12 เกมอินดี้ยอดเยี่ยมประจำปี 2023 ที่คุณไม่ควรพลาด

อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเหล่าเกมเมอร์ก็คือเกมอินดี้จากผู้พัฒนาอิสระนั่นเอง ซึ่งจุดเด่นก็คือจะมีตั้งแต่สเกลเล็กถึงสเกลใหญ่แต่ก็นำเสนอเกมเพลย์หรือธีมที่แตกต่างไปจากเกมทั่วไปจากผู้พัฒนารุ่งใหญ่ และแน่นอนว่าเกมเหล่านี้ก็มีราคาที่เป็นมิตรด้วย เรียกได้ว่ามีองค์ประกอบเรียกแขกกันครบครัน โดยวันนี้เอง ThisIsGame Thailand ก็ไม่ลืมที่จะนำเกมอินดี้ยอดเยี่ยมประจำปี 2023 มาแนะนำกันด้วย แต่จะมีเกมอะไรบ้างขอเชิญติดตามข้างล่างนี้เลย

1. Blasphemous 2

ภาคต่อเกมแนวแอ็กชัน Metroidvania ผสมผสาน Souls-like แบบสองมิติพิกเซลที่เน้นย้ำการต่อสู้แบบอาศัยจังหวะที่รวดเร็วและงานภาพสุดติสต์ที่ดุเดือดเลือดสาด เนื้อหาของเกมเกิดขึ้นต่อเนื่องจากฉากจบของ Wounds of Eventide เนื้อหาเสริมในเกมภาคแรกเมื่อดวงใจศักดิ์สิทธิ์ได้ทำนายการกำเนิดของบุตรแห่งปาฏิหาริย์ได้สำเร็จ และผู้เล่นจะได้รับบทเป็น The Penitent One คนเดิมที่ต้องกลับสู่วงจรแห่งการเวียนว่ายตายเกิดอีกครั้งเพื่อตามหาความลับ

2. Dave the Diver

เกมแนวผจญภัยดำน้ำที่ให้เราไปทำความรู้จักกับ Dave หนุ่มผู้เป็นเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น โดยแบ่งออกเป็นเกมเพลย์ช่วงกลางวันที่จะต้องดำน้ำ ทำกิจกรรมต่างๆ เช่นหาสมบัติ หาปลา และในช่วงกลางคืนก็จะเป็นการดูแลธุรกิจร้านอาหาร แต่หารู้ไม่ว่าใต้ท้องสมุทรแห่งนี้ก็มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่เหมือนกัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคอนเซปต์ง่ายๆ แบบนี้ ก็ทำให้เกมได้รับความนิยมเป็นวงกว้างโดยเฉพาะในประเทศไทยบ้านเราครับ

3. Mineko’s Night Market

เกมแนวผจญภัยให้เราออกเดินทางในหุบเขา Fugu และสำรวจความลับของหมู่บ้านอันเงียบสงบ เช่นเดียวกับการจัดเตรียมสินค้าเพื่อขายในตลาดประจำสัปดาห์ โดยในทุกๆ วันจะมีกิจกรรมสนุกๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการรับเควสต์พิเศษ การทำงาน หรือตามหาวัสดุในการสร้างสรรค์สิ่งของนอกจากนี้ยังมีพื้นที่ใหม่ๆ ให้ไปค้นหาด้วยเส้นทางต่างๆ อาทิ รถไฟความเร็วสูง หรือรถบัส ซึ่งตัวละคร NPC ที่จะปรากฏตัวก็จะมีตารางเวลาของตัวเอง หากใครชอบแนวญี่ปุ่นไม่ควรพลาด

4. Terra Nil

เกมสไตล์สร้างเมืองที่ฉีกแนวเดิมๆ ในการเปลี่ยนมาฟื้นฟูระบบนิเวศใหม่ตั้งแต่ต้น ผู้เล่นจะได้รับหน้าที่ในการพลิกฟื้นพื้นที่รกร้างที่เต็มไปด้วยดินสีส้มและมลพิษให้กลายเป็นสวรรค์สีเขียวด้วยแมกไม้นานาพันธุ์และสายน้ำ เมื่อธรรมชาติกลับคืนมาแล้วเหล่าสัตว์ต่างๆ จะเริ่มมาอาศัยกันทั้งปลา กวางตัวน้อยๆ หรือพืชต่างๆ ก็จะงอกงามขึ้นมาอย่างอุดมสมบูรณ์ แต่ก็ต้องระวังเหตุการณ์ไฟไหม้ด้วยนะ

