นักวิเคราะห์คาดว่า Nintendo มีสิทธิบัตรมากมายที่สามารถฟ้องร้องเกมอื่นๆ ได้นับไม่ถ้วนตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่บริษัทกำลังมุ่งเป้าไปที่ Palworld ในตอนนี้เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับ Pokemon มากเกินไป
ในการให้สัมภาษณ์กับ Gamesradar+ นักวิเคราะห์ Serkan Toto อธิบายว่า Nintendo เคยฟ้องร้อง Colopl บริษัทเกมมือถือยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นในปี 2017 ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรที่คล้ายคลึงกัน และในที่สุดก็ชนะคดีและได้รับเงิน 3 พันล้านเยน (ประมาณ 21 ล้านดอลลาร์) บวกกับค่าลิขสิทธิ์ที่ยังคงได้รับมาจนถึงทุกวันนี้ “ใช้เวลาสี่ปีและในที่สุดก็จบที่การตกลงกันภายใน และ Nintendo ชนะ และพวกเขาฟ้องร้องในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรถึง 6 ฉบับ” Toto กล่าว
สัปดาห์ที่ผ่านมา Nintendo ประกาศว่าได้ยื่นฟ้อง Palworld ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตร ไม่ใช่การละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอาจจะ “ยอมแพ้” ในการโต้แย้งว่าตัวละคร Pals มีลักษณะที่เหมือน Pokemon มากเกินไป แม้ว่ารายละเอียดของคดีจะยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่การมุ่งเน้นไปที่สิทธิบัตรอาจบ่งชี้ว่ากลไกบางอย่างของเกม Palworld (ตามที่ทีมกฎหมายของ Nintendo ระบุ) อยู่ภายใต้กรรมสิทธิ์ของ Nintendo ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
“พวกเขามีสิทธิบัตรเกี่ยวกับมุมมองแบบ Isometric และเมื่อตัวละครถูกบดบังด้วยต้นไม้ ตัวละครนั้นยังคงสามารถมองเห็นเป็นเงาได้” Toto กล่าว “สิ่งนี้มีอยู่ในเกือบทุกเกม ซึ่งพวกเขามีความต้องการที่จะขัดขวาง Colopl ในปี 2017 และได้จดสิทธิบัตรเหล่านี้ขึ้นมา” รายการสิทธิบัตรที่ครอบคลุมของ Nintendo หมายความว่าพวกเขา “น่าจะสามารถฟ้องร้องครึ่งหนึ่งของอุตสาหกรรมเกมได้ตั้งแต่ปี 2017” ตามที่ Toto กล่าว
เราไม่ทราบว่าคดี Palworld จะไปเกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรใดบ้าง แต่ก็อาจไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ชัดเจนเหมือนสิทธิบัตร Pokeball ที่มีการพูดถึงกัน มันอาจเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น เงาของตัวละครที่อยู่นอกมุมมองการมองเห็นก็ได้
“พวกเขามีสิทธิบัตรหลายพันรายการเกี่ยวกับองค์ประกอบต่างๆ ของเกม” Toto กล่าวต่อ “และพวกเขาสามารถตัดสินใจได้ว่าเมื่อใดที่พวกเขาต้องการจะฟ้องร้อง และเมื่อใดที่พวกเขาไม่ต้องการจะฟ้องร้อง”
Palworld ประสบความสำเร็จอย่างมากและมียอดขายหลายสิบล้านชุดในช่วงหลายเดือนนับตั้งแต่เปิดตัว ดังนั้นทำไม Nintendo จึงเลือกช่วงเวลานี้ในการดำเนินการทางกฎหมาย? Toto คาดการณ์ว่า “Nintendo รู้สึกถูกคุกคาม” เนื่องจาก Palworld เริ่มขยายไปสู่การวางจำหน่ายบนหลายแพลตฟอร์ม อนิเมะ และสินค้าของ Pals ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ The Pokemon Company มักจะทำเงินได้หลายพันล้าน