมตัวให้พร้อมกับ 13 สิ่งควรรู้ก่อนเริ่มเล่นเกม God of War Ragnarok ครับ
1. หากลืมเรื่องราว ให้ไปอ่านใหม่ทั้งหมด อย่าหวังพึ่งพา Recap
ภายในเกมนี้ผู้เล่นสามารถรับชมเนื้อหาย้อนอดีตจากเกมปี 2018 ได้ โดยวิดีโอสรุปตำนานนี้มีความยาว 2 นาทีเท่านั้น และจะมุ่งเน้นนำเสนอเนื้อหาสำคัญจากเกมปี 2018 อย่างไรก็ตาม คลิปนี้กลับข้ามรายละเอียดเรื่องราวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าวัลคีรี่ , ตัวละครอื่น ๆ รวมไปถึงไตรภาคดั้งเดิม ซึ่งผู้เขียนแนะนำให้ผู้เล่นไปหาข้อมูลจากบนเว็บไซต์ที่เหล่าแฟนเกมโพสต์ข้อมูลไว้จะดีกว่าครับ
2. ถ้าเจอทางไปไม่ได้ ไม่ต้องฝืน เดี๋ยวค่อยกลับมาก็ไม่สาย
God of War Ragnarok เป็นเกมที่ผสมผสานองค์ประกอบจากเกมแนว Metroidvania อยู่พอสมควร คุณจะเห็นมาร์คเกอร์ต่าง ๆ บนสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้เล่นเดินทางไปยังจุดต่าง ๆ ที่มีไอเทมรออยู่ แต่บางครั้งเราอาจจะเจอทางที่ยังเดินไปไม่ได้ และหลายคนก็เสียเวลาไปกับการพยายามหาทาง ซึ่งจริง ๆ แล้ว แทบในทุกครั้งคุณมีโอกาสย้อนกลับมายังทางเก่าพร้อมกับอุปกรณ์ที่จะทำให้คุณเข้าไปยังสถานที่เหล่านั้นได้
นอกจากนี้ Mimir จะมีประโยชน์อย่างมากเมื่อเจอเหตุการณ์นี้เพราะเขาจะคอยบอกเราเสมอ เช่น ตอนนี้เราไม่มีเวทมนตร์ที่จะใช้ไปยังตรงนั้นได้นะสหาย หรือแม้กระทั่ง Atreus อาจให้คำแนะนำในการไขปริศนา เช่น เราต้องหาวิธีลดสะพานแล้วล่ะพ่อ หากคุณหลงทางหรือติดอยู่ ให้ฟังเพื่อนร่วมเดินทางของคุณให้ดี
3. Atreus นำคุณไปสู่ทางที่ถูกต้อง แต่อย่าเพิ่งตามเขาไป
อีกหนึ่งจุดเล็ก ๆ ที่น่าสนใจก็คือเมื่อ Atreus นำคุณไปยังทางใด อย่าเพิ่งตามไป เพราะอีกทางมักจะมีไอเทมซ่อนอยู่ ให้เราไปเก็บไอเทมก่อน แล้วค่อยตามลูกชายเราเข้าสู่เนื้อเรื่องต่อไป
4. การเข้าสู่ Mystic Gateway จะรักษาคุณ
ทุกครั้งที่คุณเข้าสู่ Mystic Gateway (หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการ Fast Travel) ตัวละครของผู้เล่นจะถูกฟื้นฟูจนสมบูรณ์เสมอ รวมไปถึงเมื่อคุณตาย คุณจะสามารถเริ่มเล่นใหม่ได้ด้วย HP ที่เต็มอีกครั้ง

5. ทุกเควสรองมีค่า
ภารกิจหลักของ God of War Ragnarok จะถูกเรียกว่า “เส้นทาง” และมีเครื่องหมายสีส้มกำกับไว้ คุณไม่สามารถปิดตัวบ่งชี้นี้บนเข็มทิศได้ ในขณะที่เควสรองจะถูกทำเครื่องหมายด้วยไอคอนสีน้ำเงิน ผู้เล่นสามารถไล่ตามมาร์คเกอร์สีน้ำเงินเพื่อทำเควสรอง รับไอเทม และค่าประสบการณ์ให้ครบถ้วนก่อนลุยเควสหลักก็ได้
6. คุณสามารถ (และควร) เก็บโล่ทั้งสองแบบไว้
ในช่วงต้น คุณจะสามารถเลือกระหว่างโล่ได้สองแบบ ได้แก่ Dauntless Shield และ Stone Wall Shield โดย Dauntless Shield จะช่วยเรื่องการปัดป้องของ Kratos อย่างมาก ในขณะเดียวกัน Stone Wall Shield จะช่วยในการป้องกัน แม้ว่าตอนแรกจะเลือกได้แค่อันเดียว แต่ตอนหลังเราสามารถซื้อโล่อีกอันได้ในเวลาไม่ช้า
7. คุณควรเก็บรักษาอุปกรณ์ของคุณไว้ตลอดทั้งเกม
God of War (2018) จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นหาอุปกรณ์มาใช้งานจนกว่าอุปกรณ์จะหมดสภาพ จากนั้นขายให้กับตลาดที่ใกล้ที่สุดด้วยราคาเพียงเศษเสี้ยวของราคาที่คุณจ่ายไป อย่างไรก็ตาม ระบบของ God of War Ragnarok ซับซ้อนกว่าเล็กน้อย ชุดเกราะทุกชุดถูกออกแบบให้ผู้เล่นได้ใช้งานตลอดทั้งเกม โดยค่าสถานะของพวกมันไม่ต่างกันมากนัก แต่จะแตกต่างในแง่ของค่าสถานะพิเศษจากการใส่เป็นเซ็ตมากกว่า ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องขาย และเก็บไว้รวมเซ็ตที่ต้องการจะดีกว่า
8. Artifacts มีไว้ขาย!
ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องสะสม Artifacts ที่คุณพบในอาณาจักรทั้งเก้าเสมอไป Artifacts ที่มีความสำคัญต่อภารกิจทุกอย่างจะถูกทำเครื่องหมายด้วยไอคอนภารกิจด้านข้างสีน้ำเงิน ส่วนที่เหลือผู้เล่นสามารถขายได้เลย นอกจากนี้คุณยังสามารถขายทุกอย่างในคราวเดียวได้โดยแท็บไปที่หน้าร้านค้าใดก็ได้ แล้วกดปุ่มสามเหลี่ยมค้างไว้

9. อย่าลืมเก็บผลไม้สีฟ้าด้วยนะ!
Yggdrasil Dew กลับมาให้เราได้เก็บกันอีกครั้ง โดยผู้เล่นจะได้รับค่าสถานะเพิ่มขึ้นอย่างถาวรสำหรับทุก ๆ อันที่คุณพบ ซึ่งพวกมันจะปรากฏขึ้นเฉพาะเมื่อคุณกำลังพายเรือไปรอบ ๆ ทางน้ำในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น Svartalfheim
10. การปรับแต่งจำนวนมาก ใช้งานด้วยล่ะ
God of War Ragnarok นำเสนอการปรับแต่งการเข้าถึงเกมจำนวนมากถึง 70 องค์ประกอบด้วยกัน โดยสิ่งที่ผู้เล่นควรปรับจริง ๆ ก็คือปรับให้เกมเก็บ HP และเงินโดยอัตโนมัติ!
11. Nornir หีบรางวัลที่ควรค่าแก่การไขปริศนา
การเปิดหีบ Nornir ที่ผู้เล่นจะต้องพยายามไขปริศนาให้ได้ โดยทุกครั้งที่ผู้เล่นเปิดมันออก ผู้เล่นจะได้รับไอเทมที่ใช้เพิ่มค่าสถานะของ Kratos แถมบางหีบยังมี Apple of Idunn ที่จะเพิ่มแถบความยาวของ HP หรือ Horn of Blood Mead ที่จะเพิ่มความยาวของแถบ Rage ฉะนั้น ห้ามข้ามโดยเด็ดขาด
12. แถบสีของศัตรูมีความหมาย
เคล็ดลับง่าย ๆ ในการบอกว่าศัตรูแข็งแกร่งขนาดไหน ก็คือให้ดูที่แถบ HP ของพวกมัน ศัตรูที่ต่ำกว่าระดับของคุณจะมีแถบสุขภาพสีเขียว ศัตรูที่อยู่ในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกับคุณมีแถบสีส้ม ในขณะที่ศัตรูที่มีระดับเหนือกว่าคุณมีแถบสีม่วง
13. Gold Skill สามารถอัปเลเวลได้
ยิ่งคุณใช้ทักษะการต่อสู้ได้สำเร็จมากเท่าไร ทักษะก็จะยิ่งมีเลเวลสูงขึ้นเท่านั้น จากทองแดงเป็นเงิน และเป็นทองในที่สุด เมื่อคุณได้รับทักษะสู่ระดับทอง คุณสามารถใช้ 1,000 XP เพื่อใช้บัฟซึ่งจะเพิ่มความเสียหายมึนงง , เอฟเฟกต์น้ำแข็ง หรือการเผาไหม้ เป็นต้น หากไอคอนเป็นสีทอง แสดงว่ามีสิทธิ์อัปเกรดได้ นอกจากนี้เมื่อคุณปลดล็อคบัฟของทักษะแล้ว คุณสามารถสลับเป็นโบนัสอื่นได้ทุกเมื่อ ไม่จำเป็นต้องใช้ 1,000 XP ซ้ำ ๆ กับการปรับแต่งสกิลของ Kratos ครับ
God of War: Ragnarok (รองรับภาษาไทย) มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ บนเครื่องเล่น PlayStation 5 และ PlayStation 4 บอกเล่าเนื้อหาเกี่ยวข้องกับหลายปีให้หลังจากเหตุตการณ์ภาคแรกเมื่อลมหนาวพัดผ่านมาทำให้ทุกคนล้วนพบกับความยากลำบากในการใช้ชีวิต แต่ Kratos และ Atreus ยังต้องฝ่าฟันชีวิตวัยรุ่นที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจ้าลูกชายที่เริ่มสงสัยเกี่ยวกับเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งของ Kratos และเทพเจ้า