5. Chants of Sennaar

เกมแนวผจญภัยสไตล์อาร์ตให้ผู้เล่นรับบทนักเดินทางปริศนาที่เดินทางไปยังหอคอยปริศนาแห่งหนึ่งเพื่อทำการสำรวจและไขปริศนาแห่งภาษาและอารยธรรมโบราณหลังจากที่ผู้คนในดินแดนแห่งนั้นไม่สามารถสื่อสารกันได้ โดยเรื่องราวได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานของหอคอยบาเบล และให้เราชื่นชมความงามของทัศนียภาพท่ามกลางทะเลทราย เมืองเก่าแก่ พร้อมแก้พัสเซิลต่างๆ 

6. DREDGE

ออกเดินทางสู่ท้องมหาสมุทรอันเงียบสงัดและวังเวงเพื่อจับปลาซึ่งเกมจะมีอารมณ์ของความลึกลับรวมไปถึงเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่รอคอยการพิสูจน์อยู่ ถือเป็นส่วนผสมของเกมแนวจำลองชีวิตและเกมไขปริศนาได้แบบลงตัวมากๆ โดยเมื่อเราได้ปลาหรือสมบัติก็ต้องนำไปขายเพื่อหาเงินหรือแลกเปลี่ยนวัสดุอัปเกรดเรือของเรา ทั้งนี้ระวังให้ดีเพราะขากลับจากการเดินทางอาจจะเจอกับมอนสเตอร์ใต้ทะเลลึกที่รอจู่โจมเราอยู่จากความมืด

7. Lil Gator Game

เกมผจญภัย – จำลองชีวิต ที่ให้เรารับบทเป็นจระเข้ตัวเล็ก ณ เกาะสวรรค์แห่งหนึ่งที่เหงาจากการที่พี่ของตัวเองแยกย้ายไปเติบโตในโลกความเป็นผู้ใหญ่ แต่น้องชายคนเล็กยังคงคิดถึงเวลาสมัยเด็ก ผู้เล่นสามารถปีนเขา ว่ายน้ำ เดินป่า ขึ้นเครื่องร่อน โต้คลื่นก็ได้ ซึ่งเกาะจะเป็นฉากโอเพนเวิลด์กราฟิกสไตล์เซลเฉดน่ารัก และยังมี NPC เพื่อนร่วมชั้นเรียนมากมายทั้งเด็กเรียน เด็กเกเร หรือว่าเด็กกิจกรรม ว่าแล้วก็อย่าลืมไปพบปะกับพวกเขาเพื่อออกไปวิ่งเล่นด้วยกัน และยังมีเควสต์พิเศษด้วย

8. Party Animals

เกมตะลุมบอนสุดฮาตบตีกับเพื่อนด้วยอาวุธต่างๆ เช่นไม้เบสบอล อมยิ้ม หรือยิ่งไปกว่านั้นจะจับมือกับเพื่อนร่วมกันโยนมือที่สามลงจากเวทีก็ยังได้ พร้อมกันนี้ภายในฉากจะมีกับดักแปลกๆ หรือศัตรูที่เป็นเหมือนขนมเยลลี่ Gummy Bear ด้วย เรียกได้ว่าไม่ต้องมีเนื้อเรื่องอะไรก็สามารถกาวได้ไม่แพ้ Human Fall Flat ปัจจุบันเปิดให้เล่นผ่าน Game Pass ด้วย หัวร้อนกันได้ง่ายๆ เลยทั้งบน Xbox และ PC

9. Bomb Rush Cyberfunk

ผลงานของ Team Reptile และ Dion Koster ที่ให้เรารับบทเป็นเด็กวัยรุ่นผู้มาพร้อมกับรองเท้าสเก็ตหรือ Boostpacks ที่ทำให้พวกเขาเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ตัวละครของเราจะได้เดินทางไปในเมือง เล่นกีฬาผาดโผน ฉีดสเปรย์ พร้อมกับหนีตำรวจและต่อสู้กับแก๊งค์ฝ่ายตรงข้ามเพื่อยึดจุดต่างๆ ท่ามกลางงานภาพที่สวยงามฉีกแนวจากเกมอื่นๆ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Jet Set Radio ของ SEGA พร้อมธีมอนาคต

