Square Enix ประกาศเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การวางจำหน่ายเกมครั้งใหญ่ โดยจะหันมาเน้นการนำเกมไปวางจำหน่ายบนหลายแพลตฟอร์มมากขึ้น แทนที่จะจำกัดอยู่แค่ PlayStation เหมือนที่ผ่านมา
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เกมอย่าง Final Fantasy XVI และ Final Fantasy VII Rebirth ไม่สามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ บริษัทจึงมองเห็นว่าการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกคนเข้าถึงเกมได้ง่ายขึ้น จะเป็นการเพิ่มยอดขายและฐานผู้เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Square Enix เปลี่ยนทิศทาง: เปิดเกมให้เล่นได้ทุกเครื่อง
“เราจะเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์ Multiplatform” บริษัทกล่าว “เราจะสร้างสภาพแวดล้อมระดับโลกที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเพลิดเพลินกับแฟรนไชส์หลักและเกม AAA ของบริษัทได้อย่างทั่วถึง” ซึ่งจากการระบของบริษัทนี้สามารถเข้าใจได้ว่าเราอาจจะได้เห็นเกมใหม่ ๆ ของ Square Enix วางจำหน่ายบนหลายแพลตฟอร์มตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่จำเป็นต้องรอให้เกมเป็น Exclusive บน PlayStation อีกต่อไป
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Final Fantasy XVI ที่เพิ่งเปิดตัวบน PC ไปได้ไม่นาน และมีข่าวลือว่าอาจจะมาลงบน Xbox Series X/S ในอนาคต นอกจากนี้ ผู้เล่น Xbox ยังคงมีความคาดหวังว่าจะได้เล่น Final Fantasy VII Remake และภาคต่อบนเครื่องของตัวเองด้วย
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นการตอบรับความต้องการของผู้เล่นทั่วโลก ที่อยากจะได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมจาก Square Enix อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะใช้เครื่องเล่นเกมชนิดใดก็ตาม ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ทำให้ผู้เล่นได้เข้าถึงเกมของพวกเขาง่ายขึ้น และเราอาจจะได้เห็นเกมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจจากค่ายนี้วางจำหน่ายบนหลายแพลตฟอร์มมากขึ้นในอนาคต
Final Fantasy VII Rebirth เกมภาคต่อของ Final Fantasy VII Remake วางจำหน่ายแล้วบน PlayStation 5 ผู้เล่นจะได้ติดตามการผจญภัยของ Cloud และผองเพื่อนเพื่อตามล่า Sephiroth บนแผนที่ที่มีสเกลใหญ่ขึ้น พร้อมสำรวจประวัติเบื้องหลังของตัวละครต่าง ๆ เกมมีทั้งหมด 2 แผ่น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะว่าการผจญภัยในครั้งนี้จะยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน!