
Square Enix หนึ่งในค่ายเกมยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น เตรียมพลิกโฉมธุรกิจครั้งใหญ่ด้วยแผนการ “Reboot 3 ปี” ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเกมให้หลากหลายแพลตฟอร์มมากขึ้น พร้อมปรับโครงสร้างภายในองค์กร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตในระยะยาว
Square Enix ตั้งแผนกวิจัย AI

จากรายงานผลประกอบการล่าสุด Square Enix ได้เผยแผนยุทธศาสตร์ธุรกิจในระยะกลาง โดยหนึ่งในแผนหลักคือการตั้งแผนกวิจัยและพัฒนา (R&D) ใหม่ ที่จะเน้นการสร้างเครื่องมือพัฒนาเกมด้วยเทคโนโลยี AI รวมถึงการจัดการโครงการเกมในอนาคตให้อยู่ภายใต้การบริหารของทีมกลางเพียงหนึ่งเดียว
ในด้านของกระบวนการพัฒนาเกม Square Enix ได้ปรับระบบใหม่ให้แต่ละสตูดิโอสามารถจัดการพัฒนาเกมขนาดใหญ่และประเภทต่าง ๆ ได้อย่างอิสระแต่ยังคงอยู่ภายใต้การบริหารแฟรนไชส์หลัก เช่น ทีมหนึ่งพัฒนาเกมคอนโซล อีกทีมดูแลเกม MMO และอีกทีมเน้นมือถือ ซึ่งช่วยให้การวางแผนและกระจายทรัพยากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทเริ่มเข้มงวดในการคัดเลือกโครงการที่จะเดินหน้าพัฒนา หากโครงการใดไม่ก้าวหน้าเพียงพอ ก็จะถูกยกเลิกเพื่อจัดสรรทรัพยากรให้กับโปรเจกต์ที่มีศักยภาพมากกว่า
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการยืนยันว่าจะมุ่งเน้นวางจำหน่ายเกมในรูปแบบ “มัลติแพลตฟอร์ม” แทนการลงเฉพาะแพลตฟอร์มเดียวก่อน เช่นที่เคยเกิดขึ้นกับ Final Fantasy VII Rebirth ที่เปิดตัวบน PS5 ก่อนจะมาลง PC ตามหลัง ซึ่งแนวทางใหม่นี้เริ่มเห็นผลแล้วจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของเกมที่เปิดให้เล่นได้หลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน
สำหรับตัวเลขคาดการณ์ทางการเงินในปีงบประมาณหน้า บริษัทตั้งเป้ารายได้จากการดำเนินงานที่ 41,000 ล้านเยน หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 9,348,000 บาท แม้จะคาดว่ายอดขายรวมจะลดลงจาก 324,500 ล้านเยน (ประมาณ 73,984,572 บาท) เหลือ 280,000 ล้านเยน (ประมาณ 63,838,768 บาท) แต่กำไรจากการดำเนินงานกลับคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 24,400 ล้านเยน (ประมาณ 5,562,499 บาท) เป็น 28,700 ล้านเยนหรือตีเป็นเงินไทยที่ประมาณ 6,542,256 บาท
ในส่วนของการบริหาร มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดย Naoki Yoshida โปรดิวเซอร์ของ Final Fantasy XIV ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท โดยให้เหตุผลว่าอยากกลับไปโฟกัสกับการพัฒนาเกมมากกว่า “การนั่งประชุมในบอร์ด”
ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามข่าวทั้งหมดของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<