10. Teslagrad 2

เกมผจญภัยผสมผสานการแก้ปริศนาให้ผู้เล่นรับบทเป็นสาวน้อยชื่อ Lumina ที่ประสบอุบัติเหตุการณ์สุดน่ากลัวในดินแดนอันห่างไกลทำให้เธอต้องหาวิธีเอาตัวรอดและเดินทางผ่านหุบเขาและป่าใหญ่เพื่อกลับสู่บ้านของตัวเอง ทั้งนี้เส้นทางของเธอไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะจะต้องเจอกับศัตรูต่างๆ เช่นชาวไวกิ้งและสัตว์ประหลาดในตำนานนอร์สแต่เธอก็มีพลังติดตัวเป็นการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการฝ่าอุปสรรคต่างๆ ครับ

11. Sea of Stars

ผลงานที่ได้ชื่อว่าเป็นจดหมายรักสำหรับแฟนเกม JRPG ซึ่งจะมาพร้อมระบบ Turn-based RPG แบบคลาสสิกที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการผจญภัยเช่นเดียวกับเกมยุค 90 แต่ก็ยังมาพร้อมกับประสบการณ์ที่ทันสมัย ผู้เล่นจะต้องอาศัยจังหวะในการต่อสู้ให้ดี และสามารถจัดทีมรบกันได้สูงสุดถึง 6 คน นอกจากนั้นแล้วยังมีการใช้กราฟิกแบบ Pixel Art 16-bit เอาใจคอเกมเรโทรด้วยเช่นกัน ตัวเกมมีเนื้อหาเกี่ยวกับ Valere และ Zale สองยุวชนคนรุ่นใหม่ที่ต้องการฝึกฝนตัวเองเป็นนักรบ Solstice Warrior กองกำลังต่อต้าน Fleshmancer วายร้ายสุดอำมหิต 

12. BattleBit Remastered

ขาดไม่ได้จริงๆ กับเกมอินดี้ขโมยซีนประจำปีที่ทำยอดจำหน่ายทะลุล้านตั้งแต่ Early Access โดยเป็นผลงานเกมยิงปืนแบบ Voxel ที่พัฒนาด้วยทีมงานแค่ 4 คนเท่านั้น จุดเด่นคือการรองรับผู้เล่น 254 คนพร้อมกัน อีกทั้งเกมยังมาพร้อมกับแผนที่ที่สามารถทำลายสภาพแวดล้อมหรือจุดต่างๆ ได้ อีกทั้งยังมียานพาหนะน้ำ – บก – บิน และเมคานิกอื่นๆ อาทิการสร้างสิ่่งก่อสร้างเพื่อตั้งรับ ระบบเลือดไหล อาวุธหลักสิบแบบ และคลาสผู้เล่นที่ไม่เหมือนกัน แบ่งตามหน้าที่เช่นแพทย์สนามก็จะมีความสามารถในการฮีลเพื่อนได้

ทั้งหมดนี้ก็คือเกมอินดี้สุดโด่งดังประจำปีที่นำมาแบ่งปันกันซึ่งต้องบอกเลยว่ามีครบทุกแนวทั้งการผจญภัย แอ็กชัน สยองขวัญ และ FPS หากใครเป็นแฟนเกมทีมงานรายเล็กก็ไม่ควรพลาดด้วยเหตุใดทั้งปวง ส่วนใครที่มีเกมอื่นมาแนะนำก็สามารถแบ่งปันกันได้เพื่อที่ทุกคนจะได้มีเกมใหม่ๆ มาเล่นกันส่งท้ายปี สุดท้ายนี้ ThisIsGame Thailand ก็ขอให้ทุกคนใช้เวลาผ่อนคลายกันอย่างสนุกสนาน สุขภาพแข็งแรงเพื่อที่จะได้มาเล่นเกมกันต่อในปีหน้าเช่นเคยครับ

อย่าลืม! กด Subscribe และกดกระดิ่ง ที่

>> เข้ากลุ่มคนไทยพูดคุยเกี่ยวกับ <<