สกู๊ปพิเศษ

10 เกมน่าลองที่จะดูดเวลาชีวิตคุณเกิน 100 ชั่วโมง!

ใครที่มีเวลาก็มาเลย!

วิดีโอเกมที่พาผู้เล่นไปสู่การเดินทางที่กว้างใหญ่นั้นมีความพิเศษ เกมเหล่านี้ดึงดูดความสนใจของผู้เล่นและทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของโลกเสมือนจริง ผู้เล่นสามารถใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ในการสำรวจทุกซอกทุกมุมและทำภารกิจให้สำเร็จ พร้อมกับเนื้อเรื่องที่เข้มข้นทำให้เกมเหล่านี้มักจะพาผู้เล่นดำดิ่งไปในโลกใบนั้นยาวนานกว่า 100 ชั่วโมง และในวันนี้เราจะพาทุกคนมาพบกับ 10 เกมน่าลองที่จะดูดเวลาชีวิตคุณเกิน 100 ชั่วโมง ที่หากใครคิดว่าตัวเองมีเวลามากพอก็มาได้เลย!

1. Death Stranding: Director’s Cut

image 7768

Death Stranding ของ Kojima Productions เป็นเกมที่ไม่เหมือนใคร เกมเพลย์ที่เน้นการขนส่งพัสดุในสภาพแวดล้อมหลังหายนะอาจไม่เหมาะกับทุกคน แต่สำหรับคนที่ชอบเกมนี้ รับรองว่าคุ้มค่าแก่การใช้เวลาเล่นอย่างเต็มที่ เนื้อเรื่องหลักของเกมพาผู้เล่นไปสู่การเดินทางที่ยาวนานข้ามภูมิประเทศต่าง ๆ ในขณะที่ผู้เล่นส่งมอบพัสดุไปยังเป้าหมายต่าง ๆ แต่แกนหลักของเกมคือการเชื่อมต่อชุมชนที่สูญหายกลับคืนมาและสร้างโลกที่ทุกคนมีส่วนร่วม ผู้เล่นสามารถร่วมกันสร้างสะพาน ถนน และระบบรอกซิปไลน์ เพื่อสร้างโลกที่เชื่อมต่อกัน และเกมเวอร์ชั่น Director’s Cut คือเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดในการเล่นเกมนี้

2. Elden Ring

image 7769

Elden Ring เป็นเกมที่พาผู้เล่นไปสู่การเดินทางที่น่าจดจำ เกมเต็มไปด้วยความท้าทายมากมาย เช่น เควส ไอเทม และบอสที่แสนโหดเหี้ยม ผู้ที่ต้องการเล่นให้จบจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 50 ชั่วโมง (ไม่นับเวลาที่ผู้เล่นตายซ้ำตายซาก) หากต้องการสำรวจเกมอย่างละเอียด ผู้เล่นอาจใช้เวลาถึง 100 ชั่วโมง และหากต้องการสร้างตัวละครที่หลากหลายหรือเล่นซ้ำในภายหลัง ผู้เล่นอาจใช้เวลาสองเท่าหรือสามเท่าในการเล่น Elden Ring ทำให้เกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่ผู้เล่นสายโดนดูดวิญญาณไม่ควรพลาด

3. Baldur’s Gate 3

image 7770

Baldur’s Gate 3 เป็นเกม RPG จากผู้พัฒนาที่ชื่อว่า Larian เกมนี้เต็มไปด้วยเนื้อหามากมาย เช่น ภารกิจหลักที่มีความยาว เนื้อเรื่องจะครอบคลุมทั่วทั้ง 3 องก์ ในแต่ละองก์ผู้เล่นจะได้พบกับเรื่องราวที่น่าสนใจ กลไกการเล่นเกมที่น่าสนใจ และภารกิจย่อยที่เยอะมาก ๆ โดยเกมนี้ใช้เวลานานมาก ๆ เพราะการเล่นเกมให้จบโดยไม่ทำภารกิจย่อย ก็อาจใช้เวลา 60 ถึง 70 ชั่วโมง แต่ถ้าต้องการใช้เวลาดื่มด่ำกับประสบการณ์และการสำรวจอย่างละเอียด ผู้เล่นอาจใช้เวลามากกว่า 100 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น

4. Cyberpunk 2077

image 7771

Cyberpunk 2077 ได้รับการปรับปรุงอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัว และอัปเดต 2.0 ได้ทำให้เกมนี้กลายเป็นเกม RPG ที่ยอดเยี่ยมพร้อมโลกที่สมจริงและเนื้อหามากมาย เควสเสริมของเกมเขียนออกมาได้ดี มีตัวละครที่น่าจดจำ และรางวัลที่คุ้มค่า ผู้เล่นยังสามารถเข้าร่วมในการแข่งรถบนถนน ฝึกฝนการต่อสู้ และรวบรวมอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งหากผู้เล่นต้องการทำทุกอย่างที่เกมมีให้ ก็สามารถใช้เวลาเล่นได้มากกว่า 100 ชั่วโมง และยังมีฉากจบมากมายให้เลือก ซึ่งจะทำให้เกมนี้น่าหลงใหลยิ่งขึ้นไปอีก

5. The Legend of Zelda: Tears of the Kingdom

image 7772

The Legend of Zelda: Tears of the Kingdom พัฒนาต่อยอดจาก Breath of the Wild ในทุกด้าน ผู้เล่นจะได้กลับมายังไฮรูล แต่แผนที่ส่วนใหญ่ได้รับการเปลี่ยนแปลง ทำให้การสำรวจโลกกว้างใหญ่นี้สนุกสนานยิ่งขึ้น ผู้เล่นจะได้สำรวจเกาะลอยฟ้าหลายเกาะและอาณาจักรใต้ดินอีกมากมาย ซึ่งเต็มไปด้วยการเผชิญหน้าที่น่าสนใจจำนวนมาก อีกทั้งเกมนี้ยังมาพร้อมกับระบบการประดิษฐ์ใหม่ที่น่าสนุกสุด ๆ ทำให้การเล่นเกมนี้ให้จบนั้นใช้เวลามากพอสมควรเลยทีเดียว

6. Starfield

image 7774

Starfield เป็นเกม RPG อวกาศขนาดใหญ่จาก Bethesda โดยเกมนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สำรวจโลกกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจให้ทำและสถานที่ให้สำรวจ แม้ว่าบางดาวเคราะห์จะไม่มีเควสมากมาย แต่เควสที่มีจะมาพร้อมกับเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมและผลลัพธ์ที่หลากหลายตามการเลือกของคุณ นอกจากนี้ด้วยระบบการตั้งถิ่นฐานใหม่และความสามารถในการสร้างยานอวกาศ จึงมีสิ่งใหม่ ๆ มากมายที่จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินเป็นเวลานาน

7. Horizon Forbidden West

image 7775

Horizon Forbidden West ให้ผู้เล่นสวมบทบาทเป็น Aloy ออกเดินทางไปต่อสู้กับ Blight ลึกลับที่กำลังทำลายล้างดินแดน การเดินทางเต็มไปด้วยการต่อสู้อันดุเดือดและภาพที่สวยงามในยุคหลังโลกล่มสลาย เกมนี้ยังเป็นประสบการณ์ที่กว้างใหญ่พร้อมกิจกรรมเสริมมากมายที่จะทำให้เกมไม่ซ้ำซาก อีกทั้ง Expansion อย่าง Burning Shores ยังช่วยขยายเวลาในการเล่นให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย

8. Hogwarts Legacy

image 7776

Hogwarts Legacy เป็นเกม RPG ในโลกแห่งเวทมนตร์ ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นนักเรียนในโรงเรียนฮอกวอตส์ และออกสำรวจโลกเวทมนตร์ เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของฮอกวอตส์ และไขความลับที่ซ่อนอยู่ และก็ต้องบอกเลยว่าเกมนี้มีคอนเทนต์ให้ได้ใช้งานมากมาย ตั้งแต่ภารกิจหลักไปจนถึงภารกิจรองและกิจกรรมต่าง ๆ การทำให้ภารกิจสำเร็จอาจใช้เวลาตั้งแต่ 50 ถึง 100 ชั่วโมงเลยทีเดียว

9. Ghost of Tsushima: Director’s Cut

image 7777

Ghost of Tsushima เป็นเกมแอ็กชั่นโอเพ่นเวิลด์ที่ผู้เล่นรับบทเป็น Jin Sakai ซามูไรที่ต้องต่อสู้เพื่อปลดปล่อยเกาะ Tsushima จากผู้รุกรานชาวมองโกล เกมนี้มีฉากหลังเป็นญี่ปุ่นโบราณ ผู้เล่นจะได้สำรวจโลกกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยสถานที่ที่สวยงาม รวมถึงภูเขา วัด และทุ่งดอกไม้ ผู้เล่นสามารถทำภารกิจเสริม เก็บไอเทม และต่อสู้กับศัตรูได้มากมาย โดยเกมมีเนื้อหามากมายให้เล่น และ Director’s Cut จะเพิ่มเนื้อหาใหม่ ๆ เข้าไปอีก ทำให้เกมมีความยาวมากขึ้น ผู้เล่นสามารถใช้เวลาเล่นเกมนี้ตั้งแต่ 50 ถึง 100 ชั่วโมง

10. Dying Light 2: Stay Human

image 7779

Dying Light 2: Stay Human เป็นภาคต่อที่คุ้มค่าจาก Techland แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องบางอย่าง แต่เกมเพลย์ก็สนุกสนาน โดยเรื่องราวภายในเกมนี้เกิดขึ้นที่เมือง Villedor โดยขยายแนวคิดจากภาคดั้งเดิมด้วยทักษะและความสามารถใหม่ ๆ มากมาย ผู้เล่นสามารถใช้ทักษะเหล่านี้เพื่อสำรวจพื้นที่อันกว้างใหญ่ได้อย่างสนุกสนาน เนื้อเรื่องหลักจะใช้เวลาประมาณ 30 ถึง 40 ชั่วโมงจึงจะเสร็จสมบูรณ์ แต่หากผู้เล่นต้องการสำรวจทุกซอกทุกมุมและทำภารกิจเสริมทั้งหมด เกมจะใช้เวลามากกว่า 100 ชั่วโมง เลยทีเดียว

และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 เกมน่าลองที่จะดูดเวลาชีวิตคุณเกิน 100 ชั่วโมง หากผู้อ่านคนใดมีเกมแนะนำเพิ่มเติมก็สามารถคอมเมนต์พูดคุย แนะนำกันเข้ามาได้เลยนะครับ

ที่มา
Gamingbolt

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button