กลุ่มผู้เล่น World First ในเกม FINAL FANTASY XIV โดนจับได้ว่าโกงเพราะ “จุดพิกเซลเดียว”
น่าเป็นห่วง เพราะนี่นับเป็นการแข่งขัน World First ที่มีการโกงเกิดขึ้นมา 3 ครั้งต่อเนื่องแล้ว

เป็นอีกครั้งที่การแข่งขัน World First เพื่อเอาชนะ Raid ระดับ Ultimate ที่ยากที่สุดในเกม FINAL FANTASY XIV ต้องมีจุดด่างพร้อยเพราะการโกง ซึ่งถูกจับได้เนื่องจาก “จุดพิกเซลเดียว” ในภาพที่เจ้าตัวเองถ่ายอวดลงโซเชียลมีเดีย
Raid ระดับ Ultimate เป็นการต่อสู้ที่ได้ชื่อว่ายากที่สุดในเกม MMORPG สัญชาติญี่ปุ่นนี้ โดยมีผู้เล่นหลายกลุ่มก้อนที่แข่งขันกันเพื่อเป็นคนกลุ่มแรกที่จะเอาชนะการต่อสู้นี้ให้ได้ โดยในแพตช์ 7.1 ที่เพิ่งเปิดตัวได้เพิ่ม Ultimate Raid ใหม่ชื่อว่า Futures Rewritten ซึ่งคนในคอมมูนิตี้ของเกมก็มีการจัดการแข่งขันกันเองตามปกติ แต่แล้วนี่ก็เป็นครั้งที่สามติดต่อกันที่การแข่งขันต้องได้รับผลกระทบจากการโกงเกม
ตัวของทีมที่ชนะในทีแรกนั้นคือทีม GRIND โดยที่ Frosty ผู้จัดรายการ MogTalk และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมจัดการแข่งขัน World Race ได้แชร์เข้าสู่หน้าทวิตเตอร์ของตัวเอง แต่ในไม่ช้าก็ปรากฎว่าทีมดังกล่าวใช้โปรแกรมโกง ซึ่งผู้สังเกตเห็นได้จากจุดพิกเซลสีแดงจุดเดียวบนภาพเท่านั้นเอง
The memes are already rolling in
byu/crotton989 inffxiv
พิกเซลสีแดงเจ้าปัญหานั้นสามารถบ่งบอกได้ว่าผู้เล่นมีการการใช้งานปลั๊กอินเสริมชื่อว่า Pixel Perfect Plus ซึ่งจะแสดง hitbox ที่แม่นยำของตัวละครในเกม ซึ่งสิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อต้องหลบการโจมตี AoE ใน Ultimate Raid ที่มีการโจมตีจำนวนมากทั่วสนามรบทำให้ความยากในการเล่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ซึ่งแน่นอนว่าปลั๊กอินในลักษณะนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ในเกม FINAL FANTASY XIV และด้วยเหตุนี้ Frosty จึงตัดสิทธิ์ GRIND ออกจากการเป็นผู้ชนะ World Race
“ผมให้ทีมของเราค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องปลั๊กอินที่ทีม GRIND ใช้โดยละเอียด รวมถึงความสามารถของมัน ซึ่งทำให้เราต้องขอตัดสิทธิ์พวกเขาออกจากลีดเดอร์บอร์ดของ MogTalk” Frosty เขียนบน X ในขณะที่ทีม GRIND คนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เจ้าของภาพดังกล่าวก็ประกาศออกมาว่าไม่ได้อนุมัติให้สมาชิกคนนี้ใช้ปลั๊กอินและไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่เขาทำ
ในท้ายที่สุดก็เป็นทีม Kindred ที่ได้เอาชนะการแข่งขัน World First ของ Raid ระดับ Ultimate ตัวล่าสุดอย่าง Future Rewritten แต่อย่างไรก็ตาม Frosty ได้ตั้งข้อสังเกตว่าจะต้องมีการถกเถียงกันถึงการแข่งขันนี้แน่นอน เพราะกลุ่มผู้เล่นที่อยากลงแข่งด้วยแต่ไม่อยากสตรีมการเล่นของตัวเองก็มีเช่นกัน แต่แน่นอนว่ามันทำให้การตรวจสอบคนโกงเกมทำได้ยากขึ้นไปด้วย
ประเด็นที่ควรต้องใส่ใจคือ นี่เป็นการแข่งขัน Ultimate Raid ครั้งที่สามติดต่อกันที่มีคนถูกจับได้ว่าโกงการแข่งขัน World First Clear ทั้ง The Omega Protocol เมื่อปีที่แล้วรวมถึง Dragonsong’s Reprise ที่ย้อนไปก่อนหน้านั้นอีก ก็เกิดเรื่องราวที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือคนที่ประกาศว่าตัวเองผ่านได้เป็นคนแรกของเกมนั้น จริงๆ แล้วใช้โปรแกรมโกงเกม

ซึ่งหลังจากการแข่งขันทั้งสองครั้งที่กล่าวถึงไป Naoki Yoshida ผู้อำนวยการและโปรดิวเซอร์ของเกม ก็ได้แสดงความผิดหวังต่อการใช้ม็อดหรือโปรแกรมโกงในลักษณะนี้ไว้ด้วยเมื่อครั้งที่มีคนถูกจับได้ในการเอาชนะ The Omega Protocol ไว้ดังนี้
“ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่เห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน เครื่องมือเสริม หรือโปรแกรมช่วยเล่น หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Dragonsong’s Reprise (Ultimate) ในฐานะบุคคลที่ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลเกม FINAL FANTASY XIV นี่เป็นความรับผิดชอบของผมที่จะต้องใช้มาตรการตอบโต้และควบคุมการใช้เครื่องมือเหล่านี้ รวมถึงให้ความรู้แก่ผู้คนไม่ให้ใช้โปรแกรมโกงประเภทนี้ นี่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่งโดยเฉพาะเมื่อตัวผมเองก็เป็นเกมเมอร์ เป็นคนที่กำลังเอาใจช่วยผู้เล่นทุกคนที่กำลังเรียนรู้การต่อสู้นี้ด้วยการลองผิดลองถูกและพยายามเคลียร์ด้วยตัวเอง”
ย้อนกลับไปในปี 2022 ทางคุณ Yoshida กล่าวว่าทีม FINAL FANTASY XIV จะ “ตรวจสอบเครื่องมือช่วยเล่นเหล่านี้ และป้องกันไม่ให้มีการใช้งานมัน ด้วยการพยายามปรับปรุงการทำงานของ HUD ให้ดีขึ้น” แต่สองปีต่อมาการใช้เครื่องมือเหล่านี้ก็ยังคงมีอยู่ต่อไป